Previous slide
Next slide
Categories
ARTICLE

byd seal รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตซีดานสุดหรู ดีไซน์แบบคูล ๆ ตอบโจทย์การใช้งานที่ล้ำสมัย 

byd seal 2024
byd seal 2024

byd seal รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตซีดานสุดหรู ดีไซน์แบบคูล ๆ ตอบโจทย์การใช้งานที่ล้ำสมัย

ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าถือว่าได้รับความนิยมมากพอสมควร และหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรงก็คือ byd seal ต้องบอกว่าเป็นรถรุ่นน้องใหม่ที่น่าจับตามองมากเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นรถเก๋งดีไซน์หรูจากค่าย BYD เรียกว่าเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 จากจีน และถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยชื่อชั้นที่ไม่ธรรมดา บวกกับสเปคต่าง ๆ ของตัวรถรุ่นดังกล่าว จึงทำให้หลายคนเชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้อาจเกิดมาคุมกำเนิดรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง Tesla วันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับรถคันนี้กัน มาดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

ทำความรู้จักรถยนต์ไฟฟ้า byd seal ซีดานสุดหรู คู่ควรกับคนยุคใหม่

ต้องบอกว่า byd seal เป็นอีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับจองเป็นอย่างมาก สำหรับ ชื่อเต็ม ของ BYD คือ “Build Your Dreams” สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์อนาคตให้ดีขึ้น และในรุ่น Seal นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเรียบหรูที่ผสานกับความล้ำแห่งอนาคต จึงทำให้ ดีไซน์ รถดูล้ำสมัย และเมื่อดูจาก สเปค แล้วต้องบอกว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับ Tesla Model 3 อยู่ไม่ใช่น้อย มาดูกันว่า byd seal ภายใน และภายนอกจะมีลักษณะเป็นอย่างไร รวมถึง การใช้งาน และ seal ราคา เริ่มต้นอยู่ที่เท่าไหร่ ตามมาดูกับ byd seal รีวิว กันได้เลย 

ดีไซน์ภายนอก

ก่อนจะไปดู byd seal ภายใน มาดู ดีไซน์ ภายนอกกันก่อนเลย การออกแบบภายนอก ของรถคันนี้จะเน้นความสปอร์ต มีความโฉบเฉี่ยว เรียกว่าเป็น ประเภทรถยนต์ ไฟฟ้าที่มีรูปลักษณ์แบบ X-Shaped Design ทำให้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มาพร้อมหลังคากระจกทอดยาวไปตลอดทั้งห้องโดยสาร byd seal 2023 มีชุดไฟหน้า LED แบบ Double-U Floating และในส่วนของเส้นสายบริเวณด้านข้างตัวรถจะดูเพรียวบาง นอกจากนี้ยังมีมือจับประตูที่ออกแบบได้อย่างราบเรียบ ส่วนหลังคาด้านท้ายมีลักษณะลาดเทตามสไตล์รถคูเป้ โดยรวมถือว่ามีความเท่และหรูหรามากเลยทีเดียว 

Build Your Dreams
Build Your Dreams

ภายในห้องโดยสาร

การออกแบบภายใน BYD Seal จะมาพร้อมดีไซน์หรูหรา byd seal รีวิว ภายในห้องโดยสารจะมาในโทนสีดำ ซึ่งมี จำนวนที่นั่ง ทั้งหมด 5 ที่นั่ง เบาะนั่งหุ้มหนังแบบ Courtesy ดีไซน์ทรงสปอร์ตสุดเท่ ดูมีความแข็งแรง เสริมด้วยระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งเบาะคนขับและเบาะนั่งคนขับแบบเลื่อนอัตโนมัติเวลาสตาร์ทรถ ต้องบอกว่า byd seal ภายใน นั้นจะมีเบาะคนขับที่ทันสมัยมากพอสมควร เราสามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง ในขณะที่เบาะฝั่งผู้โดยสารจะปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง นอกจากนี้ byd seal u ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ ที่ช่วยให้คนขับสะดวกสบายอีกด้วย 

interior design
interior design

เทคโนโลยีและฟังก์ชั่นการใช้งาน

byd seal 2024 มีเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นการใช้งานอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมเสียงและระบบ ความปลอดภัย ต่าง ๆ โดย byd seal รีวิว จะกล่าวถึงแบบคร่าว ๆ ซึ่งจะมีตั้งแต่ระบบระบายอากาศ, ระบบอุ่นเบาะ, ฟังก์ชั่นการควบคุมด้วยเสียง, ระบบเครื่องเสียง Premium Acoustics พร้อมชุดลำโพง 12 ตัว, ที่วางชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 2 ช่อง, ระบบกรอง PM 2.5, ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง, กล้องมองรอบคัน 360 องศา มีความคมชัดสูง และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแต่ละรุ่นของ byd seal ราคา เริ่มต้นจะแตกต่างกัน 

byd seal review
byd seal review

ด้านขุมพลัง

BYD SEAL รุ่น Dynamic ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าล้อหลัง ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.5 วินาที มาพร้อม แบตเตอรี่ Blade ขนาด 61.44 kWh สามารถชาร์จไฟวิ่งไกล 510 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ของ byd seal 2023
BYD SEAL รุ่น Premium RWD ระบบขับเคลื่อน มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ล้อหลัง byd seal 2024 ให้กำลัง 230 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ Blade ขนาด 82.56 kWh สามารถชาร์จไฟและวิ่งได้ไกลสูงสุด 650 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
BYD SEAL รุ่น Performance ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว คู่หน้าให้กำลัง 214 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตัน-เมตร และคู่หลังให้กำลัง 390 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตัน-เมตร โดยให้กำลังรวมอยู่ที่ 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 670 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที ขนาดแบตเตอรี่ Blade 82.56 kWh สามารถชาร์จไฟเต็มและวิ่งได้ไกลสูงสุด 580 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC byd seal u 

Exterior design
Exterior design

ราคาอย่างเป็นทางการ

BYD Seal มีอยู่ 3 รุ่นย่อย โดยแต่ละรุ่นจะมีสเปคแตกต่างกันออกไป ทำให้มี ราคาเริ่มต้น ไม่เท่ากัน แต่โดยรวมถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มี ราคาประหยัด อยู่พอสมควร เพราะเมื่อเราเอาสเปคของตัวรถทั้ง 3 รุ่นมาเทียบกับราคาแล้ว ต้องบอกว่า byd seal ราคา คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้อยู่ไม่น้อยเลย โดย byd seal 2023 มีราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ดังนี้
BYD Dynamic ราคา 1,325,000 บาท
BYD Premium ราคา 1,449,000 บาท
BYD Performance ราคา 1,599,000 บาท

Selling price
Selling price

บทสรุป byd seal มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร และตอบโจทย์การใช้งานแบบไหนบ้าง

byd seal 2024 มีอยู่ 3 รุ่นย่อยด้วยกัน คือ BYD Seal Dynamic, BYD Seal Premium และ BYD Seal Performance โดยแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกัน จึงอาจมี ข้อดี และ ข้อเสีย ไม่เหมือนกันนัก ทว่าโดยรวมแล้ว byd seal เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความหลากหลาย เพราะมีทั้งรุ่นที่เน้นการใช้งานและเน้นความเร็วแรง แต่จุดด้อยที่ควรพิจารณาคือระบบช่วยเหลือการขับขี่ เมื่อดูจาก byd seal รีวิว แล้ว ถือว่ายังเป็นรอง Tesla อยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานแบบเรียบง่ายและสายสปอร์ตได้เป็นอย่างดี

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

พบกับ มาสด้า bt50 กับความสำคัญต่อประเทศญี่ปุ่นที่หลายคนยังไม่รู้

มาสด้า bt50

      เวลาที่เราพูดถึงแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นก็คงจะหนีไม่พ้นกับยี่ห้อแบรนด์โตโยต้าหรือว่าฮอนด้าแต่มีอีกหนึ่งแบนด์ที่คงเอกลักษณ์ไว้เฉพาะตัวเพราะนอกจากดีไซน์รถที่สวยงามไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถกระบะแล้วภายในยังดูโฉบเฉี่ยวและมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นนั่นก็คือแบรนด์มาสด้า ที่ถูกพูดถึงเช่นเดียวกัน

มาสด้า bt50 กับประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่าจะเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก

      จากก้าวแรกเริ่มต้นความท้าทายครั้งสำคัญกับมาสด้าที่เกิดและเติบโตมาจากเมืองฮิโรชิมาที่แม้ว่าจะได้รับความสูญเสียอย่างสูงสุดในประวัติศาสตร์โลกแต่สี่เดือนให้หลังจากนั้นมาสด้ากลับมาผลิตรถยนต์ได้อีกครั้งโดยผลิตรถยนต์จนไกลเป็นผู้นำในครั้งนั้นและมีแบบรถยนต์เป็น  MONOZUKURI จนนำไปสู่เทคโนโลยีแบบสกายแอคทีฟและโคโดะ ดีไซน์ที่ปรากฏและมีรากฐานที่มั่นคงมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน

ยุคเริ่มต้นช่วงปีค.ศ. 1920 ถึง 1931 จากการผลิตจุกไม้ก๊อกสู่รถยนต์ 

      หนึ่งปี 1920 บริษัท Toyo Cork Kogyo ได้ถูกจัดตั้งขึ้นที่เมืองฮิโรชิมาประเทศญี่ปุ่นโดย มร. จูริโร มัทสึดะ เป็นผู้ก่อตั้งและจากชื่อของผู้ก่อตั้งบริษัทได้ทำการผลิตจุกไม้ก๊อกในไม่ช้าบริษัทก็ได้เริ่มทำการผลิตรถยนต์ในปี 1931 ชื่อว่ามาสด้า ได้ถือกำเนิดมาจากชื่อของ มร.มัทสึดะ โดยมีความหมายของความรู้อัญชันฉลาดของเทพเจ้าชาวเอเชียตะวันตกที่มีความผสมผสานและกลมกลืนกัน

ยุคแรกช่วงปีค.ศ. 1931 ถึง 1945 รถสามล้อและการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ 

       รถคันแรกที่มาสด้าผลิตขึ้นเป็นรถยนต์สามล้อที่มีมีชื่อว่า“ Green Panel “ ได้ส่งไปจำหน่ายที่ประเทศอินเดียและประเทศจีนได้รับความนิยมอย่างสูงๆ สุดในเรื่องของความสามารถในการควบคุมรถและนั่นก็คือตัวอย่างหนึ่งในการคิดต่างที่ไม่เหมือนใครด้วยทัศนคติที่ยึดมั่นมาตลอดว่าสามารถทำได้ปลูกฝังจากสปิริทของชาวฮิโรชิมาที่ต้องการเอาชนะความท้าทายและอุปสรรคต่างๆรวมถึงแสดงเอกลักษณ์และสปิริทของมาสด้าในปี 1945 ภายหลังจากการทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮีโร่ชมาแล้วมาสด้าคือผู้นำและศูนย์กลางในการก่อสร้างเมืองฮิโรชิมาขึ้นมาใหม่จากการเสียหายครั้งใหญ่จึงทำให้มีโรงงานของมาสด้าเป็นการบัญชาการและฟื้นก่อสร้างเมือง

จากรถสปอร์ตมาสด้า  คอสโม ศูนย์รถสปอร์ต มาสด้า RX-8เครื่องยนต์โรตารี่ 1961 

      เครื่องยนต์ที่ใช้นวัตกรรมทางวิศวะที่ไม่เหมือนใครและลูกสูบแบบหมุนที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกเกิดขึ้นจากการพัฒนาภายหลังจากเครื่องยนต์โรตารี่ถูกริเริ่มขึ้นโดย มร.เฟลิกซ์ แวนเคิ้ล โดยเป็นเครื่องยนต์ที่ห้องเผาไหม้มีการทำงานการหมุนของแผ่นดิสก์ที่มีความเรียบแทนที่การเคลื่อนที่ลงของลูกสูบมาสด้าได้รับลิขสิทธิ์ของเทคโนโลยีในช่วงท้ายทศวรรษ 1950 และเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเดียวของโลกที่ได้ใช้เครื่องยนต์โรตารี่เพิ่มเติมจากเครื่องยนต์ที่มีในตลาดทุกวันนี้เครื่องยนต์โรตารี่เป็นอุดมคติในรถยนต์ของรถสปอร์ตที่รถมาสด้าได้นำเอามาผลิตในรถยนต์มาสด้าคอสโม110S ครั้งแรกในโลกรถสปอร์ตแห่งตำนานมาสด้าได้ถูกนำมาใช้เป็นรถแข่งมาสด้า 787 ที่ชนะเลิศการแข่งขัน Le Mans ในปี 1991

รถสปอร์ตโรดสเตอร์แห่งตำนานได้กลับมาแล้ว รถมาสด้า  MX-5 1989

     ทศวรรษที่ 50 ถึง 60 เป็นช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองของโรดสเตอร์ ในประเทศอังกฤษนับตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมาความรุ่งเรืองเหล่านั้นก็ได้จางหายไปจนไม่มีผู้ใดผลิตคิดค้นโรสเตอร์ออกมาอีก จนกระทั่งมาสด้าได้ผลิตและคิดค้นพัฒนาอีกครั้งหนึ่งโดยมุ่งมั่นให้เป็นรถสปอร์ตที่มีความทันสมัยพร้อมกับมีความปลอดภัยมีความสนุกสนานในด้านการขับขี่ฉบับแบบรถสปอร์ตดั้งเดิม

Mazda  MX-5 มีน้ำหนักเพียง 955 กิโลกรัมเป็นรถสปอร์ตที่มีน้ำหนักเบาอย่างไม่น่าเชื่อวางเครื่องยนต์ที่ด้านหน้าและมีการขับเคลื่อนสมรรถนะที่ดีเยี่ยมเป็นการกำเนิดโรดสเตอร์ อีกครั้งให้ความสนุกการขับขี่เป็นอย่างมากสร้างความภูมิใจกับผู้ที่ได้ครอบครองจนทำให้มียอดการขายที่ดีที่สุดในโลกจนไม่มีใครเทียบเท่าได้

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่กับการแข่งขัน เลอ มังส์ LE Mans 1991 

      ไม่มีผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายใดที่สามารถเอาชนะการแข่งขัน Le Mans จนกระทั่งในปี 1991 เป็นปีที่มาสด้าได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการส่งรถมาสด้า 787 เครื่องยนต์โรตารี่ลงแข่งขันในรายการที่เก่าแก่ที่สุดและทรหดที่สุดด้วยการเป็นการแข่งขันที่ไม่มีวันหยุดพักตลอด 24 ชั่วโมงถึงแม้ว่ารถมาสด้า 787 จะมีกำลังไม่มากกว่ารถคู่แข่งแต่มีข้อได้เปรียบในเรื่องความน่าเชื่อถือและความทนทานโดยมาสด้าสามารถเป็นผู้นำและคว้าชัยชนะในการแข่งขันครั้งแรกในบริษัทจนถึงทุกวันนี้ซึ่งถือว่าเป็นรถญี่ปุ่นรายแรกและรายเดียวที่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์แบบเคลื่อนที่กลับไปกลับมาแต่ความสำเร็จเกิดมาจากความคิดต่างในยุคนั้น

ยุคของเจนเนอเรชั่น  zoom zoom  2002 ถึง 2010

    จากรถมาสด้า 6 ศูนย์มาสด้า RX-8 แนวการออกแบบและสื่อสารด้วยสโลแกนใหม่  “ zoom zoom “ คือการแสดงออกถึงความรู้สึกในการขับขี่ที่สนุกสนานแบบวัยเยาว์รวมทั้งได้ถูกถ่ายทอดการขับขี่เป็นรถยนต์ที่เปิดประสบการณ์ในการขับขี่ที่สนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจเป็นการออกแบบรถยนต์ที่มีความโดดเด่นในรถมาสด้า6 ในครั้งนั้นเป็นรุ่นแรกที่แสดงออกถึงแนวคิดดังกล่าวเมื่อได้เปิดตัวก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในปี 2002 ตามด้วยรถสปอร์ตในตำนานกับ Mazda Rx-8 ในปี 2003 เป็นรถที่ได้รับการตอบรับดีมากที่สุดและตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างแท้จริงมีการออกแบบให้มีประตูแบบฟรีสไตล์เพิ่มความเป็นอเนกประสงค์ในการใช้งาน และได้รับรางวัล International Engine of the Year และรางวัล Best New Engine 

การครบรอบ 90 ปีในปี 2010 

      การเผชิญความท้าทายถึง 90 ปีและความคิดต่างที่ทำให้มีแบรด์นรถยนต์จนถึงทุกวันนี้ เมื่อเรามองดูการผลิตรถยนต์มาสด้ามาตลอด 90 ปีจะเห็นถึงความคิดที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจนจนนำมาสู่การตื่นเต้นนวัตกรรมใหม่และการสร้างรถที่ให้การขับขี่ที่สนุกสนานสร้างสรรค์จากกลุ่มคนที่มีความหลงกับสิ่งที่ทำและเป็นรถสปอร์ต โรดสเตอร๋ ที่ขายดีที่สุด Mazda Mx-5 สู่รถ Mazda Cx-7 ที่โฉเจียมาสด้ายังคงมุ่งมั่นในการนำเอานวัตกรรมทางวิศวกรรมและสปิริทความท้าทายในความต้องการทำสิ่งที่ไม่เหมือนใครเพื่อสร้างมาตรฐานขึ้นใหม่ต่ออีก 90 ปีข้างหน้า

พร้อมกับได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่กับ มาสด้า bt50 รุ่นใหม่ 2021 ที่เป็นรถกระบะที่มีสมรรถนะที่ทรงพลังมีเครื่องยนต์ที่ดีเยี่ยมพร้อมฟันฝ่าอุปสรรคในทุกการขับขี่จนได้เป็นรถยนต์คู่ใจที่ดีที่สุดพร้อมมีรีวิวอย่างจัดเต็มบวกกับราคาที่แจ้งไว้อย่างชัดเจน

