Previous slide
Next slide
Categories
ARTICLE

สนาม Le Mans เตรียมเป็นเจ้าภาพ Grand Prix ครั้งที่ 1,000!

สนาม Le Mans

สนาม Le Mans กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง กับการแข่งขัน SHARK Grand Prix de France ปี 2023 ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยที่ Le Mans นับว่าเป็นสนามที่คลาสสิกเป็นอย่างมากสำหรับวงการรถแข่ง และในการแข่งขัน Grand Prix ในครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่ 1,000! และ Le Mans ก็ได้รับเกียรติ ในการสร้างประวัติศาสตร์ที่สำคัญในครั้งนี้ และแน่นอนว่าก็นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ของรายการแข่งขัน MotoGP™ อีกด้วย 

ประวัติ สนาม Le Mans ที่อยู่คู่วงการรถแข่งมามากเกือบ 60 ปี 

สนามแข่งรถ Le Mans เป็นสนามที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1965 ที่ถูกล้อมรอบด้วยสนามแข่ง 24-Hour track ที่มีแต่อยู่เดิม โดยสนามแข่งรถแห่งนี้มีชื่อว่า Le Mans Bugatti Grand Prix หรือ Bugatti Circuit ซึ่งอยู่ห่างจากเมือง Le Mans ไปทางใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร และห่างจากปารีสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 200 กิโลเมตร และในปี ค.ศ.1995 สนามแห่งนี้เคยจัดการแข่งขันกรังด์ปรีซ์ แต่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับนักแข่งชาวสเปนอย่าง Alberto Puig จึงทำให้หลังจากนั้น สนามแห่งนี้ถูกยุติใช้สนามในการแข่งขันจนถึงปี 2000 ซึ่งระหว่างนั้นสนามก็ได้มีการปรับปรุงให้มีความปลอดภัย และได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ Bugatti Circuit ยังเป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans Trucks, FIA GP2 Championship, French Touring Car และ GT เป็นต้น

สนาม Le Mans

Le Mans กับการแข่งขัน Grands Prix

สนามแข่ง Le Mans หรือ เลอ ม็องส์ เป็นสนามที่เคยจัดการแข่งขัน Grands Prix มาแล้วกว่า 35 รายการ และซึ่งเริ่มใช้ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1969 หรือหลังจากที่สนามร้างเสร็จประมาณ 4 ปีเท่านั้น ก่อนที่ MotoGP™ จะกลับมาสู่สนามแข่งcแบบ Full Time ในปี ค.ศ. 2000 โดย Grand Prix ครั้งที่ 1,000 จะเป็นอีกเหตุการณ์สำคัญที่ต้องจดจำของสนามคลาสสิกแห่งนี้ และงานนี้ยังถือเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งของ PHA Claude Michy โปรโมเตอร์ท้องถิ่น หลังจากที่ French GP ได้รับการโหวตให้เป็น Best Grand Prix ของปี 2022 และ MotoGP™ ก็เตรียมที่จะสร้างประวัติศาสตร์ด้วย Grand Prix ครั้งที่ 1,000 ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้

นอกจากนี้ Grand Prix ครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1949 ซึ่งเป็นครั้งแรกในหกรายการแข่งขันขันกีฬาที่ได้รับการสถาปนาในฤดูกาลนั้น จึงทำให้ตั้งแต่นั้นมา MotoGP™ ได้เติบโตขึ้นเป็นการแข่งขันระดับโลกอย่างแท้จริง และในโดยมีปฏิทินการแข่งขันในปี 2023 การแข่งขันจะเกิดขึ้นทั้งหมด 21 รายการครอบคลุม 5 ทวีป ซึ่งตลอดประวัติศาสตร์กว่า 70 ปีของ MotoGP™ มีแชมป์โลก 125 คนที่ได้รับการสวมมงกุฎแชมป์ ซึ่งเป็นตัวแทนจาก 20 ประเทศ และที่สำคัญคือ นี้มีการแข่งขันใน 29 ประเทศ และสถานที่ 73 แห่ง ที่เคยจัดการแข่งขันระดับพรีเมียร์ของรายการแข่งขัน MotoGP

MERCEDES – BENZ EQB รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดปี 2023 จาก BENZ

ใครว่า ดอกยาง รถยนต์ไม่สำคัญ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจถ้ายังไม่รู้ความจริง !

Categories
ARTICLE

Mercedes – Benz EQB รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดปี 2023 จาก Benz

Mercedes - Benz EQB

Mercedes – Benz EQB เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเป็นที่เรียบร้อย เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม 2023 ที่ผ่านมา โดยรถรุ่นนี้เป็นรถ SUV 5 ที่นั่งที่ขนาดของตัวรถนั้นไม่ใหญ่จนเกินไปดังนั้นจึงเหมาะกับทั้งคุณผู้หญิงและผู้ชาย อีกทั้งรถยนต์รุ่นนี้ยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง

Mercedes – Benz EQB รถยนต์ไฟฟ้า 190 แรงม้า สุดยอดนวัตกรรมจาก EQ

EQ เป็นแบรนด์ที่เข้ามาร่วมพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าให้กับ Mercedes – Benz ซึ่งเราจะสังเกตได้ง่าย ๆ จากชื่อของรถรุ่นนั้น ๆ ที่จะมีการนำชื่อ EQ เข้ามาใช้ในการตั้งชื่อรุ่นรถทุกรุ่นที่มีการพัฒนาร่วมกัน และล่าสุดกับ Mercedes – Benz EQB อีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้า 100% จาก Mercedes – EQ โดยรถรุ่นนี้มาพร้อมมอเตอร์เดี่ยวที่ถูกติดตั้งอยู่บริเวณเพลาหน้า และมอเตอร์ให้ไฟฟ้าสูงสุด 190 แรงม้า 140 กิโลวัตต์ ที่ 3,550 – 11,130 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร ที่ 3,550 รอบต่อนาที ระยะทางการขับขี่ได้สูงสุด 473 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ใน 8.9 วินาที และความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 160 กม./ชม.

Mercedes – Benz EQB 250 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 66.5 กิโลวัตต์ – ชั่วโมง รองรับการชาร์จกระแสตรง DC สูงสุด 100 กิโลวัตต์ โดยมีระยะเวลาในการชาร์จไฟ DC จาก 10 – 80% ใน 32 นาที อีกทั้งยังรองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 11 กิโลวัตต์ และมีระยะเวลาในการชาร์จจาก 10 – 100% ใน 6.5 ชั่วโมง และสำหรับพื้นที่บรรจุสัมภาระสามารถจุได้สูงสุด 1,710 ลิตรเลยทีเดียว

สุดท้ายคือในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐานภายใน ระบบความสะดวกสบาย และการสื่อสารของ EQB 250 AMG Line มาพร้อมหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ All-digital instrument display ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางขนาด 10.25 นิ้ว ที่จะเชื่อมต่อเป็นจอเดียวกัน มีระบบ Advanced Sound System Ambient lighting รอบห้องโดยสารตั้งค่าได้สูงสุด 64 สี พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต หุ้มด้วยหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control เบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจํา สำหรับตําแหน่งที่นั่ง พวงมาลัย และกระจกมองข้าง ระบบดันหลัง 4 ทิศทาง 

เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Artico ตัดสลับ Microcut เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง พับได้แบบ 40:40:20 วัสดุตกแต่งภายใน Spiral-look trim elements, backlit ตามฉบับของ Mercedes ระบบควบคุมแบบ Touchpadระบบ Wireless charging ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ บริการ Mercedes me connect ระบบแผนที่นําทางแบบ Hard-disc navigation พร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ ระบบมัลติมีเดีย MBUX entertainment พร้อมเชื่อมต่อ music streaming service  รวมไปถึงระบบ Live Traffic Information เรียกได้ว่าเป็นบริการและฟังก์ชันแบบ Full Service จาก Mercedes – Benz เลยก็ว่าได้ 