มาสด้า bt50

รีวิว ALL-NEW MAZDA BT50 รุ่นใหม่ 2021

       รถปิ๊กอัพเป็นรถที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานเป็นรถที่สามารถใช้ได้หลากหลายในชีวิตประจำวันไปจนถึงเชิงพาณิชย์หรือก็คือการทำมาค้าขายรถปิกอัพถูกผลิตให้ใช้งานได้หลากหลายประเภทโดยมีขนาดเครื่องยนต์และการขับเคลื่อนรวมถึงอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานโดยในวันนี้มาสด้าได้เปิดตัว มาสด้า บีที50 อัพรุ่นใหม่กับรุ่น มาสด้า bt50 โดยได้ผลิตออกมาหลายๆ รุ่นย่อย Mazda BT50 Pro เพื่อให้ ตอบโจทย์ การใช้งานที่มีรูปแบบหลากหลายของคนไทยเพิ่มเติมความโดดเด่นและ ดีไซน์ ให้ดูสง่างามมากยิ่งขึ้น

  • การออกแบบ

        สิ้นสุดการรอคอยโดยในครั้งนี้รถยนต์ มาสด้า bt50 ถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมดเป็นรถปิ๊กอัพเจนเนอเรชั่นใหม่อย่างแท้จริงโดยภายใต้แนวคิดจิตวิญญาณแห่งความเคลื่อนไหวเหมือนกับรถยนต์มาสด้าทุกรุ่นแต่เดิมที่หน้าตาจะแตกต่างกันออกไปแต่ตอนนี้เรียกว่าสามารถเป็นพี่น้องกันได้โดยอย่างแท้จริงแล้วโดยการออกแบบได้รับ แรงบันดาลใจมาจากสุนทรียภาพแบบญี่ปุ่นเรียบง่ายแต่มีความงดงามผสมผสานกับการออกแบบรูปทรงของรถที่สะท้อนความบึกบึนแข็งแกร่งทำให้รถยนต์ มาสด้า bt50 มีมิติอย่างลงตัวผู้ออกแบบของมาสด้าเข้าใจว่ารถปิกอัพไม่ได้ถูกเอามาใช้งานแค่เชิงพาณิชย์อย่างเดียวเท่านั้นแต่เป็นรถที่ใช้งานได้ทุกโอกาสเพื่อตอบสนองไร้สไตล์ให้เข้ากับปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคมจึงออกแบบมาให้ดูทันสมัยและสง่าเหมือนรถ SUV ราคาสูง

  • ขุมกำลัง

        กลุ่มกำลังรถในมาสด้า bt50 ประกอบด้วย เครื่องยนต์ ดีเซลสองขนาดที่สามารถเลือกใหม่เหมาะกับการขับขี่ได้อย่างลงตัวเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตรที่มีกำลังขนาดสูงสุดถึง 190 แรงม้าที่ให้สมรรถนะในการขับขี่อย่างทรงพลังตอบสนองดีเยี่ยมทุกรอบความเร็วและเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตรที่มีกำลังสูงสุด 150 แรงม้าให้แรงบิดสูงตั้งแต่รอบเครื่องต่ำและโดดเด่นด้วยอัตรากำลังประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุดในคลาสเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยิ่งไปกว่านั้นเครื่องยนต์ทั้ง 2 ขนาดยังสามารถรองรับน้ำมัน B20 ได้อีกด้วยเป็นทางเลือกที่มีความปลอดภัยและสะดวกสบาย

  • ความปลอดภัย 

       มาสด้า bt50 ได้รับการติดตั้งระบบเบรกแบบ ABS ระบบกระจายแรงเบรคแบบ EBD รวมทั้งระบบช่วยเบรคแบบ BA ถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อยทำให้สมรรถนะการขับขี่และความปลอดภัยมีความขบขันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นขับขี่ได้อย่างมั่นใจสำหรับผู้ที่เลือกซื้อต้องการ ความปลอดภัย ที่มากขึ้นก็สามารถขยับไปที่รุ่นย่อยที่เพียบพร้อมมากขึ้นโดยจะได้รับถุงลมนิรภัยถึงหกตำแหน่งระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลังรวมสูงสุดถึงแปดตำแหน่งกล้องมองหลังระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอัพสัญญาณขณะเปลี่ยนเลนส์ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอัพสายตาขณะถอยหลังในรุ่น 4×4 การขับเคลื่อนสี่ล้อจะมากับระบบ electronic diff – lock ที่ฟันเฟืองท้ายกล้าขับขี่ได้อย่างมั่นใจแบบออฟโรด

  • ระบบ Media ที่มาแบบจัดเต็ม 

      พบกับมาสด้า bt50 มีหน้าจอแสดงผลสัมผัสขนาด 9 นิ้วรองรับ การเชื่อมต่อ Apple Carplay และระบบ Andriod Auto พร้อมระบบเสียงรอบทิศทางด้วยลำโพงมากถึง 8 ตำแหน่งเพลิดเพลินได้ตลอดทุกการเดินทาง

รุ่นและราคา รถ มาสด้า bt50 ใหม่

“จำนวนรุ่นย่อย 14 รุ่น”

กระบะตัวเตี้ย

Mazda BT50 STD 1.9 E ____ 553,000 บาท

Mazda BT-50 FSC 1.9 C ____ 679,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 1.9 C ____ 771,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 1.9 S ____ 847,000 บาท

ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง หรือ 4 ล้อ ยกสูง

Mazda BT-50 FSC 1.9 C Hi-Racer _____ 714,000 บาท

Mazda BT-50 FSC 1.9 C Hi-Racer 6 AT__ 768,000 บาท

Mazda BT-50 FSC 1.9 S Hi-Racer _____ 787,000 บาท

Mazda BT-50 FSC 1.9 S Hi-Racer 6AT__ 832,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 1.9 S Hi-Racer _____ 891,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 1.9 S Hi-Racer 6AT__ 936,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 1.9 SP Hi-Racer ____ 1,012,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 1.9 SP Hi-Racer 6AT_ 1,070,000 บาท

ขับเคลื่อน 4 ล้อ

Mazda BT-50 DBL 4×4 3.0 SP_____ 1,118,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 4×4 3.0 SP 6 AT__1,153,000 บาท

บทสรุป มาสด้า bt50 กับการขับเคลื่อนและไม่ หยุดพัฒนาเพื่อรถยนต์ที่ดีที่สุดของทุกคน

        เป็นอย่างไรกันบ้างกับรถยนต์ Mazda BT50 2024 พร้อมประวัติความเป็นมากว่าจะเป็นมาสด้าจนถึงทุกวันนี้ที่ได้ฝ่าฟันอุปสรรคและเป็นผู้ก่อตั้งแม้จะเกิดสงครามโลกที่มีระเบิดลงที่ฮิโรชิม่าก็ตามแต่ก็ยังมีความคิดที่แตกต่าง สร้างโรงงานรถยนต์จนได้กลายเป็นผู้นำในด้านการผลิตยานยนต์ชั้นนำระดับโลก พร้อมกับเยี่ยวยาจิตใจของชาวญี่ปุ่นขึ้นมาใหม่ จนสุดท้ายได้เปิดตัวรถกระบะปิ๊กอัพสุดโฉบเฉี่ยวอย่างมาสด้า bt50 ที่คุณนั้นก็สามารถเป็นเจ้าของกันได้แล้วตั้งแต่ในวันนี้

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

พบกับ นักแข่ง F1 2024 ที่มีความโฉบเฉี่ยวมากที่สุด 

นักแข่ง F1 2024

        การแข่งขัน Formula One หรือ F1 ปี 2024 ใกล้เข้ามาแล้ว และแม้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ สำหรับนักแข่งในปีนี้ แต่มันเป็นเรื่องของทีมและฝ่ายบริหาร หลายทีมมีการเปลี่ยนแปลง มาดูกันว่าปีนี้จะมีอะไรบ้าง มาติดตามกันได้เลย

ทำความรู้จักกับ นักแข่ง F1 2024 พร้อมทีมสุดแข็งแกร่ง

       นักแข่ง F1 มีใครบ้าง ข้อมูล ทีมแข่ง นักแข่งในการแข่งขันรถสูตร 1 หรือ F1 จะมีนักแข่งในดวงใจของคุณผู้ชมหรือไม่ต้องมาติดตามรับชมกันได้เลย

ทีม Oracle Red Bull Racing

      นักแข่ง F1 2024 ทีมที่ก่อตั้งโดยแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังที่ไม่ได้สร้างขึ้นโดยบริษัทรถยนต์อย่าง Red Bull Racing ในอังกฤษ (แต่ Red Bull มีฐานอยู่ในออสเตรียและเรียกว่า Home Race) ซึ่งเคยแข่งขัน F1 มาตั้งแต่ปี 2005 และถูกซื้อจาก Ford บริษัท มอเตอร์ ก่อตั้งทีมชื่อ Jaguar Racing เครื่องยนต์ Cosworth ถูกใช้ในปีแรก เปลี่ยนไปใช้บริการของ Ferrari ในปีที่สอง แต่ในปีนี้มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพราะในปี 2550 ทีมงานเริ่มใช้เครื่องยนต์ Renault มาเป็นเวลา 12 ปี แต่แล้วจุดเปลี่ยนก็มาถึง เมื่อทีมงานตัดสินใจว่าเครื่องยนต์ของเรโนลต์ไม่ดีพอที่จะพาทีมคว้าแชมป์ได้ ดังนั้นจึงตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ฮอนด้าในฤดูกาล 2019 และ Red Bull Racing ออกสตาร์ทได้ย่ำแย่ในช่วง 4 ปีแรกของการแข่งขัน โดยส่วนใหญ่ทีมยังรั้งท้ายกลุ่ม แต่ในปี 2009 เมื่อนักแข่งอย่าง Sebastian Vettel เข้าร่วมทีมและผนึกกำลังกับคนอย่าง Mark Webber เมื่อนักแข่งหมายเลข 1 รวมทีม ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป

นักแข่ง

นักแข่ง F1 2024

Max Verstappen

        นักแข่ง F1 2024 นักแข่งรถชาวดัตช์วัย 26 ปี เริ่มต้นอาชีพกับทีมเร้ดบูลเรซซิ่งเมื่อเขาเข้าร่วมทีมเรดบูลจูเนียร์ในปี 2014 แต่เมื่อโทโร รอสโซ่ ซึ่งเป็นทีมน้องสาวของเรดบูลประกาศว่าเขาจะมาเป็นทีมของทีม เดิมเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น F1 ระหว่างฤดูกาล 2015 ในฐานะนักแข่ง ในปี 2015 เขาขับรถเคียงข้าง Carlos Sainz Jr. แทนที่ Daniil Kvyat (Daniil Kvyat) ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นนักขับของทีมใหญ่อย่าง Red Bull Racing ทำให้เขา นักแข่ง F1 ที่อายุน้อยที่สุดในทันทีด้วยวัย 17 ปี 166 วัน แต่น่าเสียดายที่เครื่องยนต์พังก่อน ในที่สุดเขาก็จบอันดับที่ 7 โดยกลายเป็นนักแข่งที่อายุน้อยที่สุด ก่อนที่จะทำคะแนนแรกในมาเลเซีย เขาจบปีแรกด้วยอันดับที่ 12 ด้วยคะแนน 49 คะแนน และปี 2559 ก็เป็นปีที่เปลี่ยนชีวิตเขาทันที หลังจากการแข่งขันเพียง 5 ครั้ง Red Bull ก็สลับตำแหน่งระหว่างเขากับ Daniil Kvyat ทำให้ Verstappen มีโอกาสลงแข่งเคียงข้างหมายเลข 1 Daniel Ricciardo ซึ่งเป็นความช่วยเหลือที่เขาตอบแทนทันที คว้าแชมป์ Spanish Grand Prix ทันทีหลังจากการปรากฏตัวครั้งแรก ในปี 2017 เขาประสบปัญหาเครื่องยนต์ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถเข้าเส้นชัยสี่รายการจาก 14 การแข่งขันแรก และประสบอุบัติเหตุในสามการแข่งขันแรก ส่งผลให้ไม่มีคะแนน แต่เขาก็ยังคว้าแชมป์มาได้ 2 รายการ จบฤดูกาลด้วยคะแนน 168 แต้ม และอันดับที่ 6 ของประเภทนักแข่ง จนกระทั่งปี 2018 ที่เขาเริ่มฉายแววมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการเป็นมือรองกับ Daniel Ricciardo อีกต่อไป ซึ่งเห็นได้จากความดุร้ายของเขาในสนาม ปฏิเสธที่จะทำตามแผนของทีมที่ให้ Ricciardo มาเป็นอันดับหนึ่งทีมมักจะเข้าข้าง Verstappen เนื่องจากเชื่อว่าเขาเป็นอนาคตของทีมและน่าจะสามารถนำทีมไปสู่แชมป์ได้ด้วยการออกสตาร์ท 11 นัดใน 2 การแข่งขันบนโพเดี้ยม เขาทำคะแนนได้ 249 คะแนนและจบอันดับที่ 4 แซงหน้าผู้นำทีม Ricciardo ซึ่งทำคะแนนได้ 170 คะแนนและอันดับที่ 6 นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ Ricciardo ต้องย้ายไปที่ Renault และล่าสุดฤดูกาล 2019 เป็นปีที่เขาทุ่มฟอร์มดีเต็มที่ ชนะ 3 นัด 9 โพเดียม อันดับ 3 ตามหลังนักแข่งเมอร์เซเดสเพียง 2 คน

Sergio Pérez

       นักแข่ง F1 2024 นักขับชาวเม็กซิกันวัย 34 ปี เริ่มอาชีพ Formula One ที่ Sauber ในปี 2011 โดยเข้ามาแทนที่ Nick Heidfeld ท่ามกลางข่าวลือว่าเขาสามารถเข้าร่วมทีมได้เนื่องจากมีผู้สนับสนุนส่วนตัว Telita ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมขนาดใหญ่ของเม็กซิโก เนื่องจากมีการประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสนับสนุนทีม Telita ตามมาหลังจากที่มีข่าวเผยแพร่ไม่นาน แต่ทักษะของเขาโดดเด่นอย่างแท้จริง เพราะนี่เป็นเพียงสนามแรกที่ลงแข่งขัน เขาจบอันดับที่ 7 ด้วยการเปลี่ยนยางเพียงครั้งเดียว แต่สุดท้ายเขาก็ถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากละเมิดกฎทาง เทคนิค ในที่สุดปีแรกเขาก็จบอันดับที่ 16 ด้วย 14 คะแนน ในปีต่อมา เซอร์จิโอ เปเรซ ยังคงขับรถให้กับทีมเดิม แต่ในปี 2013 เขาได้เซ็นสัญญากับแม็คลาเรน แทนที่ลูอิส แฮมิลตัน เปลี่ยนไปขับรถให้กับเมอร์เซเดส การปรับปรุงเล็กน้อย แต่นี่กินเวลาเพียงหนึ่งปีเท่านั้น ตัดสินใจเข้าร่วม Force India ในปี 2014 และเริ่มต้นได้ดี แม้ว่าเขาจะสามารถขึ้นโพเดี้ยมในอันดับที่ 3 ของรายการ Bahrain Grand Prix ได้ แต่เขายังคงอยู่กลางตารางจนกระทั่งจบอันดับที่ 10 และยังคงขับรถร่วมกับทีมเดิมมาจนถึงทุกวันนี้

ทีม Mercedes-AMG PETRONAS F1 Team

        ทีม Mercedes-AMG Petronas F1 เป็นทีมภายใต้หลังคาเดียวกันกับยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ แม้ว่าบริษัทแม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์จะอยู่ในประเทศเยอรมนี แต่สำนักงานใหญ่ของค่ายนี้อยู่ที่ประเทศอังกฤษ นักแข่ง F1 2024 การแข่งขัน F1 จริงครั้งแรกเริ่มต้นในปี 1954 ในชื่อ Daimler-Benz AG แต่ทีมถูกยุบในปี 1955 และในปี 2010 ทีมถูกซื้อจาก Brawn GP (เดิมชื่อ Honda Racing) ในชื่อ Mercedes Race อีกครั้งภายใต้ชื่อ Des GP ‘เครื่องยนต์กำลังของตัวเอง. นับเฉพาะยุคใหม่เท่านั้น ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ทีมคว้าแชมป์โลก 8 สมัยภายใต้ผู้ผลิต (2014, 2015, 2016, 2017, 2018, 2019, 2020, 2021) และนักแข่งคว้าชัย 7 สมัย ( 2014, 2015 ), 2016, 2017, 2018, 2019, 2020) ภายใต้นักแข่งชื่อ ลูอิส แฮมิลตัน แต่ปี 2022 ถือเป็นฝันร้ายของทีมหนึ่งปี 

นักแข่ง

นักแข่ง F1 2024

Lewis Hamilton 

        เป็น นักแข่ง F1 2024 ชาวอังกฤษวัย 39 ปี ซึ่งเริ่มแข่ง Formula 1 กับ McLaren ในปี 2550 และทำผลงานได้ดีในปีแรกบนโพเดียมในการแข่งขันครั้งแรก หลังจากชนะเพียงการแข่งขันครั้งที่ 6 เท่านั้น เขาก็ชนะการแข่งขันทั้งหมด 4 รายการ และจบปีแรกด้วยอันดับที่สองในฐานะนักแข่ง แพ้แชมป์โลก Kimi Raikkonen เพียง 1 แต้ม นอกจากนี้เขายังทำผลงานได้ดีในปีถัดมา ชนะการแข่งขัน 5 รายการ ขึ้นโพเดี้ยม 10 ครั้ง และคว้าแชมป์ได้สำเร็จ กลายเป็นแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุด เขาเป็นแชมป์โลกของอังกฤษ ต่อจากเดมอน ฮิลล์ ซึ่งครองตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 1996 แต่ไม่สามารถสานต่อความสำเร็จต่อไปได้ตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2012 เพราะนั่นเป็นยุคแห่งการไล่ล่าแชมป์อย่างต่อเนื่องของ Vettel จนกระทั่งปี 2013 เมื่อแฮมิลตันตัดสินใจย้ายไปเมอร์เซเดสในที่สุดเพื่อเข้าร่วมกองกำลังกับนิโค รอสเบิร์ก ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงอย่างมากเพราะเริ่มกลับมาอีกครั้งโดยไม่ประสบความสำเร็จเลย