Mercedes - Benz EQB

Mercedes – Benz EQB2023 เปิดตัวอย่างสวยงามด้วยราคา 3,020,000 บาท

Benz EQB เปิดตัวและพร้อมใครคุณจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ โดย Benz EQB ราคา เริ่มต้นที่ 3,020,000 บาท ซึ่งเป็นการนำเข้าแบบ CBU หรือการนำเข้ามาทั้งคัน อีกทั้งรถรุ่นนี้ยังมีสีให้เลือก 6 สี ได้แก่ Polar white, Denim blue, Cosmos Black Metallic, Mountain Grey Metallic, Rose Gold และ Designo Patagonia Red Bright นอกจากนี้สำหรับใครที่อยากสัมผัสรถของจริงก่อนใครก็สามารถไปบูทจัดแสดงที่งาน Bangkok Motor Show 2023 ได้เลย 

อ่านบทความอื่น ๆ >> 10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ16 ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 นุ่มเงียบ ดอกยางเกาะถนนได้ดี

2023 LINCOLN CORSAIR รถ SUV สัญชาติอเมริกัน เปิดตัวพร้อม 3 รุ่นย่อย

Categories
ARTICLE

2023 Lincoln Corsair รถ SUV สัญชาติอเมริกัน เปิดตัวพร้อม 3 รุ่นย่อย

2023 Lincoln Corsair

2023 Lincoln Corsair เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Lincoln แบรนด์รถยนต์ระดับตำนาน สัญชาติอเมริกัน ซึ่ง Lincoln Corsair รุ่นปี 2023 เปิดตัวทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard, Reserve และ Grand Touring ซึ่งเป็นรุ่นที่เราจะพาทุกคนไปรู้จักกันในวันนี้ด้วย

2023 Lincoln Corsair รุ่น Grand Touring SUV ปลั๊กอินไฮบริด 266 แรงม้า 

2023 Lincoln Corsair

2023Lincoln Corsair เป็นรถยนต์ SUV 5 ที่นั่ง โดยมีระยะฐานล้อ 106.7 นิ้ว ความยาว 181.4 นิ้วสูง 63.8 นิ้ว ความกว้าง (ไม่รวมกระจก) 74.3 นิ้ว และ ความกว้าง (รวมกระจก) 83.6 นิ้ว และมิติของขนาดรถภายในห้องโดยสาร ที่ว่างเหนือศีรษะของห้องโดยสารด้านหน้า และ ห้องโดยสารด้านหลัง 38.4 นิ้ว พื้นที่วางขาสำหรับห้องโดยสารด้านหน้าสูงสุด 43.2 นิ้ว และสำหรับห้องโดยสารด้านหลัง 36.7 นิ้ว ซึ่งความกว้างระดับนี้ก็ถือได้ว่า กว้างขวางพอสมควร 

Lincoln corsair grand touring จะมาพร้อมเครื่องยนต์ Atkinson-Cycle 2.5 ลิตร 4 สูบ ระบบPlug-In-Hybrid Engine เมื่อมอเตอร์และเครื่องยนต์ทำงานร่วมกันทำให้ได้กำลังสูงสุด 266 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที เกียร์แบบ CVT (เกียร์แปรผันต่อเนื่อง) ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD และในส่วนของภายใน และ ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Lincoln corsair เบาะนั่งทั้งหมดจะหุ้มด้วยหนังระดับพรีเมียม เบาะนั่งคู่หน้าสามารถปรับได้ 24ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกความจำ ที่ เบาะนั่งด้านหลังแยกส่วนพับได้ 60:40 โดยปรับเลือนแบบแมนนวล และปรับเอนนอนได้ มีแผ่นกรองฝุ่นละอองและกลิ่นในห้องโดยสาร และที่สำคัญหลังคายังเป็นแบบ Panoramic Vista พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า

หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ Color Cluster Display ขนาด 12.3 นิ้ว power points 12V 2 ช่อง มีระบบ Evasive Steering Assist ระบบเบรกหลังการชน Lincoln Connect และ Lincoln Way App และระบบความบันเทิงของ 2023Lincoln corsair grand touring ก็เรียกได้ว่าให้มาแบบครบครัน จัดเต็ม โดยให้ USB Smart Charging 2 พอร์ต, พอร์ต USB (ด้านหลังคอนโซลกลาง) 1 พอร์ต, หน้าจอสัมผัสขนาด 13.2 นิ้ว พร้อม Calm View พร้อมการเชื่อมต่อระบบนำทางในตัว (บริการ 3 ปี), ระบบเสียงระดับพรีเมี่ยมของลินคอล์นพร้อมลำโพง 10 ตัวรวมถึงซับวูฟเฟอร์ และ SiriusXM® พร้อมวิทยุดาวเทียม 360L (สมัครสมาชิกทดลองใช้ 3 เดือน) เป็นต้น 

ราคาของLincoln corsair grand touring รุ่นปี 2023 สำหรับจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา

สำหรับ2023 Lincoln Corsair รุ่นปี2023 นั้น ถูกวางจำหน่ายแล้วเป็นที่เรียบร้อย ในทั้งสหรัฐอเมริกา และประเทศที่ทางLincoln ได้ทำการตลาด โดยLincoln Corsairมีสีให้เลือกทั้งหมด 8 สี ได้แก่ Infinite Black, Silver Radiance, Ceramic Pearl, Pristine White, Red Carpet, Asher Gray, Whisper Blue และ Crystal Red ซึ่งสีที่ 3 – 8 ตามลำดับ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม $750 ส่วนรุ่นเริ่มต้นจะเป็นล้อแบบ Bright Machined Aluminum Wheel with Dark Tarnish Finish ขนาด 19 นิ้ว และ หากต้องการล้อขนาด 20 นิ้ว จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ $1,150 และสำหรับราคาLincoln Corsair2023 ราคา เริ่มต้นที่ 53,385 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 1,838,979.79 บาท 

อ่านข่าวสารรถอื่น ๆ >> 10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

NEW STORY ได้กำเนิดขึ้นแล้ว!! FERRARI ROMA SPIDER รถสปอร์ตสมรรถนะสูงดีไซน์ร่วมสมัย

Categories
ARTICLE

New Story ได้กำเนิดขึ้นแล้ว!! Ferrari Roma Spider รถสปอร์ตสมรรถนะสูงดีไซน์ร่วมสมัย

Ferrari Roma Spider

ไม่มองหน่อยหรอ? คำนี้ผุดขึ้นมาในหัวไม่หยุดหลังจากที่เห็นภาพเปิดตัว Ferrari Roma Spider รถสปอร์ตสมรรถนะสูงจากFerrari ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า และทางFerrari ก็ให้คำจำกัดความกับรถรุ่นนี้ว่าเป็น “A NEW STORY BEGINS” เนื่องจากทางแบรนด์ได้ออกแบบรถรุ่นนี้ให้มีความร่วมสมัย ด้วยการดึงเอาไลฟ์สไตล์สุดเก๋ไก๋ของขาวอิตาเลียนในช่วงยุคปี 1950 – 60 เข้ามาผสมผสานกับแฟชั่นในปัจจุบันให้มีความลงตัวและเท่ เก๋ ไม่ซ้ำใคร

Ferrari Roma Spider สุดยอดเจ้าม้าลำพอง 612 แรงม้า

Ferrari Roma Spiderนับว่าเป็นรถอีกรุ่นหนึ่งที่ Successful Concept ที่สุดของFerrari Roma เลยก็ว่าได้ แต่สิ่งที่ทำให้Spider โดดเด่นมากคือการนำหลังคาแบบ Soft Top มาใช้ ซึ่งเป็นวิธีการต้อนรับการกลับมาของม้าลำพองด้วยเครื่องยนต์วางหน้าในรอบ 54 ปีหลังจากการเปิดตัว 365 GTS4 ในปี 1969 และแน่นอนว่าการกลับมาอีกครั้งในรอบหลายสิบปีของFerrari Roma Spider2023 ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน โดย New Ferrari Roma Spiderมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 3.9 ลิตร Twin – Turbo ที่ให้กำลังสูงสุด 612 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที และ แรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตร อัตราเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ใน 3.4 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดมากกว่า 320 กม./ชม. เลยทีเดียว 