George Russell

       เป็น นักแข่ง F1 2024 ชาวอังกฤษวัย 26 ปี อดีตแชมป์โลกฟอร์มูล่า 2 ปี 2018 หลายคนเชื่อว่าหลังจากคว้าแชมป์แล้วเขาน่าจะมีโอกาสบุกทีมใหญ่ได้ แต่เขาเลือกที่จะเซ็นสัญญากับทีมระดับล่างอย่างวิลเลียมส์และร่วมมือกับนักแข่งมากประสบการณ์อย่างโรเบิร์ต คูบิกาในปี 2019 แต่ปีนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้ มันเป็นสถานที่สุดท้ายเมื่อเขาต้องจบอันดับที่ 20 เก็บแต้มไม่ได้เลยผลงานดีที่สุดของพวกเขาอยู่ที่เยอรมัน กรังด์ปรีซ์ จบเพียงอันดับที่ 11 แต่ยังคงขับร่วมกับทีมเดิมในฤดูกาล 2020 แต่โชว์ฟอร์มดีขึ้น อันดับทั้งสองดีขึ้นจากฤดูกาลแรก อย่าเพิ่งได้ผลลัพธ์ที่หนึ่งและสอง ผลงานที่ดีที่สุดของเขาคือการจบอันดับที่ 11 และในการแข่งขันรอบสุดท้าย นักแข่ง F1 ที่เก่งที่สุด George Russell มีโอกาสแสดงทักษะของเขา Lewis Hamilton สำหรับ Mercedes คว้าสามแต้มในอันดับที่ 9 ของการแข่งขันส่วนใหญ่ โดย Russell ยังคงเป็นผู้นำที่ดีตลอดการแข่งขัน จนกระทั่งประมาณรอบ 63 เมื่อทีมในพิทมาเปลี่ยนยาง ถ้าไม่พลาด รัสเซลล์ก็อาจจะคว้าแชมป์ F1 ครั้งแรกได้

ทีม Scuderia Ferrari

        เฟอร์รารีเป็นทีมที่เก่าแก่ที่สุดที่แข่งขันในการแข่งขันบนท้องถนนเกือบทุกรายการ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการมีส่วนร่วมในการแข่งรถ Formula One และ F1 มีการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1950 นี่เป็นฤดูกาลแรกของการแข่งรถที่นั่งเดียวที่เรียกว่าฟอร์มูล่าวัน มีสำนักงานใหญ่ในอิตาลี เช่นเดียวกับรถแข่งของเฟอร์รารี เป็นทีมที่มีแชมป์โลกมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทีมผู้สร้างหรือฝ่ายคนขับ คว้าแชมป์คอนสตรัคเตอร์ 16 สมัย (1961, 1964, 1975, 1976, 1977, 1979, 1982, 1983, 1999, 2000, 2001, 2002, 2003, 2004, 2007 , 2008) และแชมป์นักขับ 15 สมัย (1952, 1953 , 1956, 1958, 1961, 1964, 1975, 1977, 1979, 2000, 2001, 2002, 2003, 2004, 2007) ใช้เครื่องยนต์เฟอร์รารีเข้าร่วมการแข่งขันทำให้ทีมประสบภาวะตกต่ำอย่างรุนแรงในฤดูกาลล่าสุด รวมถึงการไม่ต่อสัญญาของอดีตนักขับแชมป์โลก เซบาสเตียน เวทเทล ทำให้รถวิ่งช้ากว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ความขัดแย้งระหว่างทีม กับ เซบาสเตียน เวทเทล และคนอื่นๆ อีกหลายคน ทำให้ทีมที่เป็นกลางอันดับเพียง 6 ในฤดูกาล 2020 ไม่มีทีมใดสามารถเป็นแชมป์ได้

นักแข่ง

นักแข่ง F1 2024

Charles Leclerc

      Charles Leclerc เป็น นักแข่ง F1 2024 ชาว Monegasque วัย 26 ปี ผู้ซึ่งไต่เต้าขึ้นมาจากการแข่งรถโกคาร์ท F3 และเข้าสู่การแข่งขัน Formula 1 ในปี 2016 โดยเริ่มแรกเป็นนักแข่งใน Ferrari Driver Academy ปลูกฝังนักแข่งรถรุ่นเยาว์ให้เป็นทีมใหญ่ เช่น Haas F1 Team และ Scuderia Ferrari และเริ่มการทดสอบขับรถให้กับ Haas ในการแข่งขัน British Grand Prix ปี 2016 หลายคนคาดการณ์ว่าเขาจะได้รับการยอมรับเข้าสู่ทีม แต่ Guenther Steiner ผู้อำนวยการทีมกล่าวว่า Charles Le Clare ควรจะกลับสู่ F2 อีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงเริ่มต้นฤดูกาล 2017 ใน F2 ซึ่งเขาคว้าแชมป์ได้จริง ๆ จนกระทั่ง Alfa Romeo Sauber ตัดสินใจประกาศในที่สุด: เขาจะเข้าร่วมทีมในฤดูกาล 2018 แม้ว่าในปีนั้นเขาจะไม่เคย กำลังจะขึ้นโพเดี้ยม และทำคะแนนได้เพียง 39 แต้ม อันดับที่ 13 จากทั้งหมด 20 คน แต่สภาพการขับขี่ของเขาทำให้ทีมเฟอร์รารี่พอใจมากจนได้ประกาศดึง เลกเลอร์ก มาร่วมทีมในฤดูกาล 2019 เคียงคู่กับอดีตแชมป์โลกอย่าง Sebastian Vettel แทนที่อดีตแชมป์โลกอย่าง Kimi Räikkönen ที่ถูกสลับที่ไปอยู่ทีม Alfa Romeo แทน

Carlos Sainz

      นักขับชาวสเปน วัย 29 ปี นักแข่ง F1 2024 เริ่มต้นการแข่งขันในฟอร์มูล่าวันในฐานะนักขับทดสอบของเร้ด บูลล์ และโทโร รอสโซ ก่อนที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นนักแข่งหลักของโทโร รอสโซในฤดูกาลนี้ ในปี 2015 เขาเริ่มผ่านเข้ารอบที่ 8 ร่วมกับ Max Verstappen แต่จบอันดับที่ 9 ในการแข่งขันและจบฤดูกาลแรกในวันที่ 15 ปี 2559 จบอันดับที่ 12 ถือเป็นตำแหน่งที่ดี จบอันดับที่หกเมื่อปีที่แล้วใน Toro Rosso 2017 เขาขับรถให้กับทีมเดิมจนกระทั่งหลังการแข่งขันครั้งที่ 16 เมื่อเขาย้ายไปที่ Renault สำหรับการแข่งขันที่เหลือโดยร่วมมือกับ Nico Hulkenberg และเริ่มการแข่งขันครั้งแรกในอันดับที่ 7 ซึ่งถือเป็นผลงานเปิดตัวที่ค่อนข้างดี ก่อนจบฤดูกาล พวกเขาจบอันดับที่ 2 โดยรวมในอันดับที่ 9 ซึ่งเป็นการจบสกอร์ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ขับรถ ต่อมาในปี 2018 Sainz เริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง พวกเขาได้แต้มจาก 5 เกมจาก 6 เกมแรก ซึ่งเกมที่ดี ซึ่งพวกเขาจบอันดับที่ 5 พวกเขาจบอันดับที่ 10 ด้วย 53 คะแนน ตามหลังเพื่อนร่วมทีม Hulkenberg ที่จบอันดับที่ 7 เหตุนี้เอง ที่ทำให้เขาต้องออกไปหาทีมใหม่อย่างกะทันหัน

และสุดท้ายหลายคนอาจจะสงสัยว่ามี นักแข่ง F1 คนไทย หรือไม่ตัวแทนของชาวไทยได้แก่ อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ นักแข่งรถชาวไทยเชื้อสายอังกฤษ ปัจจุบันแข่งรถฟอร์มูลาวันให้กับทีม Williams. อเล็กซานเดอร์

สรุปสุดยอดแห่งการแข่งรถระดับโลก 

ตอนนี้คุณรู้แล้วว่า นักแข่ง F1 2024 คนไหนมีสถิติการแข่งขันที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ หวังว่าทุกคนจะรู้จักพวกเขามากขึ้น อย่างที่เราทราบกันดีว่า F1 เป็นการแข่งขันที่โหดที่สุดในโลก หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่ามี   นักแข่ง F1 มีผู้หญิงไหม เพราะการแข่งขันที่ดุเดือดครั้งนี้ไม่เหมาะกับผู้หญิง ในกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับโลกนั้นยังมีนักแข่งหญิงน้อยกว่าอีกด้วย  อย่างไรก็ตามไม่มีกฎเกณฑ์ที่ห้ามนักแข่งหญิงลงแข่ง F1 แต่มีนักแข่งหญิงค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับนักแข่งชายแล้วในปัจจุบัน F1 มีกี่สนาม พร้อมเผยปฏิทินแข่งปี 2024 มี 24 สนามพร้อมปรับตารางให้เดินทางน้อยลงอีกด้วย 

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

รถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100 % กับ MG4 EV 2024 ที่ตอกย้ำความต้องการของคนรุ่นใหม่

MG4 EV 2024

พบกับนิยามแห่งการขับขี่ที่มีความโฉบเฉี่ยวและเป็นรถไฟฟ้า 100% จาก MG4 EV 2024 ที่รอการเปิดตัวในเดือนหน้ามีนา 2024 ด้วยเครื่องกำลังแรงม้า 0-100 km / h 3.8 วินาที โดยบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัดและบริษัท เอ็มจี เซลส์ ( ประเทศไทย) จำกัดผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ MG4             แห่งประเทศไทยโดยได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำโดยการเตรียมแนะนำ New MG4 EV Electric เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ 100% และพร้อมเป็นต้นแบบของมาตรฐานรถ EV ที่ขับได้อย่างสนุกโฉบเฉี่ยว ปลอดภัยเป็นรถแท้นวัตกรรมใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย ความปลอดภัย อุ่นใจ ทุกการขับขี่ถูกออกแบบมาด้วย การขับเคลื่อนล้อหลังแบบไดนามิกที่มามาพร้อมกับสมรรถนะของรถพลังงานพลังงานไฟฟ้า ที่ให้ความสนุกสนานเร้าใจและภายใต้มาตรฐานเดียวกัน global Model ทั้ง นวัตกรรมการ ขับขี่ไปจนถึง ดีไซน์ ที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์โดยเน้น 4 จุดเด่นที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

ใกล้เปิดตัวเร็วๆนี้กับ MG4 EV 2024 ที่สามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจทุกการเดินทาง 

Nebula ที่พัฒนาเพื่อยนตกรรมไฟฟ้าโดยเฉพาะ

เป็นครั้งแรกที่  MG ได้เปิดตัวนวัตกรรมแพลตฟอร์มเพื่อลดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่น และนำไปปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลายเซกเมนต์ ไปจนถึงความสามารถที่รองรับแบตเตอรี่ได้อย่างหลากหลายความจุที่นอกจากจะมีการระดับการปกป้องแบตเตอรี่อันเดียวแล้ว พื้นที่ภายในห้องโดยสารยังกว้างขวางมากขึ้นอีกด้วยเป็น MG4 EV 2024 และเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์มนี้

MG4 EV 2024

Fun For Drive Ev ขับสนุกและทรงประสิทธิภาพด้วยรถรถไฟรถไฟฟ้า

MG4 EV 2024 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและเร้าใจด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดถึง 170 แรงม้าและแรงบิดถึง 25.5 กิโลเมตรหรือ 250 นิวตันเมตร มาพร้อมกับเทคโนโลยีของแบตเตอรี่ที่มีความจุถึง 51 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงจัดเรียงเซลล์แบบแนวนอน และระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีสามารถวิ่งในระยะทางที่ไกลสูงถึง 425 กิโลเมตรและช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะที่ชะลอรถ มี 4 ระดับได้แก่ ต่ำ กลาง สูง และ แบบแปรผันตามการขับขี่ เพื่อให้เข้ากับทุกการขับขี่ในรูปแบบที่ผสมผสานกระจายน้ำหนักสมมาตรที่ 50:50 พร้อมพร้อมกับมีตัวถังที่เป็นจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำสอดคล้องกับช่วงล่าง ด้านหน้าแบบอิสระที่ไม่แค่เพียงลดการสั่นสะเทือนจากพื้นหรือผิวท้องถนนเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนได้ดีขึ้นอีกด้วยสะดวกต่อการขับขี่ในพื้นที่ตัวเมืองได้อย่างคล่องแคล่ว ด้วยรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.3 มิลลิเมตร

Convenient to Use รถ Ev ใช้งานได้สะดวก

อำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่ด้วยโหมดที่สามารถสตาร์ทรถได้อัตโนมัติแค่เพียงเหยียบเบรค เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการขับขี่ได้อย่างต่อเนื่องพร้อมรองรับการชาร์จไฟกระแสตรงแบบ DC สูงสุดถึง 88 กิโลวัตต์และการชาร์จแบบรวดเร็วจาก 10 ถึง 80% ในเวลาเพียง 35 นาทีพร้อมเปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เป็นแหล่งจ่ายไฟให้แก่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในรถด้วยระบบ V2L

Global Safety ขับขี่อย่างมั่นใจทุกเส้นทาง

MG4 EV 2024 มาพร้อมกับการมั่นใจทุกการขับขี่ด้วย ความปลอดภัย มาตรฐานยุโรปถึง 26 ระบบซึ่งครอบคลุมระบบด้านความปลอดภัยอัจฉริยะและมีระบบการเตือนอุบัติเหตุจากมุมอับสายตา และระบบช่วยควบคุมการขับขี่อาทิ เช่น ช่วยเบรกขณะถอยช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยไปอีกหนึ่งขั้นยังมาพร้อมกับการปฏิบัติการอัจฉริยะ ที่ช่วยยกระดับคุณค่าของประสบการณ์ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า MG ไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจเช็คอัจฉริยะที่ครอบคลุมระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่การชาร์จไปจนถึงการค้นหาสถานีชาร์จโดยล่าสุด ได้เปิดตัวฟีเจอร์แบตเตอรี่บนแอพพลิเคชั่น MG thailand ที่บันทึกและวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ได้ พร้อมให้คำแนะนำการดูแลเพื่อรักษายืดอายุ การใช้งาน และเป็นการขับขี่ที่เชื่อมต่อ ตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับได้อย่างต่อเนื่องเลย

MG4 EV 2024  ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ 

รุ่น D  ราคา 869,000 บาท

รุ่น X ราคา 969,000 บาท

MG4 มีกี่สี มีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ 

สีฟ้า (Brighton Blue) 

สีดำ (Black Knight)

สีแดง (Scarlet Red) 

สีเทา (Andes Grey) 

สีขาว (Arctic White) 

( ตกแต่งภายในด้วยสีดำ (Black) ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ (Grey & Black) ในรุ่น X)

แนะนำกับ NEW MG4 EV 2024  ที่สุดแห่งนวัตกรรมรถไฟฟ้าแท้ 100%

MG4 รุ่น D กับ X ต่างกันยังไง 

  • รุ่น D มีไฟท้ายแบบ LED
  • รุ่น X มีไฟท้ายแบบ LED Position
  • รุ่น X มีสปอยเลอร์หลังแบบ Twin Arrow wing 
  • รุ่น D มีสปอยเลอร์แบบธรรมดา 
  • รุ่น D ภายในมีสีดำล้วน วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์และผ้า
  • รุ่น X มีสีทูโทน เทา – ดำ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์และผ้า
  • รุ่น D กระจกไฟฟ้าแบบ one Touch Up – Down ด้านคนขับ และกระจกมองหลังตัดแสง
  • รุ่น X กระจกไฟ้า แบบ one Touch up – Down มีให้ทั้ง 4 บานและกระจกมองหลังตัดแสง
  • รุ่น D ไม่มีที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 
  • รุ่น X มีที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สายและกล้องมองข้างแบบ 3 มิติ ควบคุมรถให้อยู่ในเลน

MG4 electric ตารางผ่อน

  • MG4 EV 2024 2023 ผ่อนเริ่มต้น 8,xxx บาท
  • MG4 ELECTRIC 2023 ราคา ดาวน์ ยอดดาวน์ 48 งวด 60 งวด 72งวด 84 งวด
  • รุ่น D 869,000 20% 173,800 15,636 12,740 10,808 9,429
  • 25% 217,250 14,659 11,943 10,133 8,840
  • รุ่น X 969,000 20% 193,800 17,436 14,206 12,052 10,514
  • 25% 242,250 16,346 13,318 11,299 9,857

MG4 ข้อเสีย

MG4 EV กำลังเป็นประเด็นที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าถกเถียงกันอีกครั้ง เนื่องจากล่าสุดมีผู้ใช้ออกมาแชร์ประสบการณ์ว่ารถ MG4 EV มีอาการหลายอย่าง เช่น มีเสียงดังข้างประตู ชาร์จไฟไม่เข้า ซึ่งขณะนี้ผู้ใช้งานรถMGV Ev ได้แจ้งว่ารถยังคงอยู่ที่ศูนย์ และยังไม่สามารถใช้ได้ และที่สำคัญการชาร์จไฟก็ยังไม่รองรับทั่วทั้งประเทศ ทำให้การใช้รถไฟฟ้ายังคงมีปัญหาในส่วนนี้อยู่ อย่างไรก็ตามรถก็เป็นทรัพย์สินที่อยู่คู่กับเราไปยาวนาน ก่อนซื้อควรตัดสินใจ ถึงข้อดีข้อเสีย ของรถยนต์คันนั้นให้ยาวนาน ไม่ต้องรีบร้อนในการซื้อ 

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

พบกับการ เลื่อนล้อต่อภาษี คือ สิ่งที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น 

เลื่อนล้อต่อภาษี คือ

เลื่อนล้อต่อภาษี คือ การเสียภาษีรถยนต์นั้น เจ้าของรถยนต์ทุกคันจะต้องจำเป็นที่จะต้องต่อทุกปีถ้าหากการขาดต่อภาษีจะต้องเสียค่าปรับและการต่อภาษีรถยนต์จะต้องเตรียมเอกสารใดบ้าง และการต่อภาษีรถยนต์ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลาดำเนินการเป็นวันๆอีกต่อไปเพราะนี่คือยุคสมัยใหม่ New Normal อย่างเลื่อนล้อต่อภาษี คือ Drive Thru for Tax ที่มีความสะดวกรวดเร็วและสามารถปลอดภัย จากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการต่อภาษีที่สามารถชำระได้ถูกต้องตามกฏหมายและถ้าหากเราไม่ต่อภาษี หรือเสียภาษีประจำปีก็จะมีโทษปรับดังต่อไปนี้

  • ถ้าหากเราใช้รถที่ไม่ได้ต่อภาษีอย่างถูกต้องก็จะมีโทษปรับอยู่ที่ไม่เกิน 2000 บาท
  • และถ้าหากเราไม่แสดงป้ายภาษีที่ถูกต้องก็จะมีโทษปรับไม่เกิน 2000 บาท
  • ขาดต่อภาษีมานานสามปีอาจจะทำให้รถที่คุณใช้อยู่นั้นถูกระงับการใช้งาน

เทคนิค เลื่อนล้อต่อภาษี คือ อะไรทำไมทำได้อย่างสะดวกสบายไร้กังวล 

สถานที่ต่อภาษีรถยนต์มีที่ไหนบ้าง เลื่อนล้อต่อภาษี ใกล้ฉัน ได้ดังต่อไปนี้ 

สำหรับสถานที่ต่อภาษีรถยนต์ที่สามารถเดินทางได้มีดังนี้

  • สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ
  • ที่ทำการไปรษณีย์
  • ห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส)
  • เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ

การต่อภาษีรถยนต์ที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ

เลื่อนล้อต่อภาษี คือ การต่อภาษีรถยนต์สามารถทำได้ที่สำนักงานขนส่งโดยมีสาขาอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศซึ่งซึ่งข้อดีของการต่อภาษีสำนักงานขนส่งคือสามารถใช้บริการข้ามจังหวัดได้ ไม่ว่ารถของเราจะจดทะเบียนที่จังหวัดไหนก็ตาม

ต่อภาษีรถยนต์ที่ทำการไปรษณีย์

เลื่อนล้อต่อภาษี คือ การต่อภาษีรถยนต์ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ ก็สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้เช่นเดียวกันยกเว้นรถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดจะไม่สามารถทำได้โดยมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 40 บาทและได้รับใบเสร็จกลับไป ส่วนป้ายต่อภาษีรถยนต์จะส่งให้ตามที่ระบุไว้ภายหลัง

รถประเภทที่สามารถต่อภาษีที่ทำการไปรษณีย์ได้มีดังนี้ 

  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
  • รถบรรทุกส่วนบุคคล

เอกสารและหลักฐานที่ใช้ประกอบได้แก่

  • สมุดคู่มือจดทะเบียนรถเล่มจริงเท่านั้น
  • พอรอบอรถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ
  • ใบรับรองการตรวจสภาพรถสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คนหรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่จดทะเบียนมาแล้ว 7 ปีขึ้นไปหรือรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนมาแล้วตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป

วันเวลาที่เปิดให้บริการ

วันจันทร์ถึงวันศุกร์ตั้งแต่เวลา 08:00 น. ถึง 18:00 น.

วันเสาร์อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดชดเชยเวลา 09:00 น. ถึง 17:00 น.

ต่อภาษีรถยนต์ที่ห้างห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ “ ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี”

เลื่อนล้อต่อภาษี คือ หน้าที่ที่สามารถทำได้สะดวกสบาย ห้างสรรพสินค้าต่างๆที่ทุกคนนั้นจะสามารถไปต่อภาษีได้เช่น

  • ห้างบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์สาขาลาดพร้าว รามอินทรา รัชดาภิเษก สมุทรปราการ บางใหญ่ บางนา
  • ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค เปิดให้บริการตั้งแต่วันเสาร์ – วันอาทิตย์เวลา 10:00 น. ถึง 18:00 น.
  • ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้บริการวันเสาร์ – วันอาทิตย์เวลา 11:00 น. ถึง 18:00 น.
  • ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เปิดให้บริการวันเสาร์ – วันอาทิตย์เวลา 10:00 น. ถึง 18:00 น. สาขาที่ให้บริการได้แก่สาขา ศาลายา แจ้งวัฒนะ และเวสต์เกต
  • เดอะมอลล์งามวงศ์วาน เปิดให้บริการตั้งแต่วันเสาร์ถึงวันอาทิตย์เวลา 10:00 น. ถึง 18:00 น.
  • ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน เปิดให้บริการวันจันทร์ – วันศุกร์ตั้งแต่เวลา 08:30 น. ถึง 15:00 น.

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถรับต่อภาษีรถยนต์ได้เช่นเดียวกันมีดังนี้

  • ต้องเป็นรถที่ไม่ค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 1 ปี หรือมีภาษีค้างชำระเกินเกิน 1 ปี ที่นายทะเบียนได้ประกาศยกเว้นการตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี
  • ยื่นขอภาษีล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนวันครบกำหนดเสียภาษีเว้นแต่รถที่มีภาษีค้างชำระให้ยื่นได้ทันที

ประเภทรถที่สามารถต่อภาษีที่ธนาคารธกส 

  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
  • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล

เลื่อนล้อต่อภาษี ใช้อะไรบ้าง เอกสารและหลักฐานที่ใช้ประกอบ

  • สมุดคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา
  • เอกสารพอรอบอรถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ
  • ใบรับรองการตรวจสภาพรถ สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคนหรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่จดทะเบียนมาแล้วตั้งแต่เจ็ดปีขึ้นไปหรือรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนมาแล้วตั้งแต่ห้าปี

ภาษีรถยนต์ต่อที่ไหน ต่อภาษีรถยนต์ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส 

อีกหนึ่งสถานที่ในการต่อภาษีรถยนต์ที่สะดวกมากเพราะมีจุดบริการครอบคลุมนั่นก็คือเคาน์เตอร์เซอร์วิสโดยมีบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส 20 บาทและค่าจัดส่งป้ายต่อภาษีรถยนต์ 40 บาทซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะส่งใบเสร็จและป้ายให้ทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ระบุภายใน 10 วันนับจากวันที่ชำระเงิน 

ประเภทรถยนต์ที่สามารถต่อภาษีที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสได้คือ  

รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี

เอกสารและหลักฐานที่ใช้ประกอบ

  • สมุดคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา
  • หลักฐานการเอาประกันภัยตามพรบ
  • บัตรประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ
  • กรณีที่ใช้รถติดตั้งก๊าซธรรมชาติ ต้องมีหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์การติดตั้งส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ของรถ

วันเวลาที่เปิดให้บริการ 

วันจันทร์ – วันศุกร์เวลา 07:30 น. ถึง 15:30 น.

ข้อควรรู้ เลื่อนล้อต่อภาษี คือ อะไร ทำไมต้องต่อภาษี

      เลื่อนล้อต่อภาษี มีขั้นตอนอย่างไร ต่อภาษีรถยนต์ทางออนไลน์สามารถทำได้หรือไม่ 

การต่อภาษีรถยนต์ผ่านทางออนไลน์สามารถมีรายละเอียดรายละเอียดดังนี้ 

  • การต่อภาษีรถยนต์ทางเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกสามารถยื่นต่อภาษีทางด้านออนไลน์ได้โดยเฉพาะรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปีนับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก กรณีที่รถยนต์อายุเกิน 7 ปีต้องมีมีการรับการตรวจสภาพรถที่ ตรอ. หรือสถานตรวจสภาพรถเอกชนก่อนสามารถทำได้ 2 ช่องทาง
  • เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก
  • แอพพลิเคชั่น DLT Vehicle Tax 

รถเก่าอายุเกิน 7 ปีจะไม่สามารถทำผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่นได้ โดยการ เลื่อนล้อต่อภาษี คือ ยื่นต่อภาษีออนไลน์สามารถชำระภาษีรถล่วงหน้าก่อนสิ้นอายุภาษีได้ไม่เกิน 90 วัน

การต่อภาษีผ่านแอพพลิเคชั่น mpay และ truemoney wallet

การต่อภาษีผ่านแอพมีเงื่อนไขดังนี้

  • ต้องเป็นรถที่ไม่มีภาษีค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกินหนึ่งปี
  • ไม่ถูกอายัดทะเบียน
  • ไม่ใช้รถที่ใช้ก๊าซ
  • ไม่ได้ดัดแปลงหรือแต่งรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้

ประเภทรถที่สามารถต่อภาษีออนไลน์ได้มีดังนี้

  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่จดทะเบียนไม่เกิน 7 ปี 
  • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์
  • อายุรถไม่เกิน 7 ปี (ถ้ารถเกิน 7 ปี ต้องทำการตรวจสภาพรถก่อน)
  • รถค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี
  • รถยนต์ที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงแก๊สทุกชนิด
  • รถทุกจังหวัดที่มีสถานะทะเบียนปกติ หรือไม่ถูกระงับทะเบียนเนื่องจากค้างชำระภาษีประจำปี ติดต่อกันครบ 3 ปี รถที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี ไม่ใช่รถของหน่วยงานราชการ รถที่ไม่ถูกอายัด

เอกสารและหลักฐานที่ใช้ประกอบ ได้แก่

  • สมุดคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา (ไฟล์รูป) 
  • หลักฐานการเอาประกันภัยตาม พ.ร.บ. (ไฟล์รูป) 
  • บัตรประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ (ไฟล์รูป)
  • หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) (สำหรับรถที่เกิน 7 ปี ต้องได้รับการตรวจ โดยข้อมูลจะถูกส่งไปยัง กรมขนส่ง ในทันทีหลังจากการตรวจผ่านเกณฑ์)
  • กรณีที่ใช้รถที่ติดตั้งก๊าซธรรมชาติ จะต้องมีหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ รวมถึงการติดตั้งส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ของรถ (ไฟล์รูป)

ทำความเข้าใจ  พ.ร.บ กับภาษีป้ายรถยนต์เหมือนกันหรือไม่มีประโยชน์ต่อผู้ขับขี่อย่างไรบ้าง

พ.ร.บ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

ให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่โดยสารผู้ที่เดินทาง ที่ได้รับอุบัติเหตุหากเกิดอุบัติเหตุจะจ่ายสูงสุด 30,000 บาทโดยไม่ต้องพิสูจน์ว่าฝ่ายใดถูกหรือฝ่ายใดผิดและจ่ายค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 80,000 บาท หากขับรถไม่มี  พรบ หรือเกิดอุบัติเหตุจะไม่ได้รับการคุ้มครองใดๆ ทั้งสิ้นแถมค่าชดเชยก็ไม่ได้รับต้องเสียค่าบริการด้วยตัวเองในการรักษาพยาบาล และถ้าหากไม่มี พรบ ก็ไม่สามารถชำระภาษีรถได้ป้ายภาษีคือเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีแสดงให้รู้ว่ารถคันนี้จดทะเบียนถูกต้องชำระภาษีรถประจำปีแล้ว โดยถ้าหากขาดการต่อภาษีเกิน 3 ปีทะเบียนรถจะถูกระงับหากนำไปใช้จะมีความผิดตามกฎหมาย ต้องนำมาตรวจสภาพและยื่นขอจดทะเบียนใหม่ เพื่อที่จะใช้ในการดำเนินการทางทะเบียนเช่น การโอนเปลี่ยนชื่อ แจ้งเปลี่ยนสี แก้ไขรายการคู่มือรถ

เป็นประจำทุกปีที่เจ้าของรถยนต์ทุกคนต้องนำรถของตัวเองไปเสียภาษีหรือเรียกกันจนติดปากว่า  ต่อภาษีรถยนต์ การต่อภาษีรถยนต์นั้นสามารถต่อล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนหมดอายุซึ่งได้มาจากการต่อภาษีนั่นก็คือป้ายภาษี 4 เหลี่ยมที่จำเป็นต้องติดไว้หน้ารถยนต์เท่านั้นเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ว่าเราได้ทำการเสียภาษีประจำปีเรียบร้อยแล้ว โดยอัตราการเสียภาษีมีค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้

  • รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม คันละ 200 บาท
  • รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 2000 กิโลกรัม คันละ 300 บาท

ทั้งนี้การต่อภาษีรถยนต์ทุกคนควรที่จะจำเป็นจะต้องไปต่อทุกปีถ้าหากขาดการต่อภาษีก็จะต้องเสียค่าปรับโดยการต่อภาษีรถยนต์ ไม่ต้องเตรียมเอกสารและดำเนินการให้ยุ่งยากอีกต่อไปเพราะสามารถเลื่อนล้อต่อภาษีได้มีความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยไม่เสี่ยงกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆแถมยังถูกต้องตามกฏหมาย และสะดวกรวดเร็วโดยที่ไม่ต้องไปที่ขนส่งอีกต่อไป เพราะเราได้มีหน่วยบริการต่างๆที่สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ไม่ว่าจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์ ห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ รวมทั้งการต่อภาษีรถยนต์ก็สามารถทำที่ขนส่งได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศมีข้อดีคือสามารถใช้บริการข้ามจังหวัดได้ไม่ว่ารถของเรานั้นจะจดทะเบียนที่ไหนก็ตาม ไม่ใช้เวลานานอีกต่อไปกับการต่อภาษีรถยนต์ที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ถ้าหากมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ก็สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและต่อภาษีผ่านระบบ ออนไลน์ ได้เลย รับรองว่าจะไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางออกไปข้างนอกอย่างแน่นอน ทั้งค่าน้ำมันรถยนต์ และค่ากินระหว่างการเดินทางไปต่อภาษี บางครั้งเราอาจจะต้องเสียค่าทางด่วนในการเดินทางอีกด้วย นับว่าเหมาะกับยุค New Normal อย่างสุดๆสะดวกปลอดภัยแถมเข้ากับเศษฐกิจยุคนี้แบบสุดๆลองเลือกวิธีที่คุณสะดวกและเข้ากับไลฟ์ไตล์ได้เลยในการเลื่อนล้อต่อภาษี 

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

เคล็ดไม่ลับ ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไร เพื่อช่วยยืดอายุการขับขี่ให้ยาวนาน

ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไร

ยางเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ที่มีหน้าที่ช่วยในการขับเคลื่อนและยังทำหน้าที่รองรับน้ำหนักของรถยนต์และลดแรงกระแทกต่างๆระหว่างขับรถทำให้รถวิ่งได้อย่างนุ่มนวลและปลอดภัยแถมยังมีส่วนที่ช่วยทำให้การทรงตัวที่ดีตลอด การขับขี่บนท้องถนนอีกด้วยซึ่งความเร็วขณะวิ่งและการชำรุดของตัวยางจะส่งผลและประสิทธิภาพการขับขี่ของผู้เดินทาง และยังเป็นตัวกลางที่ถ่ายทอดพลังงานในการขับเคลื่อน โดยถ้าหากยังอยู่ในสภาพที่ผิดปกติ อาจจะส่งผลอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้ซึ่งอายุ การใช้งาน ยางนั้นมีอายุแค่ 2 ถึง 4  ปีต้องเปลี่ยนเมื่อขับขี่ไปแล้ว 50,000 กิโลเมตรแต่บางคนก็บอกว่าเมื่อครบ 2 ปีก็สามารถเปลี่ยนยางก่อนกำหนดซึ่งถ้าหากดอกยางสึกแล้ว แต่ยังขับอยู่เมื่อยังขับไม่ถึง 50,000 กิโลเมตรก็อาจก่อให้เกิดอันตรายบนท้องถนนได้เพราะยางคู่หน้าโล้นหมดแล้วแต่คู่หลังก็ดีอยู่ เพราะลืมสลับยางตามกำหนดระยะเลยต้องทำให้เปลี่ยนไวก่อนกำหนดแล้ว ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไร การขับขี่ที่ปลอดภัยควรเปลี่ยนยางรถเมื่อความลึกขั้นต่ำ ของดอกยางอยู่ที่ 1.6 มิลลิเมตรพื้นผิวยางต้องไม่มีความผิดปกติใดๆและสามารถดูได้จาก

  • ร่องรอยของดอกยางยางทุกเส้นจะมีมีปุ่มในร่องดอกยางเพื่อใช้วัดความลึกของดอกยางทีเรียกว่าสะพานถ้าเมื่อไหร่ดอกยางสึกเท่ากัน สะพานแล้วนั่นคือเวลาที่จะต้องเปลี่ยนยางใหม่
  • นอกจากความ ลึกของดอกยางแล้วสิ่งที่ควรตรวจสอบเลยนั่นก็คือหน้ายางสึกหรอเท่ากันทั่วทั้งพื้นผิวและยังไม่มีความผิดปกติใดๆเช่นหน้ายางสึกไม่เท่ากันหน้ายางบวมแก้มยางปูด

ข้อควรรู้ ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไร เพื่อให้ชับขี่ได้อย่างปลอดภัย 

 เปลี่ยนยางรถยนต์ช่วงไหนดี อีกหนึ่งข้อสำหรับผู้ใช้รถควรรู้

ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไร

ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไร การเปลี่ยนยางรถยนต์ควรเปลี่ยนทุกๆ 3 ปีหรือขับขี่ได้ 30,000 กิโลเมตรแล้วแต่อายุการใช้งานของรถยนต์หรือระยะทางนั้นแต่ความจริงแล้วการสึกหรอของยางขึ้นอยู่ปัจจัยหลายหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ภูมิอากาศ สภาพถนน และสไตล์การขับขี่รถยนต์ของผู้ใช้รถ ดังนั้นถ้าหากคิดว่ายางรถยนต์ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่หรือใช้ได้กี่ปีควรรู้และดูจากความสึกหรอของร่องดอกยาง จะดีที่สุดเมื่อต้องเปลี่ยนยางแทนที่จะปะยางแต่จะเปลี่ยนยางพร้อมกันทั้ง 4 เส้นคือความคิดที่ดีจะทำให้เรานั้น สามารถควบคุมรถได้ดี ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้อายุการใช้งานที่แท้จริงของยางรถยนต์ 

หลายคนอาจสงสัยว่าอายุการใช้งานสามารถใช้งานได้อยู่กี่ปีอายุการใช้งานของยางรถยนต์จะอยู่ที่ 2 ถึง 5 ปีหรือ 30,000 ถึง 40,000 กิโลเมตรซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งานถ้าหากใช้งานรถหนักมากเกินไปบรรทุกของหนักเป็นประจำ ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไร ก็ควรเช็คยางรถยนต์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งและควรเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ทันทีเพื่อป้องกันอุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นไม่รู้ตัว