นอกจากนี้ในส่วนของภายใน รถรุ่นนี้เป็นรถสปอร์ตคูเป้ ที่สามารถโดยสารได้สูงสุด 4 คน อีกทั้งยังถูกดีไซน์ให้มีความหรูหรา โดยในส่วนของห้องโดยสารด้านหน้าหรือในส่วนของเบาะนั่งคนขับ และผู้โดยสารข้างคนขับถูกออกแบบให้มีทั้งความทันสมัยและความคลาสสิกเอาไว้อย่างลงตัว จึงทำให้ในส่วนของห้องโดยสารด้านหน้ามีดีไซน์เหมือนกับห้องนักบิน ที่ให้ทั้งความรู้สึก สปอร์ต หรูหรา สบาย และปลอดภัยในเวลาเดียวกัน และแน่นอนว่ารถรุ่นนี้เป็นรถที่ต้องการให้คุณโฟกัสกับความมันบนท้องถนน ดังนั้นคุณจึงจะไม่ได้เห็นหน้าจอกลางใหญ่ ๆ บนรถคันนี้อย่างแน่นอน และที่สำคัญประทุนรถยังสามารถกาง และพับเก็บได้ในระยะเวลาเพียง 13.5 วินาทีเท่านั้น

Ferrari RomaSpider Price !! ราคาคาดการณ์ราว 10 ล้านบาท

ถึงแม้ว่าFerrari Roma Spiderจะถูกเปิดตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนของราคาคาดว่ารถรุ่นนี้น่าจะวางขายในราคาประมาณ 268,895 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ ๆ  ล้านบาทไทย อย่างไรก็ตามรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับวัน และเวลาในการเปิดจอง 2023Ferrari Roma spiderก็ยังไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมาอีกเช่นกัน ดังนั้นเราอาจจะต้องมาลุ้นกันอีกครั้งว่า เจ้ารถสปอร์ตสุดเท่คันนี้จะมีราคาจริงและวันเวลาให้แฟนผู้คลั่งไคล้ได้จับจองเป็นเจ้าของกันเมื่อไหร่

เปิดฉากอย่างสวยงาม สำหรับ F1 2023 ณ BAHRAIN INTERNATIONAL CIRCUIT

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Categories
ARTICLE

เปิดฉากอย่างสวยงาม สำหรับ F1 2023 ณ Bahrain International Circuit

F1 2023

เปิดฉากขึ้นอย่างสวยงามสำหรับ F1 2023 รายการ Formula 1 Gulf Air Bahrain Grand Prix 2023 ที่จัดขึ้นที่สนาม Bahrain International Circuit เป็นสนามแรก ซึ่งบรรยากาศของการเปิดฤดูกาลจากสนามแรกนี้ ต้องบอกว่า เดือดจนสนามแข่งแทบลุกเป็นไฟ

มักซ์ แฟร์สตัปเปิน นักแข่งผู้พิชิตแชมป์ F1 2023 สนามที่ 1

หากใครที่เป็นแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ต โดยเฉพาะรายการแข่งขัน Formula 1 เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องรู้จัก หรือเคยได้ยินชื่อ มักซ์ แฟร์สตัปเปิน (Max Verstappen) นักแข่ง Formula 1 แชมป์โลก 2 สมัย วัย 25 ปี คนนี้อย่างแน่นอน เพราะเขานับว่าเป็นหนึ่งใน นักแข่ง f1 2023 ที่น่าจับตามองที่สุดอีกคนหนึ่ง เพราะตั้งแต่เริ่มต้นการแข่งขัน F1 2023 ในสนามแรก Formula 1 Gulf Air Bahrain Grand Prix 2023 ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 5 มีนาคม 2023 เขาก็สามารถโชว์ฟอร์มออกมาได้ดีจนกระทั่งสามารถความแชมป์อันดับ 1 จากรายการนี้ได้ 

เราจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทีม Red Bull ออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบในการแข่งขัน Bahrain Grand Prix ปี 2023 เพราะนักแข่งของทีมทั้ง 2 ท่านอย่าง Max Verstappen และ Sergio Perez สามารถคว้าแชทป์อันดับหนึ่ง และรองแชมป์จากสนามแรกมาได้อย่างสวยงาม โดยที่ Max สามารถแล่นเข้าเส้นชัยก่อนรุ่นพี่อย่าง Sergio เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น 

นอกจากนี้ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ก (Charles Leclerc) นักขับจากทีม Ferrari รองแชมป์โลกปี 2022 ต้องหยุดการแข่งขันในช่วงท้ายของการแข่งขัน (LAPS 41) เนื่องจากรถแข่งของเขามีปัญหาเร่งไม่ขึ้น จนทำให้ไม่สามารถแข่งต่อได้ จนต้องออกจากการแข่งขันไปในที่สุด และแน่นอนว่า ชาร์ลส์แข่งขันไปได้เพียง 39 LAPS เท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่ชาร์ลส์ไม่สามารถสะสมคะแนนจาก Formula 1 2023 สนามแรกได้

Practice 1 – 2 สนามที่ 2 Saudi Arabian Grand Prix 2023 Max Verstappen ยังฟอร์มดีไม่ตก

F1 2023

สำหรับวันที่ 17 – 18 มีนาคม 2023 เป็นรอบ Practice 1 และ 2 ซึ่งเป็นรอบสำหรับการฝึกซ้อน ของการแข่งขัน F1 2023 ในรายการ Saudi Arabian Grand Prix 2023 และนับว่าเป็นสนามที่ 2 รองการแข่งขันในฤดูกาลนี้ และแน่นอนว่าการฝึกซ้อนทั้ง 2 รอบผู้ที่ทำเวลาออกมาได้อีกที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Max Verstappen คนนี้อีกเช่นเคย 

โดยการฝึกซ้อมในวันที่ 17 มีนาคม Max ได้ซิ่งเจ้า RBPT Red Bull Racing Honda RBPT รถแข่งของทีม Red Bull เข้าเส้นชัยอันดับ 1 ด้วยเวลา 1:29.617 และตามด้วยเพื่อนรวมทีมอย่าง Sergio Perez ด้วยเวลา 1:30.100 (ห่างกัน +0.483 วินาที) และสำหรับวันที่ 18 ในการ Practice 2 Max Verstappen ยังสามารถ1:29.603 ซึ่งทำเวลาได้ดีกว่ารอบแรก ในขณะที่อันดับที่ 2 กลายเป็น Fernando Alonso จากทีม Aston Martin ที่สามารถความอันดับครั้งนี้มาได้ด้วยเวลา 1:29.811 ซึ่งห่างจาก Max อยู่เพียง +0.208 วินาทีเท่านั้น 

อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่า หากในวันที่ 19 มีนาคม ซึ่งเป็นวันแข่งขันจริงของ Formula 1 ปี 2023 สนามที่ 2 ของตาราง ไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ โดยเฉพาะในส่วนของเรื่องเทคนิก เราเชื่อว่าผู้ที่จะสามารถความแชมป์ของสนามนี้มาได้คงหนีไม่พ้น Max Verstappen นักแข่งดาวรุ่ง แชมป์โลก 2 สมัย คนนี้อย่างแน่นอน 

อ่านข่าวสารรถอื่น ๆ >> NÜRBURGRING สนามแข่งรถเยอรมนี ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความโหด

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Categories
ARTICLE

Nürburgring สนามแข่งรถเยอรมนี ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความโหด

หากกล่าวถึง สนามแข่งรถเยอรมนี “Nürburgring” คงต้องเป็นหนึ่งในสนามที่แฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เพราะสนามแข่งรถแห่งนี้นอกจากจะมีประวัติอย่างยาวนานแล้ว Nürburgring ยังขึ้นชื่อว่าเป็นสนามแข่งรถที่โหด หิน และอันตรายที่สุดในโลกอีกด้วย

สนามแข่งรถเยอรมนี

สนามแข่งรถเยอรมนี Nürburgring สนามที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองที่มีประวัติกว่า 800 ปี 

Nürburgring นับว่าเป็นหนึ่งใน สนามแข่งรถเยอรมนี ที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก โดยสนามแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองเนือร์บวร์ค ในรัฐไบเอิร์น ใกล้อุทยานแห่งชาติไอเฟิลของประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปีเลยทีเดียว และสำหรับ สนามเนือร์บวร์คริง ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1927 ซึ่งนับมาจนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 96 ปีแล้ว และจุดเด่นของสนามแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสนามแข่งที่สวยงามและท้าทายที่สุดแห่งหนึ่งของโลกตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของการเปิดใช้สนามมาจนถึงทุกวันนี้ และว่ากันว่ายังไม่มีใครที่จะโค่นตำแหน่งนี้ของเขาได้ 