ใช้รถมาซักระยะแล้วผู้ขับขี่ควรต้องรู้อายุยางรถยนต์ก่อนเพื่อที่จะได้รู้ว่า เมื่อไหร่ควรต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ทันทีโดยมีวิธีการสังเกตดังต่อไปนี้

  • ดูที่สภาพดอกยาง โดยส่วนใหญ่แล้วดอกยางจะอยู่ด้านหน้าถ้าตัวสภาพยังความหนาในระดับเดียวกันดอกยางแปลว่าคุณต้องเปลี่ยนยางเพื่อการใช้งานที่ปลอดภัย
  • แก้มยางแตกหรือแยกส่วนออกจากกัน แก้มยางถ้าหากสัมผัสพื้นผิวถนนโดยตรงกับหน้ายางสังเกตว่าแก้มยางจะมีรอยแตกก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดการระเบิด หรือการแตกขณะขับด้วยความเร็วสูงจึงควรเช็คยางรถยนต์ในส่วนนั้นให้ดี
  • ยางบวม เกิดจากการที่เรานั้นมักจะที่บริเวณแก้มยางเนื่องจากขับรถตกหลุมหรือขับรถบนพื้นผิวที่มีความขุขะจึงเกิดการเสียดสีอย่างรุนแรง และอาจจะทำให้เกิดข้อบกพร่องขณะการทำให้โครงยางของรถยนต์นั้นไม่แข็งแรงและเกิดการบวม
  • ตำแหน่งการรั่วของยาง คนส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีการปะยางแทนการเปลี่ยนยางทั้งเส้นเพราะการปะยางนั้นมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าแต่การเปลี่ยนยางทั้งเส้นจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงแต่การปะยางนั้นก็ไม่ควรทำที่บริเวณแก้มหรือขอบยางเพราะไม่ได้ช่วยอะไร และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ปัจจัยที่ทำให้ยางรถยนต์เสื่อมอายุเร็วมีอะไรบ้าง 

ปัจจัยที่ทำให้ยางรถยนต์นั้นมีอายุเร็วนั้นมีอยู่หลายสาเหตุดังนี้ 

  • ยางรถยนต์เสื่อมตามอายุการใช้งาน หมายความว่าเมื่อมีการใช้งานยางรถยนต์ไปนานๆยางรถยนต์จะเกิดอาการเสื่อมตามสภาพ ตามเวลาการใช้งานควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไร ผู้ใช้รถจึงควรตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์อย่างน้อยปีละครั้งเพราะถ้าหากเกิดปัญหาจะสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
  • ยางรถยนต์เสื่อมตามสภาพอากาศ หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าอุณหภูมิก็สามารถส่งผลต่อสภาพยางได้เช่นเดียวกันอุณหภูมิต่ำหรือสูงเกินไปก็มักจะมีผลการเสื่อมของรถยนต์เช่นในประเทศไทยขับรถท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงก็จะทำให้ยางเสื่อมสภาพได้เร็วมากกว่าปกติ ดังนั้นเราควรจอดในที่ที่มีหลังคาหรือที่มีอุณหภูมิที่ไม่สูงจนเกินไปเพื่อเป็นการป้องกันและรักษายางรถยนต์
  • ยางรถยนต์เสื่อมตามสภาพถนน การขับรถบนพื้นผิวถนนขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อมีสิ่งกีดขวางบนถนนหรือขับรถผ่านลูกระนาดบ่อยครั้ง ความความต่างระดับของถนนที่ไม่เท่ากันอาจจะทำให้ เบรคหรือการกระแทกบ่อยครั้งทำให้เกิดสึกหรอเร็วขึ้น และเสื่อมสภาพไปตามอายุการใช้งานในที่สุดเราจึงควรเช็ครถยนต์อย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการขับขี่บนพื้นผิวถนน      ที่เป็นหลุมเป็นบ่อหรือมีความขรุขะ
  • ยางรถยนต์เสื่อมสภาพจากลักษณะการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย การที่ยางเสื่อมสภาพนั้นเกิดจากพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้งานด้วยผู้ใช้งานรถหลายคนมักจะการขับขี่ที่ไม่ค่อยถนอมรถยนต์สักเท่าไหร่และขับด้วยความเร็วสูงจึงทำให้การออกตัวแรงและเบรคกระทันหัน ในการขับขี่ก็เป็นสาเหตุที่จะทำให้ยางเกิดความสึกหรอได้เร็วมากยิ่งขึ้นกว่าปกติและเพื่อเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากจะเช็คยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอแล้ว ควรระมัดระวังในการขับขี่อีกด้วย

วิธีเช็คอายุยางรถยนต์ที่ชัวร์ที่สุด

          ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไร การซื้อยางรถยนต์ ควรเลือกซื้ออายุรถยนต์ ที่ผลิตใน 3 ถึง 6 เดือนมาด้วยยางที่ผลิตใน 1 ถึง 2 ปีเพราะประสิทธิภาพยังไม่ต่างกันมากนัก สามารถใช้งานได้ในระยะยาวให้เช็คจากตัวเลข 4 หลักโดยตัวเลขจะอยู่บริเวณแก้มยางซึ่งใช้บอกวันเวลาที่ผลิตยาง การขับขี่ด้วยความปลอดภัยไม่ประมาทเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนจะต้องตระหนักถึงการดูแลรถก็สำคัญไม่แพ้กัน แม้ว่าจะจะมีประกันภัยชั้นหนึ่งอยู่แล้วแต่ถ้าหากมีการใช้รถเป็นประจำการเช็คยางรถยนต์ และตรวจสอบตรวจสอบสภาพรถด้วยตัวเองจะช่วยให้การขับรถยนต์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุผู้ใช้รถควรต้องรู้ว่ายางนั้นใช้ได้กี่ปี  ถึงเวลาควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไร ต้องเปลี่ยนเมื่อไหร่โดยเราได้บอกวิธีการตรวจเช็คอายุการใช้งานไว้หมดแล้วสามารถนำมาตรวจเช็คยางรถยนต์ของคุณเองได้เลย

        ยางควรเปลี่ยนบ่อยแค่ไหน โดยปกติแล้วยางรถยนต์ของผู้ผลิตแต่ละเจ้านั้นจะมีอายุการใช้งานระหว่าง 4 ถึง 6 ปีซึ่งก็เท่ากับว่าเกินจากนี้ยางหมดอายุนั่นเองต้องเปลี่ยนใหม่ซึ่งในทาง เทคนิค ของโชว์รูม ก็จะบอกเจ้าของไว้ตั้งแต่ขับรถมาว่าควรเปลี่ยนทุกๆ 3 ถึง 5 ปีหรือราว 50,000 กิโลเมตรซึ่งระหว่างนั้นจะมีการสลับยางจากล้อหน้ามาล้อหลังทุกๆ 10,000 ถึง 15,000 กิโลเมตรทั้งนี้เพื่อให้ยางแต่ละเส้นถูกใช้งานหนักหนักเท่าๆกัน แต่อย่างไรก็ตามข้อกำหนดดังกล่าวก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปเพราะขึ้นอยู่กับการใช้งานของรถแต่ละคนบางคนอาจจะไม่ค่อยได้ใช้งานรถยนต์ ซึ่งก็อาจจะเปลี่ยนยางได้ตามกำหนดที่ระบุไว้ถ้าหากคุณใช้งานรถหนัก และขับขี่ในเส้นทางไกลเหยียบหินบ่อยๆ ยางรถยนต์ 5 ปีอันตรายไหม ก็ควรจะเปลี่ยนยางทุกๆ 2 ถึง 3 ปีหรือเร็วกว่านั้น

ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไร

เทคนิค ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไร เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจเวลาฝนตก

      ดูยังไงว่ายางเสื่อม อย่างที่ทราบกันดีว่ายางรถยนต์เป็นปัจจัยสำคัญที่คอยสัมผัสพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา การหมั่นตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์เป็นประจำจะช่วยทำให้ผู้ขับขี่สามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การดูแลเลขยางรถยนต์ที่บ่งบอกถึงวันหมดอายุและวันผลิตได้แล้วนั้น ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน โดยยังมีความเสื่อมสภาพและปัจจัยอื่นร่วมด้วยได้แก่ 

  • ดูเนื้อยางที่สะพานยาง

เป็นจุดเชื่อมต่อกันระหว่างดอกยางที่ผู้ขับขี่ ต้องคอยสังเกตดอกยางต่างๆถ้าหากพบว่าดอกยางสึกอยู่ในระดับเดียวกันกับสะพานเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้เลยว่าควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ได้แล้ว

  • ลักษณะของดอกยาง

หากพบว่าดอกยางรถยนต์นั้นเหลือน้อยและจะมีมีโอกาสที่เกิดความเสี่ยงสูงทำให้รถเสียหลักลื่นได้ เนื่องจากยางรถยนต์มีคุณสมบัติช่วยรีดน้ำในเวลาที่ต้องขับบนพื้นถนนเปียก โดยดอกยางควรจะอยู่ที่ความลึกประมาณ 8 ถึง 9 มิลลิเมตรแต่ถ้าดอกยางไม่ถึง 3 มิลลิเมตรควรรีบเปลี่ยนทันที

  • ความกระด้างของผิวยาง

เมื่อยางรถถูกใช้งานไปในระยะเวลาหนึ่งจะทำให้ผิวยางเริ่มมีความแข็งกระด้างตลอดไป จนถึงรอยแตกลายงาบนยางส่งผลทำให้การยึดเกาะบนถนนนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันที

  • อาการปวดบวมของยาง

หากพบว่ายางรถยนต์เกิดบวมปูดขึ้นมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกได้เลยว่าควรรีบเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่เพราะถ้าหากฝืนขับต่อไปอาจจะทำให้เกิดการระเบิดหรืออันตรายขั้นรุนแรงได้

  • ปะยางแทนการเปลี่ยนยางทั้งหมด 

โดยปกติแล้วเมื่อใช้ยางรถยนต์ไปอาจจะเกิดการรั่วซึมได้และมักจะวิ่งเข้าไปหาร้านปะยางแทนการเปลี่ยนยางเพราะทุกครั้งที่เราเปลี่ยนยางทั้งสิ้นอย่าเข้าใจผิดนะว่าการปะยางจะใช้ได้กับทุกบาดแผลหรือทุกกรณีเพราะการปะยางนั้นควรทำกับแผลเล็กๆเท่านั้นที่มีรอย รั่วไม่เกิน 0.6 มิลลิเมตรและเกิดขึ้นบริเวณหน้ายางเท่านั้นโดยแผลต้องไม่ไปทำลายโครงสร้างภายในซึ่งส่วนตรงนี้จะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากภายนอกจะต้องถอดยางออกมาดูท้องยางภายในแต่มีหลักในการสังเกตเบื้องต้น เมื่อเราขับขี่ไปประมาณหนึ่งแล้วอาการพวงมาลัยจะสั่นผิดปกติ ส่วนบริเวณแก้มยางจะไม่แนะนำให้เพราะความแข็งแรงของวัสดุวัสดุที่มาใช้นั้นไม่สามารถยึดเหนี่ยวหรือได้รับความแข็งแรงได้และอาจเป็นสาเหตุจนทำให้เกิดการระเบิดของยางได้

  • ตรวจเช็คจุกลมยาง 

จุกลมยางเป็นรถยนต์อีกหนึ่งส่วนชิ้นประกอบสำคัญที่ต้องปิดสนิทอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ลมยางรั่วไหลออกมาได้เมื่อใช้เวลาไปนานนานแล้วจุกลมยางอาจเสื่อมสภาพได้ นอกจากการตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์แล้วควรตรวจเช็คสภาพของจุกลมยางให้อยู่ในสภาพปกติ หากพบว่าจุกลมยางเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ควรเปลี่ยนจุกลมยางด้วยโดยปกติแล้วเมื่อเปลี่ยนยางใหม่ก็ควรจะเปลี่ยนจุกลมยางด้วยเช่นเดียวกัน

ขั้นตอนง่ายๆในการตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์จะให้คุณนั้นประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมส่วนต่างๆยางรถยนต์ได้เป็นอย่างมาก เพราะยางรถยนต์เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งรถยนต์มีหลายจุดที่ควรดูแล เพราะถ้าหากรถยนต์มีปัญหาอาจจะลุกลามไปถึงจุดอื่นๆได้อีกด้วย ดังนั้นการตรวจเช็คยางรถยนต์สม่ำเสมอและเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย สุดท้ายนี้จะเห็นได้ว่าอายุยางรถยนต์ไม่ว่าจะใช้งานไปกี่ปี หรือหมดอายุการใช้งานปีไหน ก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับยางรถยนต์ซึ่งซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากหากพบความผิดปกติระหว่างการขับขี่เกี่ยวกับยางรถยนต์เช่นยางหมดอายุ ดอกยางสึก หรือยางเสื่อมสภาพควรรีบเปลี่ยนทันที เพราะมีความจำเป็นอย่างมากและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อป้องกันและเพิ่ม ความปลอดภัย ให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในทุกๆวัน

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

แนะนำ วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ เพื่อช่วยยืดอายุให้ยาวนาน

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ เปรียบเสมือนหัวใจของรถยนต์ที่ทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่างๆและเป็นจุดสำรองพลังงานไฟฟ้าสำหรับใช้สตาร์ทรถแบตเตอรี่ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ถ้าหากแบตเตอรี่เสียหรือมีปัญหาก็จะทำให้รถนั้นสตาร์ทไม่ติดและไม่สามารถใช้งานได้เลยทีเดียว โดยแบตเตอรี่จะมีมีอายุการใช้งานที่จำกัดโดยเฉลี่ยแล้วรถยนต์ทั่วไปก็จะมีอายุประมาณ 1.5 ถึง 2 ปีถ้าเราดูแลรักษาแบตเตอรี่ดีก็จะช่วยยืดอายุการใช้งาน ของแบตเตอรี่รถยนต์ของเราได้ โดยอายุ การใช้งาน ของแบตเตอรี่นั้นจะอยู่ที่ปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะตัวแปรอื่นๆ สภาพอากาศประเภทรถยนต์ และพฤติกรรมการขับขี่แบตเตอรี่จำเป็นจะต้องมีการบำรุงรักษาเช่นเดียวกันและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจ แนวทางเกี่ยวกับการรักษาเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ให้สูงมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าหากเราไม่ดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ก็จะส่งผลเสียหายหลากหลายอย่าง เช่นกระจกอัตโนมัติไม่สามารถใช้งานได้ ไฟหน้าสว่างสตาร์ทรถไม่ติด ซึ่งหลาย ปัจจัยขึ้นอยู่กับการดูแลและรักษาแบตเตอรี่รถยนต์โดยจะต้องนำเข้าศูนย์ แต่ในปัจจุบันการดูแลรักษาแบบรถยนต์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงแค่ทำความเข้าใจก็สามารถใช้แบตเตอรี่ได้นานเลยทีเดียว 

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่

เคล็ดลับ วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ เพื่อให้มือใหม่ได้ได้เรียนรู้  

 การบำรุงรักษาแบตเตอรี่มีกี่วิธี และสามารถทำได้ด้วยตัวเองได้ 

  1. รักษาความสะอาดของแบตเตอรี่รถยนต์

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ การบำรุงรักษาขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดเป็นสิ่งที่ง่ายมากที่สุดสามารถทำได้และรับประกันว่าแบตเตอรี่ที่ดี จะสามารถตรวจสอบได้ทุกเดือนโดยประเมินจากสนิม และสิ่งสกปรกต่างๆถ้าเห็นว่ามีขี้เกลือหรือสนิมมากจนเกินไป ก็สามารถใช้แปลงสิ่งสกปรกออกจากขั้วได้โดยแปลงทุกๆ 3 สัปดาห์สิ่งสกปรกที่อยู่ระหว่างสายเคเบิล และตัวเชื่อมต่ออาจรบกวนพลังงานที่ไหลเข้าออกสำหรับสนิมอาจเทน้ำอัดลมหรือสารป้องกันการกัดก่อนลงในบริเวณที่สึก ของขั้วแบตเตอรี่ได้ความเป็นกรดจะละลายสนิมออกทำให้ขั้วสะอาดและใช้ผ้าหมาดๆเช็ด

  1. ถอดแบตเตอรี่ออกเมื่อไม่ได้ใช้งาน

โดยปกติแล้วแบตเตอรี่ของคนเราจะคล้ายประจุไฟของตัวมันเองจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่นระบบไฟในรถรั่วซึม การลืมเปิดไฟรถเก๋งทิ้งไว้ ระดับแรงดันไฟควรอยู่ที่ 12.0 ถึง 13.0 โวลต์ไม่ควรคลายประจุไฟต่อเนื่องนานนานจนต่ำกว่า 10.5 โวลต์จะทำให้แบตเสื่อมได้ง่ายควรชาร์จไฟแบตเตอรี่รถยนต์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ครั้งเพื่อไม่ให้น้ำกดเกิดผลซัลเฟตความจุของแบตเตอรี่จะลดลง 50% ของทุกๆอัน อุณหภูมิที่ต่ำลง 12 องศาหรือ 22 ฟาเรนไฮต์ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมในตอนเช้าอากาศเย็นเราจึงสตาร์ทรถได้ยาก เพราะอุณหภูมิปกติอยู่ที่ 25 องศาสำหรับรถที่เก่ากว่านั้น ก็ควรจะจอดทิ้งไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ให้ปลดขั้วแบตเตอรี่ออกทั้งขั้วบวกและขั้วลบ เพื่อเป็นการถนอมแบตเตอรี่ให้ยังมีประจุไฟฟ้าเหลืออยู่และยังมีการป้องกันไม่ให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้

  1. ขับรถบ่อยๆอย่างน้อยสองสัปดาห์ต่อครั้ง

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ การออกขับรถระยะสั้นไปเซเว่นหน้าปากซอย อาจจะทำให้แบตเตอรี่ของรถยนต์นั้นเสื่อมได้ ถ้าหากเราสตาร์ทเครื่อง 2 ครั้งไปกลับหนึ่งครั้งขับแค่ 0.5 กิโลเมตรไดชาร์จยังไม่เติมไฟเข้าแบตเตอรี่เลย ก็ถึงบ้านซะแล้ว การขับรถควรควรใช้อย่างน้อย 45 นาทีอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์จะรับประกันว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับจะชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มโดยที่ คุณไม่จำเป็นต้องสนใจปลายทางเพียงแค่ขับให้ได้ระยะเวลาที่แนะนำก็พอ

  1. ไม่เปิดอุปกรณ์เสริมทั้งหมด

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ เราไม่ควรเปิดอุปกรณ์เสริมทั้งหมด เช่นเครื่องเสียงแอร์ในขณะที่ไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์เพราะแหล่งพลังงานที่นำมาใช้กับอุปกรณ์ทั้งหมด มาจากแบตเตอรี่รถยนต์ของเราโดยตรง แบตเตอรี่ตะกั่วกรด ออกมาเพื่อสตาร์ทรถยนต์ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อขายประจุแบบลึก แบตเตอรี่สามารถได้รับความเสียหายได้จากการปล่อยประจุลึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะส่งผลเสียทำให้เกิดความล้มเหลวของคั่วไฟฟ้าและสลายตัวเนื่องจากความเค้นเชิงกล ที่เกิดจากการแปรรูปแบตเตอรี่เริ่มต้นที่เก็บประจุแบบลอย อย่างต่อเนื่องจะได้รับการกัดกร่อนจากอิเล็กโทนซึ่งจะส่งผลให้พัง ไวก่อนอายุการใช้งาน

  1. ป้องกันแบตเตอรี่

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ ตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่าแบตเตอรี่รถยนต์ถูกต้องและปลอดภัยแล้วการที่เราเคลื่อนย้ายแบตเตอรี่ หลุดออกจากสายของตัวเอง หากไม่ได้รับการยึดอย่างถูกต้องก็อาจจะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร

  1. การชาร์จแบตเตอรี่

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสลับไม่เพียงพอไดชาร์จเริ่มเสื่อมสภาพที่จะบรรจุแบตเตอรี่รถยนต์ให้เต็มและแบตเตอรี่จะหมดหากถูกใช้งานการใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่เพิ่มเติม ประจุแบตเตอรี่ให้เต็มอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ควรรีบเปลี่ยนไดชาร์จก่อนที่แบตเตอรี่รถยนต์ของคุณจะพังเป็น วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ ที่ทุกคนควรรู้ 

  1. ดูแลระดับน้ำในแบตเตอรี่

สำหรับรถยนต์ชนิดเติมน้ำกลั่นต้องหมั่นตรวจสอบระดับน้ำอยู่เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำต่ำกว่า-ต่ำสุดที่โรงงานผู้ผลิตกำหนดไว้เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมหรือพังก่อนวัยอันควรควรศึกษา วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ ของเราให้ดีเสียก่อน

แบตกึ่งแห้ง ดูยังไง

แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้งคือแบตเตอรี่ที่มีรูให้เติมน้ำกลั่น ได้โดยไม่ต้องดูแลบ่อยเท่าแบตเตอรี่น้ำ แต่ต้องดูแลและตรวจสอบระดับน้ำกันปีละ 1 ถึง 2 ครั้งข้อดีก็คือ ไม่ต้องตรวจเช็คมากส่วนข้อเสีย ก็คืออายุการใช้งานไม่เท่ากับแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น แต่คงต้องตรวจเช็คอายุบ้าง และมีราคาสูงกว่าแบตเตอรี่น้ำกลั่นโดยแบตเตอรี่กึ่งแห้งนั้นจะเหมาะสำหรับรถที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและไม่ค่อยมีเวลาดูแลรถยนต์

ดูยังไงว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดอายุ

โดยทั่วไปแล้วแบตเตอรรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ถึง 5 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อคุณภาพราคาและแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพที่สูงกว่ามักจะมีราคาที่แพงกว่า แต่พฤติกรรมการใช้งานรถยนต์ที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคลหากคุณดูแลแบตเตอรี่เป็นอย่างดีด้วย การใช้รถเป็นประจำไม่จอดทิ้งไว้นานก็จะทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานแต่ถ้าหากเราใช้งานไปหลายปี และ วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ ไม่ดีจอดทิ้งนานปล่อยให้ไฟหมดจนสตาร์ทไม่ติดบ่อยบ่อยก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปได้ในที่สุด โดยในวันนี้เราก็จะมาบอกถึงวิธีการดูว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดอายุจะมีสัญญาณเตือนอะไรบ้าง

  1. รถสตาร์ทไม่ติดหรือรถสตาร์ทติดยาก

รถสตาร์ทไม่ติดหรือรถสตาร์ทติดยากเป็นอีกหนึ่งปัญหาและเป็นสัญญาณเตือนของอาการแบตเตอรี่เสื่อมที่กำลังเกิดขึ้นเนื่องจากแบตเตอรี่ไม่สามารถกักเก็บประจุไฟฟ้าได้มากเหมือนแต่ก่อนแล้ว กำลังไฟในการสตาร์ทจะลดลงทันทีโดยปัญหานี้มักจะเกิดกับรถยนต์ที่ถูกจอดทิ้งไว้เป็นเวลานานนาน

  1. ไฟหน้าไม่สว่างเหมือนเดิมแล้ว

หนึ่งในสัญญาณเตือนของอาการแบตเตอรี่เสื่อมมักจะเกิดขึ้นอย่างแรกนั่นก็คือไฟหน้ารถไม่สว่างเท่าเดิม หรือสว่างน้อยลงกว่าเดิมและนี่คือเรื่องเร่งด่วนที่เราต้องรีบแก้ไข เพราะถ้าหากปล่อยให้รถขับไปในยามค่ำคืนอาจจะเกิดปัญหาไฟหน้าสว่างไม่เพียงพอและจะเกิดโอกาสที่ทำให้ผู้ขับขี่ประสบอุบัติเหตุได้

  1. อุปกรณ์ไฟฟ้ามีปัญหา

หากแบตเตอรี่เสื่อมนอกจากไฟหน้าที่จะสว่างน้อยลงกว่าเดิมแล้วอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างอื่นภายในรถก็อาจจะทำงานผิดปกติร่วมด้วยเช่นเดียวกันเช่นกระจกไฟฟ้าขึ้นลงหนืด ระบบล็อกมีปัญหาทำงานช้าลงหรือระบบส่องสว่างต่างๆภายในรถติดๆดับๆ เป็นต้นเนื่องจากการกักเก็บแบตเตอรี่ของไฟไม่อยู่แล้ว จึงส่งผลต่อการทำงานไฟฟ้าไม่เพียงพอ

  1. แอร์ไม่เย็นระบบแอร์ไม่ทำงาน

เมื่อขับรถไปนานนานและลองเร่งเครื่องดูแล้วปรากฏว่าแอร์ก็ไม่เย็นเกิดจากสาเหตุของแบตเตอรี่อ่อนเนื่องจากแอร์ดึงไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ระบบการตัดการทำงานของแอร์ออกไปก่อน ให้ไฟไปเลี้ยงอุปกรณ์อื่นที่สำคัญกว่าเมื่อเร่งเครื่องไดชาร์จปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่ได้มากขึ้นแอร์จึงเย็น เพราะฉะนั้นถ้าหากเราพบว่าแอร์ไม่เย็นบ่อยๆ    ก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของแบตเตอรี่ของคุณที่เริ่มจะเสื่อมแล้ว

  1. แตร์ไม่ดัง

แตร์รถเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญสำหรับการขับขี่บนท้องถนนที่ปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นโดยในวันนี้เราก็จะมาวิเคราะห์ว่าถ้าหากแตร์รถยนต์ไม่ดังอาจเกิดปัญหาจากแบตเตอรี่ที่กำลังเสื่อม โดยคุณควรรีบแก้ไขปัญหาทันทีเพราะถ้าหากลดเสียงไม่ดังอาจจะส่งผลต่ออุบัติเหตุในท้องถนนได้

พบกับ วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ ที่สามารถทำได้ง่ายด้วยตัวเอง  

ข้อควรระวังเกี่ยวกับแบตเตอรี่

  1. ให้ระมัดระวังไฟหรือประกายไฟรวมทั้งประกายไฟจากบุหรี่
  2. ให้ทำการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา
  3. ระวังอย่าให้เด็กเข้าใกล้น้ำกรดและแบตเตอรี่
  4. การจัดวางและเก็บแบตเตอรี่เก่าควรเก็บในที่ที่ปลอดภัยไม่ควรวางทิ้งไว้เกลื่อนกลาด
  5. ไม่ควรทิ้งแบตเตอรี่เก่าลงในถังขยะปกติธรรมดาทั่วไป
  6. ให้ระมัดระวังอันตรายจากแบตเตอรี่ที่จะระเบิดในขณะที่ทำการชาร์จแบตเตอรี่จะมีแก๊สเกิดขึ้นซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดการระเบิดได้
  7. ให้ระวังเวลาน้ำกรดเดือดเพราะในน้ำกรดนั้นเป็นสารกัดกร่อนอย่างรุนแรงควรสวมอุปกรณ์ป้องกันดวงตาถุงมือขณะที่ทำงานในกรณีนี้อยู่รวมทั้งระวังอย่าตะแคงแบตเตอรี่เด็ดขาด เพราะน้ำกรดสามารถรั่วไหลออกมาทางรูระบายได้

และถ้าไม่อยากให้แบตเตอรี่เสื่อมก่อนวัยอันควรก็อย่าทำในสิ่งต่อไปนี้ก็จะทำให้แบตเตอรี่นั้นอยู่ได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น 

  • อย่าจอดรถทิ้งไว้นานเกินไป

เพราะการที่เรานั้นจอดรถทิ้งไว้นานเกินไปอาจเป็นสาเหตุของแบตเตอรี่เสื่อมที่พบได้เป็นอันดับต้นๆเพราะตัวแบตเตอรี่จะมีการคลายประจุไฟฟ้าในตลอดช่วงเวลาที่เราไม่ได้ขับ ทำให้กระแสไฟฟ้าตัวนั้นอ่อนลงไปเรื่อยเรื่อยจนทำให้แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพ และเกิดอาการรถหมดไม่สามารถใช้งานได้ในที่สุด

  • เลือกใช้แบตเตอรี่ที่ไม่เหมาะกับตัวรถยนต์

หากเราเลือกใช้แบตเตอรี่ที่มีแอมน้อยเกินไปไดชาร์จก็จะส่งกระแสไฟฟ้ามายังแบตเตอรี่ในสัดส่วนที่มากหรือเกินเกินไปจะทำให้แบตเตอรี่นั้นเต็มเร็ วร้อนเร็วและมีไฟเข้าตลอดเวลาในปริมาณที่เกินความจำเป็นและนี่คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แบตเตอรี่นั้นมีอาการเสื่อมสภาพ ก่อนอายุการใช้งานควรเลือกแบตเตอรี่ที่มี ความเหมาะสม และต้องทำการศึกษาความเข้าใจให้ดีก่อนซื้อแบตเตอรี่ทุกครั้ง

  • เผลอเปิดไฟส่องสว่างทิ้งไว้ทั้งคืน

การเผลอเปิดไฟส่องสว่างของรถทิ้งไว้ทั้งคืนเป็นปัจจัยที่ทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมสภาพก่อนถึง เวลาที่เหมาะสมดังนั้นการจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังหลอดไฟที่เปิดอยู่ตลอด จนไฟหมดซึ่งปล่อยให้แบตเตอรี่นั้นหมดไวได้มากกว่าปกตินั่นเองดังนั้นการจอดรถแล้วเราควรสังเกตด้วยว่าเราได้เปิดไฟค้างทิ้งไว้หรือไม่

  • ดัดแปลงไดชาร์จ

เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ส่งผลต่อแบตเตอรี่โดยตรงเพราะการที่แบตเตอรี่ได้รับพลังงาน ไฟฟ้ามากจนเกินไปเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจจะทำให้เกิดแบตเตอรี่รถเสื่อมสภาพ จนไม่สามารถใช้งานได้อีกเราจึงไม่ควรดัดแปลงไดชาร์จหากไม่มีความจำเป็น

  • น้ำกลั่นสกปรกหรือมีสิ่งผิดปกติปนเปื้อน

น้ำกลั่นถือว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญที่อยู่ในแบตเตอรี่ถ้าหากมีสิ่งแปลกปลอม หรือสิ่งปนเปื้อนอยู่ก็อาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้แบตเตอรี่เก็บไม่อยู่และเสื่อมสภาพก่อนถึงกำหนด

  • อยู่ในสถานที่ที่หนาวหรือร้อนจัดเกินไป

แบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ที่มีความละเอียดอ่อนแม้กระทั่งอุณหภูมิที่ต่ำหรือสูงๆจนเกินไปจะส่งผลกระทบต่อการทำงานได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นแบตเตอรี่ที่เก่าและมีความเสี่ยงสูงก็ควรตรวจเช็คอยู่สม่ำเสมอ อย่าฝืนการใช้งานแบตเตอรี่ที่นานจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดปัญหาตามมาแบบไม่ทันตั้งตัว

  • มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใน รถเยอะเกินไป

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการแต่งรถยนต์และมีอุปกรณ์เสริมต่างๆเพิ่มเติมติดจอทีวีและไฟส่องสว่างเครื่องเสียงลำโพงก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักในการที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าสูง และทำให้เกิดการทำงานหนักอย่างมากของแบตเตอรี่ จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดแบตเตอรี่นั้นเสื่อมสภาพก่อนอายุการใช้งาน และมีอีกหนึ่งกรณีคือเกิดจากการติดตั้งอุปกรณ์อุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม พอไฟรั่วมันก็ทำให้แบต หมดเร็วมากยิ่งขึ้นและเมื่อแบตหมดบ่อยก็จะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

แนะนำ รถยนต์คันเล็ก ที่ตอบโจทย์การใช้งานมือใหม่

รถยนต์คันเล็ก

รถยนต์คันเล็ก ราคาไม่ถึงแสน ที่เหมาะแก่การขับขี่ในเมืองด้วยขนาดตัวรถและเครื่องยนต์ที่เหมาะแก่การขับขี่ได้อย่างคล่องแคล่วเป็นพิเศษเพราะต้องอาศัยคุณสมบัติต่างๆในการประหยัดน้ำมันโดย รถยนต์คันเล็ก นั้นจะมีฟังก์ชันที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไปพร้อมสามารถเลือกปัจจัยต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและตรงตามสไตล์ได้ตามความชื่นชอบ เพราะมีหลายรุ่น หลายขนาดและสามารถมีพื้นที่เก็บสัมภาระได้อย่างเพียงพอถ้าหากใครเริ่มเข้ามาทำงานในเมืองหลายปีและอยากจะซื้อรถยนต์คันเล็กที่สามารถขับขี่ได้อย่างสะดวกรวดเร็วและเหมาะแก่การท่องเที่ยวคาเฟ่ใกล้ๆ ไม่ต้องแบกของหนักขึ้นแท็กซี่หรือรถโดยสารอีกต่อไปเพราะว่ารถยนต์นั้นเป็นอะไรที่มีความสะดวกเป็นอย่างมากแถมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการชีวิตได้เป็นอย่างดีที่สุดเลยทีเดียวแน่นอนว่ารถยนต์แต่ละคันนั้นถูกออกแบบมาให้มีลักษณะที่แตกต่างกัน อย่างรถกระบะก็เหมาะแก่การขนของหรือการขนส่งและการที่เรามีรถยนต์เล็กๆ สำหรับการรับส่งเด็กๆ ไปโรงเรียนหรือว่าเราจะไปตลาดช้อปปิ้งต่างๆก็สะดวกสบาย สามารถหลบแดดหลบฝนได้เจอที่ไหน ก็สามารถจอดได้เลย แม้จะมีพื้นที่ในการจอดแคบๆ และนี่คือข้อดีของรถยนต์ไซส์เล็กที่มีความคล่องตัวสูง จอดง่ายขับขี่ได้อย่างสะดวกรวดเร็วและที่สำคัญจะมีการประหยัดน้ำมันที่ค่อนข้างสูงมากกว่ารถยนต์ซีดานทั่วไป

รีวิว รถยนต์คันเล็ก เพื่อให้มือใหม่ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น 

รถยนต์คันเล็ก ที่น่าจับตามองแห่งปี 2024 จะมีรุ่นไหนบ้างนะที่น่าสนใจและประหยัดน้ำมันขับขี่ได้อย่างโฉบเฉี่ยว 

รถยนต์คันเล็ก
  1. Nissan Almera

เป็นอีกหนึ่งรถยนต์ที่สามารถใช้งานในเมืองได้อย่างคล่องตัวและสะดวกปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกับรุ่น Nissan Almera ที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยสูงสุดแบบรอบคัน 360 องศาและช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้มากยิ่งขึ้นกับทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะจะเป็นด้านหน้า ด้านหลังหรือจุดอับสายตาก็ไม่ต้องกังวลเลยเพราะมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยถุงลม นิรภัย 6 จุดแถมยังเป็นรถเล็กที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ turbo ขนาด 1.0 ลิตรที่ ทรงพลังมากกว่าทำให้ออกตัวได้แรงและแซงได้อย่างมั่นใจ ประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กิโลต่อลิตรราคารุ่นนี้เริ่มต้นที่ 549,000 บาทและในตัวท็อปสุดอยู่ที่ 699,000 บาท

รถยนต์คันเล็ก
  1. Mitsubishi Mirage 

รถยนต์คันเล็กสำหรับผู้หญิง เป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่สามารถขับขี่ในตัวเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็วเพราะ Mitsubishi Mirage เป็นรถเก๋งคันเล็กที่มีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วที่สามารถเชื่อมต่อระบบของสมาร์ทโฟนต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย แม้จะเดินทางในสถานที่สถานที่ที่ไม่คุ้นเคยก็สามารถเปิด GPS ดูได้อย่างสบายตา โทรเข้าโทรออกก็สามารถรับสายได้เลยทันที หรือจะเปิดเพลงฟังเพลงกันแบบชิลล์ๆ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายไปเสียหมด แถมยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตรอัตราการเร่งดี ประหยัดน้ำมันและเป็นระบบเกียร์อัตโนมัติที่ช่วยยืดอายุ การใช้งาน เกียร์ให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น Mitsubishi Mirage รุ่นนี้ราคาเริ่มต้นที่ 474,000 บาทและรุ่นท็อปสุดจะอยู่ที่ 579,000 บาท

รถยนต์คันเล็ก
  1. Suzuki Swift 

รถยนต์คันเล็ก2024 เป็นอีกหนึ่งรุ่นยอดฮิตตลอดกาลสำหรับรถยนต์คันเล็ก ที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวใกล้ๆไปกับเพื่อนเพื่อนต้องรุ่น Suzuki Swift ที่มีระบบการป้องกันและสั่นสะเทือนช่วย ลดเสียงรบกวนภายนอกได้เป็นอย่างดีและไม่ว่าจะเปิดเพลงฟัง หรือคุยกับเพื่อน ก็ไม่ต้องตะโกนอีกต่อไปเพราะมาพร้อมกับระบบสัมผัสหน้าจอ 8 นิ้วที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และแอนดรอยด์ ออโต้ที่เป็นรถยนต์คันเล็กที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตรที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่า 23 กิโลเมตรต่อลิตร ราคารุ่นนี้อยู่ที่ 567,000 บาทและราคาตัวท็อปอยู่ที่ 637,000 บาท

  1. Toyota Yaris ATIV 

รถยนคันเล็ก ราคาถูก ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของวัยรุ่นวัยทำงานได้เป็นอย่างดีเพราะมีลำโพง  Pioneer premium speaker ถึงขนาดนั่งตรงไหนก็ได้ได้ยินอย่างชัดเจนเพราะมีถึง 6 ตำแหน่งมาพร้อมกับห้องโดยสาร ที่มีพื้นที่เก็บของได้อย่างกว้างขวาง และจัดเต็มในเรื่องของระบบความปลอดภัย กับดิสก์เบรก 4 ล้อช่วยให้เบรคได้อย่างนุ่มนวลมั่นใจและมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดขนาด 1.2 ลิตร แบบ 4 สูบ ระบบเกียร์อัตโนมัติ super CVT-i ที่สามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น ราคารุ่นนี้เริ่มต้นที่ 549,000 บาทราคาสูงสุด รุ่นตัวท็อปอยู่ที่ 699,000 บาท

รถยนต์คันเล็ก
  1. Mazda 2 

สำหรับใครที่อยากได้ รถยนต์คันเล็กที่มี ดีไซน์ สุดโฉบเฉี่ยว ล้ำนำสมัยและภายนอกดูเรียบหรู มินิมอลเหมาะแก่วัยรุ่นในสมัยนี้ ที่ยังคงความโฉบเฉี่ยวในเมืองกันได้แบบสุดๆไม่ว่าจะขับไปทำงานหรือขับไปในห้าง             ก็สามารถขับได้อย่างต่ำความสบายใจหายห่วงเพราะมีการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ให้ถึง 2 แบบทั้งขนาดเบนซินขนาด 1.3 ลิตรที่มาพร้อมกับสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และเครื่องยนต์คลีนดีเซลขนาด 1.5 ลิตรที่ช่วยให้การขับขี่ได้อย่างสนุกสนานและราบรื่นมากยิ่งขึ้นราคาเริ่มต้นในรุ่นเบนซิน 1.3 ลิตร ราคาอยู่ที่ 599,000 บาทและเครื่องยนต์เบนซินรุ่นแพงที่สุดอยู่ที่ 730,000 บาทและเครื่องยนต์คลีนดีเซลจะเริ่มต้นที่ 720,000 บาทและเครื่องยนต์คลีนดีเซลรุ่นท็อปสุด 830,000 บาท

  1. Suzuki CELERIO 

รถยนต์คันเล็กพร้อมจะพาทุกคนไปยังจุดหมายด้วยสมรรถนะที่ดีเยี่ยมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายนอกนั้นดูโฉบเฉี่ยวมาพร้อมกับลูกสปอร์ตล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้วดีไซน์ด้านไหนกว้างสบาย และเป็นรถสำหรับสาวโสดหรือสำหรับคู่ชีวิตที่มีครอบครัวเล็กๆ สามารถเพลิดเพลินไปได้ตลอดทุกเส้นทาง ด้วยการเชื่อมต่อ USBสมาร์ทโฟนของลำโพงรถยนต์และมาพร้อมกับเครื่องยนต์  K10B 12 ประหยัดน้ำมันถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตรได้รับการรับรองจากมาตรฐานในการประหยัดพลังงานและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และนุ่มนวลด้วยการขับขี่ลดแรงเสียดทานและเสียงรบกวนจากภายนอกได้ ราคารุ่นนี้เริ่มต้นที่ 338,000 บาท และรุ่นท็อปสุดจะอยู่ที่ 437,000 บาท

  1. Nissan MARCH 

เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เป็นรถเล็กที่ประหยัดพลังงานได้อย่างง่ายดาย มาพร้อมกับดีไซน์ที่มีความโดดเด่นและกระจังหน้าโครเมียมแบบรังผึ้ง หลังคาสปอยเลอร์ที่ดูความทันสมัยโฉบเฉี่ยวอย่างสุดๆ และสปอยเลอร์หลังที่เหมาะแก่การขับขี่ แบบคล่องตัวมีระบบสัญญาณเตือนเมื่อลืมปิดไฟหน้า ลืมดึงกุญแจและดับเครื่องยนต์โทนสีภายในมีหลากหลายสี ไม่แพ้ความงามด้านภายนอกเรื่องความแรงก็อยู่ที่ 79 แรงม้าเป็นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรที่ประหยัดน้ำมันได้แบบไม่น้อยหน้าใคร เพราะประหยัดน้ำมันไปถึง 20 กิโลต่อลิตรราคาเริ่มต้นที่ 420,000 บาท 510,000 บาท ขอแนะนำเลยราคาไม่แรงอยู่ที่ 510,000 บาท

  1. Honda BRIO 

เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีเครื่องยนต์แรงกว่ารถอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ SOHC i-VTEC ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ 6 วาล์ว 90 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตรประหยัดน้ำมันได้ถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตรและเป็นรถที่ใช้สำหรับครอบครัวที่มีขนาดเล็ก มีความปลอดภัยสูงและขับคล่องได้อย่างง่ายดาย โช้กหนึบ ติดถนนรถ  ไม่แกว่งและที่สำคัญยังมีระบบที่ช่วยตรวจจับแรงเหวี่ยงของรถขณะเข้าโค้ง ทำให้สามารถเข้าโค้งได้อย่างสบายสบายใจแม้จะเป็นรถรุ่นเล็กก็ตาม ดีไซน์ภายนอกมีความสวยงามแม้จะเป็นรถเล็กกระทัดรัดแต่ก็ยังเป็นรถที่มีความสมัยใหม่ โดนใจและที่สำคัญราคาเริ่มต้นที่ 495,000 บาทเท่านั้นและตัวท็อปสุดอยู่ที่  577,000 บาท

รถยนต์คันเล็ก
  1. Nissan NOTE 

เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีดีไซน์ภายในกว้างขวางและมาพร้อมกับรถยนต์ที่มีถึง 5 ประตูเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในการขับขี่และสะดวกเดินทางเป็นอย่างมากเป็นรถครอบครัวที่เหมาะสำหรับสายช้อปปิ้ง และท่องเที่ยวต่างจังหวัดสามารถปรับพับเบาะได้ 3 แบบได้แก่ พับปกติพับเบาะหลัง 60:40 และสามารถปรับราบได้ถึง 100% ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1198 ซีซีและเป็นมิตรแต่สิ่งแวดล้อมเหมาะสำหรับสายแคมปิ้งที่ต้องการไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ในบรรยากาศชิลล์ๆ และรถคันนี้ใช้น้ำมันเพียง 5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตรเท่านั้นเมื่อขับบนทางด่วนราคาเริ่มต้นที่ 530,000 บาทและราคารุ่นท็อปสุดอยู่ที่ 595,000 บาท

  1. New MG5 BEYOND 

สำหรับคนรักรถสปอร์ตและชื่นชอบการขับขี่แบบโฉบเที่ยวและประหยัดน้ำมันไปในเวลาเดียวกันขอแนะนำรุ่น New MG5 BEYOND เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรที่ให้ให้กำลังสูงสุดถึง 114 แรงม้ากำลังเครื่องแรงเต็มสูบมาพร้อมกับน้ำมันที่ประหยัดถึง 7.9 กิโลเมตรต่อลิตรเป็นการใช้รถยนต์ที่เทียบเท่ารถอีโค่คาร์ มาพร้อมกับเบรคมือไฟฟ้าและสามารถปรับน้ำหนักของพวงมาลัยได้ถึง 3 ระดับยกระดับความหรูหราด้วยหลังคาซันรูฟที่สามารถเปิดปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ให้ผู้ขับขี่ได้ขับรับลมชมวิว รวมถึงสัมผัสกับบรรยากาศ ขณะการเดินทางในการขับขี่เส้นทางต่างจังหวัดได้อย่างปลอดภัย มั่นใจทุกเส้นทางราคารุ่นนี้เริ่มต้นที่ 585,000 บาท และรุ่นท็อปสุดอยู่ที่ราคา 679,000 บาท

พบกับรถยนต์คันเล็ก ใช้งานได้อย่างสะดวกปลอดภัยราคาไม่แรง 

เป็นอย่างไรกันบ้างกับรถยนต์ขนาดเล็ก 10 รุ่นที่เราเลือกมาหลากหลายค่าย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่คัดสรรมาโดยเฉพาะที่ ตอบโจทย์ ความต้องการไลฟ์สไตล์ทุกคนได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมีความประหยัดน้ำมันอย่างสุดๆเพราะในยุคเศรษฐกิจปัจจุบันนั้นราคาน้ำมันค่อนข้างแพง คนจึงหันมานิยมรถเล็กหรือรถ Ecocar ยิ่งขึ้นซึ่งบางคนก็ก้าวกระโดดไปถึงรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอะไรที่ลงตัวมากกว่าในการขับขี่ในเมืองแต่อย่างไรก็ตามการเลือกรถยนต์ซักคันนึงก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ต้องใช้เทคนิคและความเข้าใจรวมถึงรีวิวต่างๆต้องดูละเอียดให้อย่างครบถ้วน โปรโมชั่น ที่เซลล์ และศูนย์รถยนต์มอบให้กับเราก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน เพื่อที่เราจะได้เปรียบเทียบราคาซื้อจะได้ถูกใจและไม่เสียดายภายหลังนั่นเอง การที่จะมีรถยนต์หนึ่งคันนอกจากจะเป็นรถคู่ใจในการขับขี่แล้ว ดีไซน์ภายนอกก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะต้องดูด้วยว่าเป็นรถที่เราใช้ไปทำงานในทุกๆวัน หรือไม่หรือเป็นแค่เพียงรถในการจ่ายตลาดเท่านั้น ก็เลือกให้เหมาะกับคนในครอบครัวของเราด้วย   ถ้าบางครอบครัวมีขนาดครอบครัวไม่ใหญ่ จำนวน 3 คนก็อาจจะใช้รถยนต์คันเล็กได้แต่ถ้าหากมีครอบครัว 5 คนขึ้นไปก็คงจะต้องเลือกให้เพียงพอต่อความกว้างและความพอเหมาะพอดีเพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาในการเปลี่ยนใจ ภายหลังเมื่อซื้อรถยนต์คันเล็กไปแล้ว พร้อมเลือกการขับขี่ที่คล่องตัวตอบโจทยไลฟ์สไตล์ รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆเมื่อเราขับรถออกเดินทางไกลไปยังต่างจังหวัดแล้ว จะมีปัญหาในภายหลังหรือเปล่าประหยัดน้ำมันมากมากน้อยเพียงใด เราสามารถเปรียบเทียบได้ก่อนที่จะซื้อและการตัดสินใจที่ดีมีการศึกษาข้อมูลมาอย่างยาวนาน ก็จะทำให้เรามีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์มากยิ่งขึ้น เพื่อความคุ้มค่าและความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนและอนาคตของผู้ขับขี่เอง

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

แนะนำ รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี ที่ตอบโจทย์วัยทำงานได้อย่างคล่องตัว 

รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี

หากจะให้พูดถึง รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี ซักหนึ่งคันที่เรามองเห็นอยู่ตามท้องถนนมากมายเพื่อนๆ          เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมต้องเลือกรถ Eco Car รถอีโคคาร์คืออะไร ถ้าหากเรามีทุนในการซื้อรถประเภทอื่นอย่างเช่นรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์ไฮบริด สามารถเลือกซื้อได้หรือไม่ หรืออีโคคาร์มีข้อดีมากกว่าอย่างไร      ซึ่งรถยนต์อีโคคาร์ นั้นก็กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดมาก เพราะสามารถช่วยประหยัดน้ำมันระหว่างการเดินทางได้แล้วและก็ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมของเราได้อีกด้วย แถมยังมีขนาดเล็กกระทัดรัดเหมาะสำหรับการขับในเมืองรวมถึงการขับไปยังต่างจังหวัดใกล้ๆ หากใครกำลังวางแผนที่จะหารถยนต์ Eco Car ใช้งานและอยากรู้ว่ามียี่ห้อใดบ้างที่จะจัดจำหน่ายในท้องตลาดประจำปี 2024 โดยในวันนี้เราก็จะมาแนะนำรถยนต์ Eco Car 10 รุ่นที่จะกลายเป็นขวัญใจของผู้ใช้งานต่อไป แถมราคาก็ไม่แพงและมีมาตรฐานปลอดภัยสูงเนื่องจากรถยนต์ประเภทนี้นั้นมีราคาที่ถูกลง แต่ได้รับการยกเว้นภาษีในส่วนของอะไหล่วัสดุนำเข้า และยังเป็นที่ต้องการของประชาชนภาครัฐ ให้การสนับสนุนในการลงทุนเป็นอย่างมากอีกด้วย และเหมาะแก่การใช้งานทั่วไป เพราะรถยนต์ประเภทนี้สามารถเข้าศูนย์เช็คระยะได้อย่างรวดเร็ว และไม่ต้องหวั่นเลย ถ้าหากขับไปเที่ยวในต่างจังหวัดไกล เพราะมีศูนย์ดูแลประจำทุกเขตพื้นที่

รีวิว รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี อีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการตัดสินใจ 

 รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี ที่น่าจับตามองจะมีรุ่นไหนบ้างนะและจะมีรุ่นที่เพื่อนๆกำลังแอบเล็งอยู่หรือเปล่ามารับชมกันเลย

  1. รถยนต์ Eco car Suzuki Swift GL NEXT

นับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าซื้อมากสำหรับรถยนต์อีโค่คาร์ เพราะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีรูปร่างเล็กกระทัดรัดเหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองแถมยังมีความโดดเด่นเรื่อง ดีไซน์ การประหยัดน้ำมัน เป็นอย่างมากเพราะอัตราการใช้น้ำมันของรถคันนี้ประหยัดสูงสุดถึง 23 กิโลเมตรต่อลิตรและยังมีความโดดเด่นเรื่องดีไซน์รูปร่างต่างๆอีกทั้งยังขับเคลื่อนด้วย เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรขนาด 4 สูบ ทั้งยังให้กำลังแรงม้าที่ดีเยี่ยม เมื่อเทียบกับกลุ่มในรถอีโค่คาร์ แถมมีฟังก์ชั่น ที่สามารถขับขี่ได้แรงไม่มีสะดุด มีพื้นที่เก็บของด้านหลังสามารถเก็บได้อย่างจุใจสัมภาระเยอะก็ไม่ต้องห่วง แถมมีฟังก์ชันความบันเทิงอย่างครบครันพร้อมชุดแต่งวินเทจ ยิ่งสำหรับซูกิสวิฟต์ตัวนี้นั้นมีให้เลือกถึง 5 รุ่นย่อยโดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 567,000 บาท

รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี
  1. รถยนต์ Eco Car รุ่น City RS

รถ eco car มีรุ่นไหนบ้าง นับว่าเป็นรถยนต์อีโค่คาร์ ที่มีการตกแต่งดีไซน์ที่มีความทันสมัยเอาใจวัยรุ่นด้วยการตกแต่งดีไซน์สปอร์ตรอบคัน ทั้งภายในและภายนอกเหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ ทั้งวัยรุ่นและวัยทำงานที่ต้องการหารถยนต์สำหรับการประหยัดน้ำมัน แถมยังขับในเมืองได้อย่างคล่องตัว รถยนต์คันนี้นั้นเป็นรถยนต์   วีเทคเทอร์โบ 3 มีประสิทธิภาพในการเผาไม่เชื้อเพลิงและสามารถประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตรพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติระบบควบคุมเกียร์ 7 สปีดที่ทำให้ขับขี่ได้อย่างสนุกสนานและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รุ่นนี้นั้นยังมีการขับขี่ที่ทันสมัยกว่าเดิมโดยการมีจอควบคุมระหว่างการถอยหลังและการขับขี่จอดในสถานที่ต่างๆและมีเซ็นเซอร์คอยแจ้งเตือน หากจะมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรบอกแล้วเทอร์โบแรงบิด 173 นิวตันเมตร ในห้วงรอบ 5500 รอบต่อนาทีทำให้รู้สึกขับขี่สนุกเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ มาพร้อมกับหน้าจอควบคุมที่สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และแอนดรอยด์และเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay Google Maps เพื่อยกระดับการขับขี่ของผู้ใช้งานได้อย่างสะดวกปลอดภัยตลอดทุกเส้นทางราคาเริ่มต้นที่ 739,000 บาท

รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี
  1. รถยนต์ Eco Car รุ่น Yaris ATIV  premium

รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีดีไซน์สปอร์ตดุดันมาพร้อมกับฟังก์ชันในการใช้งานของคนรุ่นใหม่ที่สามารถเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ได้ นอกจากนี้ยังมีการประหยัดพลังงานเป็นรถยนต์ที่สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว เพราะมีขนาดเล็กกะทัดรัดง่ายต่อการสัญจรไปมา โดยเฉพาะเวลาที่จราจรติดขัด Yaris ATIV  premium รุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบที่มีประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตรและมีมาตรฐานความปลอดภัยเช่นระบบล็อกและเปิดรถยนต์แบบอัตโนมัติ มีฟังก์ชั่นและการดีไซน์ออกแบบเพื่อให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยมีการตกแต่งไฟรอบคันและกระจังหน้าสีดำเงาเพิ่มความดุดันสไตล์วัยรุ่นในการขับขี่ส่วนภายในเน้นความสะดวกสบาย ในการเก็บของและมีระบบหน้าจอสัมผัสที่มีความกว้างมากยิ่งขึ้นรองรับระบบแอนดรอยด์และ iOS ราคารุ่นนี้อยู่ที่ 659,000 บาท รถอีโคคาร์มือสอง รุ่นนี้ถือว่าประหยัดและขับขี่ได้เป็นอย่างดี 

  1. รถยนต์ Eco Car รุ่น Almera VL 

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีความ อัจฉริยะมาพร้อมกับความสะดวกสบายตลอดตลอดการเดินทางที่ทาง eco car ยอดนิยม Nissan มอบให้กับ ผู้ขับขี่ เป็นรถยนต์อีโค่คาร์ ที่มีขนาดเล็กพอดีภายใน ห้องโดยสาร กว้างสบายและที่สำคัญเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากภายนอกที่มีดีไซน์สปอร์ตสวยงามสวยงามแต่ภายในมีพื้นที่ กว้างขวางทำให้การขับขี่รู้สึกโปร่งโล่งสบาย ไม่อึดอัดมาพร้อมกับพื้นที่ท้ายรถในการเก็บสัมภาระได้อย่างกว้างมากยิ่งขึ้นสามารถจัดเก็บอีกทั้งยังตกแต่งด้วยเบาะหนังและหน้าจอควบคุมระบบสัมผัสที่มีทั้งระบบ iOS และแอนดรอยด์นอกจากนี้เครื่องยนต์ยังมีสมรรถนะ ในการขับเคลื่อนสูงโดยเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตรเทอร์โบและประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตรอีกทั้งยังติดตั้งเทคโนโลยีต่างๆกล้องมองรอบทิศทางเพื่อความปลอดภัย ระหว่างการขับขี่อีกด้วย รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี รถยนต์คันนี้ราคาเริ่มต้นที่ 655,000 บาท

รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี
  1. รถยนต์ Eco Car รุ่น Mazda 2 Hatchback

หากกำลังมองหา รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี ขอแนะนำเป็นอีกหนึ่งรุ่น ที่สามารถขับขี่ได้ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่มีห้องโดยสารที่กว้างและมีที่เก็บสัมภาระที่เยอะ ถ้าหากพูดถึงรถยนต์ประหยัดน้ำมัน Mazda ถือว่า ตอบโจทย์ การใช้งาน แถมยังเป็นที่นิยมในเมืองไทยเป็นอย่างมากเพราะรุ่นนี้นั้น นอกจากจะเหมาะกับสไตล์ของคนในเมืองแล้วยังมีราคาที่คุ้มค่ามีประสิทธิภาพของตัวรถอีกทั้งยังออกแบบรถยนต์มา 5 ประตู ให้มีลักษณะโฉบเชียวคล่องตัวห้อง โดยสารกว้างและ เครื่องยนต์ของ มาสด้าขับเคลื่อนเบนซินและดีเซล ทำงานด้วยการขับเคลื่อนล้อหน้าจึงทำให้ควบคุมการทรงตัวและโค้งได้เป็นอย่างดี แถมยังมีการติดตั้งเทคโนโลยีเทคโนโลยีด้าน ความปลอดภัย ในการแจ้งเตือนในจุดที่อับสายตา รวมทั้งสมรรถนะในการทรงตัว รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี ราคารุ่นนี้อยู่ที่ 546,000 บาท

รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและราคาสบายกะเป๋าเป็นอย่างมาก 

รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี
  1. รถยนต์ Eco Car รุ่น Attrage Active

รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี เป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่น่าสนใจออกแบบมาเพื่อมือใหม่ และผู้ที่กำลังมองหารถยนต์คันแรกเพราะเป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพฟังก์ชันครบครัน ใช้งานได้อย่างแท้จริงโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องแต่งเพิ่มเติมมีเครื่องยนต์ 3 สูบ ควบคู่กับระบบการทรงตัวแบบเกียร์อัตโนมัติที่เหมาะกับการทำงานในเมืองและออกเดินทางไปยังต่างจังหวัดได้ ทางแบรนด์ได้ออกแบบสไตล์ให้มีความทันสมัยโดยการตกแต่งกระจังหน้าลายโครเมียม ตัดกับไฟหน้ามัลติรีเฟล็กตอร์ฮาโดรเจน การตกแต่งรถยนต์ภายในดูหรูหรามากยิ่งขึ้นแถมยังมีลูกเล่นต่างๆที่น่าสนใจทั้งระบบการสั่งงานด้วยเสียง และมาตราวัดการขับขี่ราคารุ่นนี้อยู่ที่ 529,000 บาท

  1. รถยนต์ Eco Car รุ่น nissan march

เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่มีมาตรฐานเหมาะกับชีวิตของคนในเมืองและมีความคุ้มค่า กะทัดรัดเหมาะแก่การ      ใช้ในชีวิตประจำวันและเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมมายาวนานถึง 10 ปี โดยรถยนต์รุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์   3 สูบและมีประสิทธิภาพสามารถประหยัดน้ำมันได้ถึง 20 กิโลเมตร ต่อลิตรนอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยทั้งเรื่องระบบเซ็นเซอร์ถอยหลังเพื่อการแม่นยำในการเข้าจอด และมีดีไซน์การออกแบบแผงควบคุมเครื่องเสียงต่างๆจากพวงมาลัยรถยนต์ กล้องมองหลังอัจฉริยะ และสามารถเตือนวันสำคัญ ในการแจ้งซ่อมบำรุงได้รถยนต์คันนี้อยู่ที่หากมองหา รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี ขอแนะนำเลยราคาไม่แรงอยู่ที่ 510,000 บาท

  1. รถยนต์ Eco Car รุ่น Claz RS

เป็นรถยนต์ที่เหมาะแก่การขับขี่มาพร้อมกับการประหยัดน้ำมันและมีราคาไม่แพงขอแนะนำรุ่นรถยนต์ Eco Car รุ่น Claz RS ที่มีดีไซน์สปอร์ตเทคโนโลยีที่ทันสมัย แถมยังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน K12B ขนาด 1.25 ลิตรที่มีกำลังสูงสุดถึง 91 แรงม้าสามารถประหยัดน้ำมันสูงสุดได้ถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตรและช่วยตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ระบบเบรกแบบ ABS ที่ช่วยป้องกันการล็อคล้อขณะเบรกกะทันหัน เพื่อยกระดับในการขับขี่ได้อย่างสมดุลย์และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นนอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี ที่มาพร้อมกับตัวถังที่ทันสมัยทั้งหน้าจอการแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อบลูทูธ บนสมาร์ทโฟนพร้อมกล้องมองหลังและเซ็นเซอร์กะระยะถอยจอดที่มีประสิทธิภาพ ราคารุ่นนี้อยู่ที่ 678,000 บาท

รถอีโคคาร์รุ่นไหนดี
  1. รถยนต์ Eco Car รุ่น New CX-3

เป็นรถยนต์สำหรับครอบครัวที่มีความโฉบเฉี่ยวและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เราขอนำเสนอเพราะเหมาะแก่การใช้งานทั่วไป ทั้งชีวิตประจำวันและการเดินทางท่องเที่ยวไปกับเพื่อนๆ และมีเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 20 ลิตรมีสมรรถนะด้านการทำงานและมีประสิทธิภาพสูง ออกแบบมาสำหรับการขับขี่   ที่เป็นทรง SUV มีห้องภายในโดยสารที่กว้างขวาง และยังมีระบบการควบคุมสมรรถนะการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยมตอบสนองด้านการใช้งานที่มีความสม่ำเสมอ ประหยัดพลังงานและนอกจากนี้ยังมีดีไซน์การออกแบบเน้นความโฉบเฉี่ยวแต่ยังคงซึ่งไว้ความเรียบหรูและความสะดวกสบายราคารุ่นนี้อยู่ที่ 786,000 บาท

  1. รถยนต์ Eco Car รุ่น Mirage GLX MT

เป็นอีกหนึ่งรถเล็กที่มีผู้สนใจกันเป็นจำนวนมากทั้งดีไซน์และเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพเหมาะแก่การขับขี่ชีวิตประจำวันมีราคาย่อมเยาสามารถเอื้อมถึงได้และมีเครื่องยนต์เบนซินถึง 6000 รอบต่อนาทีหรือขนาด 78 แรงม้าและที่สำคัญจะทำให้การขับขี่ในเมืองของผู้ใช้งาน มีความสนุกเพลิดเพลินมาก เพราะระหว่างตัวรถและรถคันหน้าจะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกระดับมีความโฉบเฉี่ยวและไฟท้ายแบบ LED พร้อมกระจกมองข้างแบบพับไฟฟ้าและยังมีการเสริมฟังก์ชันต่างๆเพื่อการขับขี่ที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้นหน้าจอระบบสัมผัสถึง    7 นิ้วและมีการขับขี่แบบ Hight Contrast 

ดังนั้นการเลือกซื้อรถยนต์ Eco car ซักหนึ่งคันก็มีความจำเป็นอย่างมาก เพราะเป็นทรัพย์สินที่มีราคาค่อนข้างแพงและสามารถใช้งานเป็นรถคู่ใจของเราได้อย่างยาวนาน ดังนั้นการศึกษาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจซื้อรถยนต์ก็มีความจำเป็นเช่นเดียวกัน เพื่อให้หลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาในการขับขี่และตอบโจทย์  ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตรวมถึงยังเป็นการประมาณการคาดการณ์ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่หลังจากเราซื้อรถยนต์มาแล้วแต่รถยนต์ Eco car ก็เหมาะและตอบโจทย์สำหรับคนที่ใช้ชีวิตในเมืองได้ เป็นอย่างมากเพราะมีขนาดเล็กจอดง่ายและประหยัดน้ำมัน ดูแลรักษาได้ไม่แพงจนเกินไป แถมบางรุ่นยังมี โปรโมชั่น ที่น่าสนใจ ทั้งรถทั้งแถมจากโชว์รูมอีกด้วยราคาส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ 550,000 บาทถึงราคา 700,000 บาทขึ้นอยู่กับ option ต่างๆของรถยนต์ Eco car รวมทั้งยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆไม่ว่าจะเป็นประกันชั้นหนึ่ง หรือการตกแต่งอุปกรณ์เพิ่มเติม พ.ร.บดังนั้นควรตัดสินใจให้ดีเพราะการนำเงินก้อนมาเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ อาจจะเป็นการใช้เงินในอนาคตได้ และควรวางแผนระยะยาวในการหารถยนต์คู่ใจสำหรับการใช้งานได้เลย 

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

แนะนำ ราคารถยนต์ 2567 ว่ามีรุ่นไหนบ้างที่นิยมขับในไทย  

ราคารถยนต์ 2567

ปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถยนต์นั้นเป็นเหมือนกับสิ่งจำเป็นและกลายเป็นปัจจัยสี่ของทุกๆคนกันไปแล้วเพราะไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนเราจะต้องใช้ยานพาหนะขับเคลื่อนเพื่อไปยังจุดมุ่งหมายที่รอคอยอยู่นั่นเองซึ่ง ราคารถยนต์ 2567 นั้นจะมีรุ่นไหนน่าขับและน่าซื้อบ้างพร้อมกับ เช็คราคารถยนต์ 2024 อัพเดทราคาล่าสุดเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อรถยนต์เหมาะกับทุกๆคนไม่ว่าจะ เป็นการซื้อไปขับในเมืองแบบสบายๆหรือจะซื้อออกไปขับต่างจังหวัดก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

ราคารถยนต์ 2567

รีวิว ราคารถยนต์ 2567 สิ่งสำคัญรองจากปัจจัยสี่นั้นก็คือยานพาหนะที่จะพาไปถึงยังจุดหมาย 

 แนะนำ ราคารถยนต์2567 จะมีรุ่นไหนน่าซื้อบ้างและเอื้อมถึงราคาของรุ่นไหนบ้างมาดูกัน 

1. Toyota Yaris ATIV

อีกหนึ่งแบรนด์จาก โตโยต้าที่หลายคนนั้นมีไว้ครอบครองกับ All new Toyota Yaris ATIV ที่มีความสวยแบบละมุนพร้อมกับได้พรีเซนเตอร์สุดหล่อจากแบมแบม GOT7 มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโตโยต้าในครั้งนี้อีกด้วยเป็นอีกหนึ่งรถยนต์ที่มีความคุ้มค่ามากที่สุดมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรกำลังสูงสุดถึง 94 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 110 นิวตันเมตรรองรับน้ำมันทั้ง E 20 ประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตรรถยนต์คันนี้นั้นตกแต่งด้วยโทนสีดำสลับกับเบาะผ้าพวงพวงมาลัยยูรีเทนตกแต่งด้วยแถบสีน้ำเงินเมทัลส์มีโหมดขับขี่ทั้งอีโคลอและสปอร์ตมีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอลรวมทั้งระบบความปลอดภัยอย่างจัดเต็ม อัปเดตราคารถยนต์ 2567 นั้นก็เริ่มต้นที่ 539,000 บาท

2. Mazda 2 Hatchback  

ที่สุดของ ราคารถยนต์2567 อีกหนึ่งรถยนต์ที่เป็นสุดยอดนวัตกรรมที่มีคู่แข่งเสียดสีมากับ โตโยต้านั่นก็คือ Mazda 2 Hatchback ที่เจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังมองหารถราคาไม่เกิน 600,000 มาพร้อมกับลูกเล่นทั้งความสปอร์ตและชุดแต่งทั้งภายในและภายนอกรวมทั้งกระจังหน้าแบบ Mesh Grille มีหลังคาสีดำล้อขนาด 16 นิ้วมีสีสันสดใสพร้อมกับ option บางอย่างที่มีความหลากหลายรวมทั้งยังเป็นเครื่องยนต์เบนซินสี่สูบขนาดใหญ่จับคู่กับเกียร์โทมัสหกจังหวะเริ่มต้นด้วย 1.3 อีสปอร์ตและมี ราคารถใหม่ อยู่ที่ 599,000 บาทเท่านั้น

3. Suzuki Swift

ขวัญใจรถสาวสาววัยรุ่นตลอดกาลกับรถยี่ห้อยี่ห้อ Suzuki Swift ที่เตรียมแผนเปิดตัวล่าสุดและปล่อย Suzuki Swift 2023 Gl Next ไปไม่นานเป็นสวิฟต์ที่พร้อมชุดแต่งใหม่รอบคันเอาใจสายวินเทจมาพร้อมกับสเกิร์ตและสติกเกอร์ลายใหม่ที่มีความอีโคคาร์และมียอดขายมาแรงที่สุดแห่งปีที่สื่อหลายคนนั้นให้ความสนใจเพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ดูแลง่ายไม่ซับซ้อนเหมาะกับสาวสาวที่ชื่นชอบการขับรถที่มีความสะดวกสบายในเมืองและอยากหารถคันแรกด้วยความเป็นรถยุโรปแต่มาพร้อมกับความสปอร์ตประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นเมื่อขับขี่ในเมืองอยู่ที่ 21.8 กิโลเมตรต่อลิตร ราคารถยนต์2567 เริ่มต้นที่ 557,000 บาทในรุ่น GL 

4. Mitsubishi Mirage  

ราคารถยนต์2567 อีกหนึ่ง ยี่ห้อรถยนต์ที่เปิดตัวมาอย่างเป็นทางการกับรถยนต์ Mitsubishi Mirage ที่มีความเป็นอีโคคาร์อย่างสูงสุดพร้อมกับเอาใจวัยรุ่นด้วยการแต่งเป็นสไตล์สปอร์ตพร้อมกับห้าประตูที่นั่งขนาดเล็กมีความคล่องตัวสูงสูงจอดสะดวกแม้อยู่ในเมืองพร้อมกับมีคุณสมบัติประหยัดเชื้อเพลิงและมีสมรรถภาพช่วงล่างที่ค่อนข้างยึดเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยมรัศมีวงเดียวที่แคบที่สุด 4.4 ถึง 4.6 เมตรก็เอาอยู่เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มหัดขับขี่รถยนต์โดยรุ่นนี้มีเกียร์ธรรมดา ราคารถยนต์ 2567 เริ่มต้นเพียง 474,000 บาทเท่านั้น

5. Honda city

อีกหนึ่ง ยี่ห้อรถ ที่โดนใจวัยรุ่นทุกคน ราคารถยนต์2567 อย่างแน่นอนกับ Honda city ที่เป็นรถที่มามาพร้อมกับความหลากหลายพร้อมกับมีความโดดเด่นทั้ง ดีไซน์โฉบเฉี่ยวแบบสะดุดตามีทั้งระบบซีดาน นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับความปลอดภัยระดับสูงสูงสุดแบบเบนซินขนาดสามสูตรเทอร์โบ 1.0 ลิตรระบบคู่เกียร์แบบ CVT เอาใจสายวัยรุ่นทุกคนที่ชื่นชอบกับการขับขี่ที่โฉบเฉี่ยวและมีรุ่นที่ท็อปสุดสุดนั่นก็คือรุ่น Rs และ e :HEV Rs โดยรถรุ่นนี้นั้นเริ่มต้นใน ราคารถยนต์2567 ราคา ที่ถูกที่สุดอยู่ที่ระบบซีดาน 629,000 บาท 

ราคารถยนต์ เราได้รวบรวมมาไว้ให้ทุกคนตัดสินใจแล้ววันนี้  

ตารางผ่อนรถยนต์ ก็สามารถสอบถามเซลที่เป็นผู้ดูแลรถยนต์ได้เลย และไม่ว่ารถยนต์ยี่ห้อไหนก็ตามทุกคนจะต้องเลือก ดีไซน์ ที่ชอบและสเปกที่ใช่เพื่อที่จะได้ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการขับขี่ได้อย่างแน่นอนซึ่งรถยนต์ในวันนี้นั้นเราก็ได้อัพเดท ราคารถยนต์2567 ไว้ให้ทุกคนตัดสินใจและเลือกซื้อกันได้เลยอีกทั้งห้ามพลาดกับโปรโมชั่นและแพ็คเกจต่างๆที่ทางแต่ละค่ายนั้นเสนอให้กับทุกคนโดยเลือกและตัดสินใจให้ดีๆก็จะได้รถยนต์ที่อยู่คู่กับเราไปอย่างเนิ่นนานในการทำมาหากินและออกเดินทางไปกับครอบครัว ได้อย่างปลอดภัย

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023