สนามแข่งรถเยอรมนี

เล่าย้อนไปเมื่อ 2 ปี ก่อนหน้าที่ สนาม Nürburgring จะเปิดให้บริการ ในฤดูร้อนของปี 1925 ใจกลางอุทยานแห่งชาติไอเฟิลได้เริ่มมีการก่อสร้างสนามแข่งดังกล่าวขึ้น โดยการก่อสร้างในครั้งนั้นใช้งบประมาณ 14 ล้านไรชส์มาร์ค (สกุลเงินของเยอรมนีระหว่างปี 1924 – 1933) และใช้คนงานมากถึง 2,500 คน ในการสร้าง Track ระยะทาง 28.265 กม. เพื่อให้สร้างสนามเสร็จภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี และรายการแข่งขันแรกก็เกิดขึ้นในวันที่ 18 มิถุนายน 1927 คือการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ในรายการ Eifel Race และตามด้วยการแข่งขันรถยนต์ในวันที่ 19 มิถุนายน 1927 ซึ่งการแข่งขันในครั้งนั้น Rudolf Caracciola นักแข่งชื่อดังชาวเยอรมันก็เป็นคนที่สามารถพิชิตชัยชนะจากสนามสุดโหดแห่งนี้มาได้

การสร้างประวัติศาสตร์ของเหล่านักแข่งกับ สนามแข่งรถที่โหดที่สุดในโลก

Nürburgring นอกจากจะเป็นสนามแข่งรถเยอรมนี ที่สร้างประวัติศาสตร์คู่กับกีฬามอเตอร์สปอร์ตมาอย่างยาวนานแล้ว สนามแห่งนี้ยังสร้างประวัติศาสตร์คู่กับบรรดานักแข่งมาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งก็อาจจะไม่ได้แตกต่างจากสนามแข่งอื่น ๆ เท่าไรนัก แต่ด้วยสนามแห่งนี้เป็นสนามที่โคตรหินดังนั้นการสร้างตำนานในแต่ละครั้งจึงต้องบอกว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ปี 1957 กับการแข่งขันในตำนานของ Juan Manuel Fangio นักแข่งรถชาวอาร์เจนตินา สามารถคว้ารางวัลกรังด์ปรีซ์ในรถ Maserati ของเขา ซึ่งชัยชนะดังกล่าวเป็นแชมป์ที่ทำให้เขากลายเป็นนักแข่งแชมป์โลก 5 สมัย และการแข่งขันในครั้งนั้นก็นับว่าเป็นการแข่งครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้มาเยือน Nürburgring

หรือจะเป็นตำนานการถือกำเนิดของฉายยา “THE GREEN HELL” หรือ “สนาม นรกสีเขียว” ซึ่งฉายาดังกล่าวไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นราว ๆ ปี 1968 ระหว่างที่ Jackie Stewart อดีตนักแข่งรถชาวอังกฤษจากสกอตแลนด์และ Graham Hill เพื่อนนักแข่งรถชาวอังกฤษของเขา เดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขัน Grand Prix of Germany และระหว่างเส้นทางเครื่องบินของก็ได้บินผ่าน Nürburgring และเขาได้มองมันผ่านม่านฝนลงมาจากเครื่องบิน Jackie ก็ได้บอกกับ Graham ว่ามันคือ “GREEN HELL” และคำนนี้ก็ได้กลายมาเป็นคำที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน 

นอกจากนี้แทบไม่น่าเชื่อว่า ในวันที่ 4 สิงหาคม 1968 Jackie Stewart ยังสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันภายใต้สภาวะที่เลวร้ายที่สุด ทั้งฝนตกและหมอกหนา โดยนำหน้าคู่แข่งอย่างน่าเหลือเชื่อถึงสี่นาทีเลยทีเดียว และดูเหมือนว่า Nürburgring อาจจะชอบชื่อ “Green Hill” ที่ Jackie Stewart ตั้งให้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

อ่านข่าวสารรถอื่น ๆ >> SUNBEAM-TALBOT 90 รถคุณปู่ที่โคตรเท่ แถมลักซ์ชัวรี่สุด ๆ

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี