หมวดหมู่: ARTICLE

Forza Motorsport เป็นเกมแข่งรถแนว Simulator ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2005 ที่พัฒนาโดย Turn 10 Studios และเผยแพร่โดย Microsoft Game Studios สำหรับระบบเกม Xbox และล่าสุด บนเว็บไซต์ได้ยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า เขากำลังจะกลับมาบนอุปกรณ์ Xbox และ PC อีกครั้งหลังจากที่ได้อัปเกรดตัวเกมให้มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะกลับมามอบประสบการณ์ความมันในปี 2023 นี้แล้ว

เราจะได้เจออะไรใน Forza Motorsport ปี 2023

ForzaMotorsport นับว่าเป็นเกมแรกของค่ายที่มีการพัฒนาในเรื่องของเสียงให้ได้คุณภาพเสียงเทียบเท่า Windows Sonic และ Dolby Atmos ซึ่งทางทีมมีความพยายามในการพัฒนาในเรื่องระบบเสียงต่อเนื่องกว่า 20 ปี เพื่อให้ได้เสียงที่สมจริงมากที่สุด อีกทั้งยังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น ระบบเสียงประกาศตามสนามแข่ง เป็นต้น และเมื่อคุณปรับแต่งรถของคุณใน Forza ตัวใหม่ เช่น ท่อไอเสีย หรือเทอร์โบ คุณจะได้ยินเสียงรถที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะเป็นเสียงที่เหมือนกับที่คุณได้ยินในโลกแห่งความเป็นจริง และแน่นอนว่ารถแข่งแต่ละคันที่อยู่ในเกมก็จะมีเสียงเสมือนจริงอีกด้วย 

ในส่วนของรถแข่งภายในForza Motorsport 2023 ยังมีรถแข่งให้คุณเลือกมากกว่า 500 คัน และ New Motorsport cars อีก 100 คัน เช่น 1971 AMC Javelin AMX, 1989 Aston Martin #18 Aston Martin AMR1, 2018 Audi TT RS และ 2018 McLaren Senna เป็นต้น ซึ่งใครที่มีรถที่ชื่นชอบ หรือ มีรถแข่งในฝัน เราเชื่อว่าภายในเกมนี้ต้องมีให้อย่างครบครันแน่นอน อีกทั้งหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการแต่งรถ เกมนี้ก็มีชุดแต่งให้เพื่อน ๆ สามารถเลือกมาเพื่อแต่งรถของคุณอย่างจุใจด้วยชุดแต่งมากกว่า 800 รายการเลยทีเดียว และที่สำคัญคือเกมนี้ยังมีการพัฒนาในเรื่องของฟิสิกส์ จึงทำให้เกมนี้ขับรถได้มัน และเพลินกว่า Forza Horizon5, 6 และ 7 เสียอีก

นอกจากนี้ Forza Motorsport ยังเปิดตัวแทร็กใหม่อีก 7 แทร็กได้แก่ Circuit de Spa-Francorchamps, Hakone, Maple Valley, Silverstone Circuit, Suzuka Circuit, Laguna Seca และ Kyalami ซึ่งเป็นสนามแข่งแห่งแรกในแอฟริกาใต้อีกด้วย 

ForzaMotorsport 8 พร้อมเปิดให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้!

สำหรับForza Motorsport เจเนอเรชั่นใหม่นี้พร้อมให้ดาวน์โหลดภายในปี 2023 นี้เป็นต้นไป โดยForza Motorsport 2023 เป็นเกมสำหรับคอนโซล บนเครื่องเกม Xbox Series X|S, PC Windows 10 และ 11 และ Cloud Gaming (เบต้า) โดยคุณสามารถดาวน์โหลดได้ง่าย ๆ ผ่าน Microsoft Store, Steam และ Xbox Game Pass ซึ่งในส่วนของราคาเกม ทางผู้จำหน่ายยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลออกมา ดังนั้นสำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ไม่อยากพลาดเกมนี้ก็สามารถกำเงินรอได้เลย 

อ่านบทความอื่น ๆ >> TRAFFIC RIDER เกมที่จะทำให้คุณมันไปกับการขับรถบนถนนหลวง

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Traffic Rider เป็นอีกหนึ่งเกมแข่งรถที่เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องชื่นชอบเกมแนวนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากรูปแบบของเกมนั้นจะเป็นเกมที่เราไม่จำเป็นต้องแข่งกับคู่แข่งภายในสนามเหมือนเกมแนว Racing ที่ต้องแข่งในสนามแข่ง แต่เราต้องแข่งกับเวลา และความยากอีกอย่างหนึ่งของเกมนี้คือ คุณต้องขับรถไปบนถนนหลวงที่เต็มไปด้วยรถหลากหลายชนิด ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องนำทั้งใช้ทั้งสมาธิ และ สกิลในการหลบหลีกมาใช้ในเกมนี้

Traffic Rider เล่นเพลิน ๆ เพื่อสะสมเงินรางวัลไปอัพเกรดรถมอเตอร์ไซค์เท่ ๆ ของคุณ 

TrafficRider เป็น เกมแข่งรถมือถือฟรี ที่เปิดให้ดาวน์โหลดทั้งระบบ Android และ iOS โดยเกมนี้เป็นเกมที่พัฒนาโดย Soner Kara ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเกมแนวเดียวกันนี้ออกมาทั้งหมด 3 เกมด้วยกัน ได้แก่Traffic Racer, Wings on Fire และ เกมTraffic Rider ที่เราจะนำมาพูดคุยกันในวันนี้ด้วย

โดย TrafficRider นั้น จะเป็นเกมแบบ First person camera view หรือ มุมมองที่หนึ่ง ซึ่งภายในเกมมีรถมอเตอร์ไซค์ให้เลือกภายในเกมถึง 34 คัน แต่ตอนเริ่มเกมคุณจะต้องใช้รถสกู๊ตเตอร์ในการแข่ง แน่นอนว่าความเร็วแรง และความเท่ของรถประเภทนี้เกือบจะเท่ากับศูนย์ และนี่ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่คุณต้องเข้าเส้นชัยตามเวลาที่กำหนด เพื่อให้ได้เงินรางวัลสะสมในแต่ละด่านเพื่อไปซื้อรถที่แรงขึ้น เร็วขึ้น และ เท่ยิ่งขึ้นมาใช้แข่ง และเมื่อคุณขับเกิน 100 กม./ชม. แซงรถคันอื่น ๆ คุณก็จะได้รับคะแนนโบนัสและเงินสดเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

แม้ว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่คุณจะต้องหลบหลีกรถบนถนนหลวงและ ความยากของเกมนี้อีกอย่างหนึ่งคือ คุณจะต้องระวังรถที่จะเปลี่ยนเลยกะทันหัน ซึ่งอาจจะทำให้คุณเบรกไม่ทันและพุ่งชนรถคันนั้นได้ อีกทั้งTraffic Rider ยังมีโหมดการเล่นให้หลายโหมดด้วยกัน เช่น โหมดอาชีพที่มาพร้อมภารกิจมากกว่า 90 ภารกิจ ซึ่งบางด่านก็จะมาพร้อมสภาพอากาศที่เลวร้ายอีกด้วย นอกจากนี้สำหรับใครที่ไม่อยากด้วยโหลดเกม คุณก็ยังสามารถเล่นTraffic Rider Y8 ผ่านเว็บไซต์เกมออนไลน์ Y8.Com ภายใต้เกมที่มีชื่อว่าTraffic Rider Legend 

TrafficRider เล่นฟรี บน 3 แพลตฟอร์ม พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากเล่นTraffic Rider วันนี้คุณสามารถดาวน์โหลดฟรีได้แล้วบน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Android, iOS และ Microsoft แต่ข้อเสียของเกมนี้เนื่องจากเป็นเกมฟรี ดังนั้นระหว่างเล่นเกมจึงจะมีโฆษณาขึ้นมาแทรกทำให้ผู้เล่นรู้สึกหงุดหงิดได้ ดังนั้นเราจึงแนะนำให้คุณซื้อแพ็กเสริมภายในเกมเพื่อไม่ให้มีโฆษณาขั้น และที่สำคัญเกมนี้ยังนับว่าเป็น เกมแข่งมอไซค์ เหมือนจริง ที่ให้เสียงของรถสมจริงเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญยังรองรับภาษามากถึง 18 ภาษา ได้แก่ จีนตัวย่อ, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตุรกี, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, สวีเดน, สเปน, อังกฤษ, อิตาลี, อินโดนีเซีย, ฮังการี, เกาหลี, เดนมาร์ก, เยอรมัน, โปรตุเกส, โปแลนด์ และ โรมาเนีย อีกทั้งtraffic rider โปรเงิน ยังมีราคาเริ่มต้นเพียง 179 บาทเท่านั้น ดังนั้นใครที่ไม่อยากพลาดเกมสนุก ๆ เกมก็สามารถรีบไปดาวน์โหลดเกมบนแต่ละแพลตฟอร์มได้เลย 

อ่านบทความอื่น ๆ >> VOLKSWAGEN ARTEON ใหม่ล่าสุด ที่เปิดตัวมาพร้อม 3 รุ่นย่อย

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Volkswagen Arteon เป็นรถยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่นจาก Volkswagen ที่เปิดตัวมาทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Arteon SE Nav, Arteon Elegance และArteon R-Line ซึ่งเป็นรุ่นที่เราจะพาทุกคนไปรู้จักกันในวันนี้ด้วย และที่สำคัญคือVolkswagen เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่มีการทำตลาดในเมืองไทย ดังนั้นใครที่อยากเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป โดยคุณสามารถติดต่อสอบถาม รวมไปถึงลงทะเบียนทดลองขับได้ง่าย ๆ ผ่าน https://volkswagen-thailand.com/ 

Volkswagen Arteon รุ่น R-Line ที่มาพร้อมขุมพลัง 190 แรงม้า

Volkswagen Arteonเป็นรถสปอร์ตซีดาน 4 ประตู โดย 2023 Volkswagen Arteonรุ่น R-Line มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 ประเภท ได้แก่ 2.0 TDI 7-Speed DSG ดีเซล 4 สูบ ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (Ps) และ 2.0 TSI 7-Speed DSG เบนซิน ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน ก็จะมีผลต่อราคาของตัวรถด้วย

ในส่วนของออปชั่น และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของVolkswagen Arteon R-Line มาพร้อมหน้าจอสี TFT ขนาด 10.25 นิ้ว ความละเอียดสูง การแสดงผลที่ปรับแต่งได้หลากหลาย มีระบบนำทาง “Discover Media” รวมทั้งการสตรีมมิ่งและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต พร้อมด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว มีระบบ “We Connect” ระบบโทรฉุกเฉิน e-call การเชื่อมต่อโทรศัพท์และเสียง Bluetooth ช่องเสียบไฟ 12V คอนโซลกลาง และที่วางแขนเบาะหลัง ช่องต่อ USB-C ลำโพง 8 จุด ที่จะถูกติดตั้งอยู่ในห้องโดยสารทั้งด้านหน้าและหลัง พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC) เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Volkswagen Sedan ยังมาพร้อมเบาะนั่งสไตล์สปอร์ต โดยเบาะนั่งคนขับสามารถปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งนุ่มสบายพร้อมพนักพิงปรับไฟฟ้า และ ระบบอุ่นเบาะ พนักพิงเบาะหลังแยกพับได้ 60:40 พร้อมที่วางแขนตรงกลาง แสงไฟภายในห้องโดยสารมีให้เลือกถึง 30 สี มี ISOFIX สำหรับติดตั้ง Car Seat ที่ให้ทั้งความสะดวกสบาย และความปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ (สำหรับเบาะหลัง 2 ที่นั่ง) พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มหนังพร้อมระบบสัมผัส ซันรูฟแบบเลื่อน รวมถึงม่านแบบม้วน เป็นต้น

Volkswagen Arteonราคาไม่ถึง 4 ล้านบาท พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้

ตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่าVolkswagen เป็นหนึ่งในแบรนด์รถที่เข้ามาทำการตลาดในไทย ดังนั้นVolkswagen Arteonรุ่นใหม่ของปี 2023 นี้ คุณจึงสามารถสั่งจองเพื่อเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ โดย VW Arteon มีราคาเริ่มต้นที่ 3,543,500 บาท สำหรับรุ่น New Arteon SE Nav, 3,651,000 – 3,743,500 บาท NewArteon Elegance เนื่องจากเป็นรุ่นที่มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบเช่นเดียวกับVolkswagen New Arteon R-Line และสำหรับรุ่น NewArteon R-Line จะมีราคาอยู่ที่ 3,762,000 บาท สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล และ 3,825,500 บาท สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ที่มาพร้อมกำลังสูงสุด 190 แรงม้านั่นเอง 

อ่านบทความอื่น ๆ >> MULTISTRADA V4 RALLY รถทัวริ่งรุ่นใหม่จากค่าย DUCATI

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Multistrada V4 Rally เป็นรถรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Ducati ที่ปรากฏตัวภายในงาน Ducati World Première 2023 ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมา โดยทางผู้พัฒนานั้นได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ทั้งหมด 9 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Scrambler Icon, Scrambler Full Throttle, Scrambler Nightshift, Diavel V4, Streetfighter V4, Streetfighter V4 SP2, Panigale V4 R, Monster SP, Streetfighter V4 Lamborghini รวมไปถึง Multistrada V4 Rally ที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้ด้วย

สเปคของ Multistrada V4 Rally รถมอเตอร์ไซค์สายลุย 1158 ซีซี

Multistrada V4 Rallyมาพร้อมเครื่องยนต์ Granturismo V4 ขนาด 1158 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า (125 กิโลวัตต์) ที่ 10,500 รอบต่อนาที และ แรงบิด 121 นิวตันเมตร (12.7 กก.) ที่ 8750 รอบต่อนาที และมีน้ำหนักรวมเพียง 66.7 กิโลกรัม โดย Ducati Multistrada V4Rally อีกทั้งยังมาพร้อมเรดาร์ด้านหน้าและด้านหลังพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ และระบบตรวจจับจุดบอด รวมถึงโหมดการขี่เฉพาะด้วยโหมดพลังงาน Off-Road ใหม่ที่จำกัดกำลังไว้ที่ 115 แรงม้า หรือ ใช้ Enduro Riding Mode ซึ่งเป็นโหมดเฉพาะของ Granturismo V4 ในการขับขี่ก็ได้เช่นกัน

Multistrada V4 ยังมาพร้อมกับถังน้ำมันขนาด 30 ลิตร ที่ช่วยให้มั่นใจได้แม้ต้องขับขี่ในระยะทางที่ไกลขึ้น และเนื่องจากรุ่นก่อนหน้านี้จะมีถังน้ำมันที่มีขนาดที่เล็กกว่านี้ ดังนั้นจึงนำไปสู่การออกแบบส่วนหน้าของจักรยานยนต์ใหม่ทั้งหมด และที่สำคัญตัวรถยังถูกออกแบบให้มีความสะดวกสบายของผู้โดยสารและผู้ขับขี่ดีขึ้น ด้วยเบาะท้ายที่กว้างขึ้น และกล่องสัมภาระที่สามารถเก็บของได้มากยิ่งขึ้น

อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทาง Ducati ให้มา ก็เรียกว่าให้มาอย่างครบครัน เช่น Ducati Skyhook Suspension EVO (ระบบที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเดินทางแบบทัวริ่ง), Ducati Quick Shift, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, แฮนด์ฟรี, สวิตช์แฮนด์บาร์แบบมีไฟพื้นหลัง, หน้าจอสี TFT ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อม Ducati Connect และระบบนำทางแบบเต็มแผนที่, ไฟหน้า Full LED พร้อม DRL, ระบบควบคุมเบรกเครื่องยนต์ (EBC ) และ การปิดกระบอกสูบแบบขยาย (ECD) เป็นต้น 

Multistrada V4 Rallyราคา ปี 2022 ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ $29,995

สำหรับMultistrada V4 Rallyปัจจุบันน่าจะยังไม่ถูกนำเข้ามาขายในไทย แต่สำหรับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Ducati Multistrada V4มีราคาอยู่ที่ 999,000 บาท และ Ducati MultistradaV4S อยู่ที่ 1,279,000 บาท แต่สำหรับรุ่น V4 Rallyนั้นจะมาวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาด้วยราคาเปิดตัวพิเศษที่ $29,995 (986,535.55 บาท)สำหรับ Ducati Red และ $30,595 (1,006,269.55 บาท) สำหรับ Brushed Aluminum & Matte Black ซึ่งเป็นสีพิเศษ 

นอกจากนี้สำหรับราคาไทยในนั้นยังไม่มีข้อมูลออกมาแต่อย่างใด ดังนั้นหากเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจอยากจะเป็นเจ้าของรถรุ่นใหม่ จาก Ducati ในปี 2023 ก็สามารถไปติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ducati Multistrada V4 Rallyได้จากโชว์รูม หรือ ผู้น้ำเข้าอิสระใกล้บ้านได้เลย

อ่านบทความอื่น ๆ >> รถตู้ BENZ V 250 D EXCLUSIVE 2023 รุ่นใหม่ภายในกว้างขวาง

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

รถตู้ Benz นับว่าเป็นรถอีกประเภทหนึ่งจาก Mercedes – Benz ที่ได้รับความนิยมไปในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก แต่ 2 – 3 ปีนี้เราก็ต้องพูดกันตรง ๆ ว่า ความนิยมของรถตู้ 7 ที่นั่งอย่าง โตโยต้า อัลฟาร์ด ได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างยิ่ง จนทำให้แบรนด์ผู้ผลิตรถหลาย ๆ แบรนด์หันมาผลิต และ พัฒนารถตู้ Exclusive 7 ที่นั่งเพิ่มมากยิ่งขึ้น

รีวิว รถตู้ Benz Mercedes-Benz V 250 d Exclusive 2023 รถตู้ 7 ที่นั่งสุด Luxury 

รถตู้Benz รุ่น Mercedes-Benz V 250 d Exclusive 2023 เป็นรถตู้รุ่นใหม่ที่เปิดตัวต้อนรับปี 2023 โดยเฉพาะ โดยรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ 4 วาล์วต่อสูบ เทอร์โบ 2.0 ลิตร 1,950 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (140 กิโลวัตต์) ที่ 4,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร ที่ 1,350 – 2,400 รอบต่อนาที อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ใน 9.6 วินาที Top Speed 205 กม./ชม. เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC PLUS)

Mercedes-Benz V-Class มีระยะฐานล้อ 3,430 มม. ความกว้าง (ไม่รวมกระจกมองข้าง) 1,928 x ยาว 5,370x สูง (ไม่รวมราวหลังคา) 1,909 มม. และมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระ 1,410 ลิตร ล้ออััลลอย ขนาด 18 นิ้ว ซึ่งใครที่กำลังตาหารถครอบครัวไว้รองรับครอบครัวใหญ่ หรือรถสำหรับผู้บริหารที่ที่สบาย กว้างขวาง ไม่อึดอัด รถรุ่นนี้เหมาะกับคุณเป็นอย่างยิ่ง โดยดีไซน์ภายในของรถตู้ Benz V Class รุ่นนี้ แบบ standard จะเป็นการตกแต่งสไตล์เรียบหรูตามฉบับของ Mercedes – Benz พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวก และ ความบันเทิงแบบจัดเต็ม 

โดยพวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง พร้อมแป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (DIRECT SELECT gearshift paddles) มีระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียแบบ MBUX พร้อม Touchpad หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อแบบ Smart Phone Integration รองรับ Apple CarPlay™ และ Android Auto ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Burmester® 

นอกจากนี้รุตู้รุ่นนี้เป็นรถตู้รุ่นนี้เป็นรถตู้แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจํา 3 ตําแหน่ง ที่นั่งผู้โดยสารตอนหลังแถวที่ 1 เป็นแบบ luxury แยกส่วนซ้าย – ขวา 2 ที่นั่ง ปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจํา 2 ตําแหน่ง ที่มาพร้อมระบบนวดหลังและระบายอากาศ และที่นั่งผู้โดยสารตอนหลังแถวที่ 2 (แถวสุดท้าย) เป็นแบบแถวยาวสามที่นั่ง และเบาะนั่งหุ้มหนังสีดําทั้งหมด สุดท้ายคือในส่วนของ วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าแบบ pinstripe effect ไฟเรืองแสง Mercedes-Benz ชายล่างประตู และไฟเรืองแสงภายในห้องโดยสารที่สามารถปรับได้ 3 สี

รถตู้Benz 7 ที่นั่ง มีให้เหลือ 6 สี พร้อมราคาที่จับต้องได้เพียง 5,400,000 บาท 

สำหรับรถตู้ Benz รุ่นใหม่นี้เปิดตัวมาพร้อมสีตัวรถให้เลือกทั้งหมด 6 สีด้วยกัน ได้แก่ Obsidian Black Metal, Dark Graphite Grey Metallic, Pebble Grey, Brilliant Silver Metallic, Crystal White และ Hyacinth Red Metallic โดย รถตู้Benz ราคา เริ่มต้นที่ 5,400,000 บาท และที่สำคัญคือ รถรุ่นนี้เปิดให้ชาวไทยจับจองเป็นเจ้าของได้แล้วเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นใครที่อยากสัมผัสรถรุ่นนี้ก็สามารถติดต่อสอบถามไปยังโชว์รูม Mercedes – Benz หรือ ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านได้เลย

MERCEDES-AMG GLC 43 4MATIC COUPÉ สุดยอดรถยนต์อเนกประสงค์

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé เป็นรถยนต์ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019 แต่ในปี 2021 ทางแบรนด์ก็ได้มีการเปิดตัวรุ่น New Option ออกมา โดยรถรุ่นนี้เป็นรถที่มีสมรรถนะดีเยี่ยม ตามมาตรฐานของ AMG และที่สำคัญรถรุ่นนี้ยังเป็นรถที่มีการผสมผสานเอาความเป็น SUV และ Coupé เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé เครื่องยนต์ AMG V6 ให้กำลัง 390 แรงม้า

Mercedes-AMG GLC43 4MATIC Coupéเป็นรถยนต์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ AMG V6 ขนาด 3.0 ลิตร 2,996 ซีซี ให้กำลังสูงสุด กำลัง 390 แรงม้า (287 กิโลวัตต์) ที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 520 นิวตันเมตร ที่ 1,800-5,800 รอบต่อนาที อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.5 วินาที ความเร็็วสูงสุุดโดยประมาณ 250 กม./ชม. ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AMG Performance 4MATICจึงทำให้ขับเคลื่อนได้สบาย ๆ ในทุกสภาพผิวถนน เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด AMG SPEEDSHIFT TCT 9G Transmission พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และGLC 43 coupe อัตราสิ้นเปลือง เมื่อใช้งานแบบผสม 10.5 – 10.2 ลิตร/100 กม. และการปล่อย CO2 เมื่อใช้งานแบบผสม 240 – 232 กรัม/กม.

ในส่วนมิติของตัวถัง GLC 43 4MATIC Coupé มีขนาดอยู่ที่ 1,930×4,749×1,578 มม. (กว้้างxยาวxสููง) มีระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติกระจกมองข้างปรับระดับ และพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า กระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด – ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า และระบบเปิด – ปิด ประตูท้ายอััตโนมััติิโดยไม่่   ต้องใช้มือ เป็นต้น

นอกจากนี้การตกแต่งภายในและสื่อความบันเทิง GLC 43 Coupe AMG เบาะนั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ต พร้อมตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ที่เบาะคู่หน้ามาพร้อมระบบอุ่นเบาะ ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ และในส่วนของเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังพับได้ แบบ 1/3 และ 2/3 พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันตกแต่งด้วยหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control

มาตรวัดความเร็ว และวัดรอบเครื่องยนต์ แบบ All-Digital Instrument Display ขนาด 12.3 นิ้วระบบสั่งการด้วยเสียง และ หน้าจอระบบสัมผัส MBUX หน้าจอขนาด 10.25 นิ้ว ระบบแผนที่่นำทาง พร้อมระบบ GPS และ รายงานสภาพจราจร รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth, Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเสียงรอบทิศทาง จากเครื่องเสียงคุณภาพระดับพรีเมียม Burmester เป็นต้น

GLC 43 AMG Coupe ราคา ปี 2023 เริ่มต้นเพียง 5.1 ล้านบาท

สำหรับราคาของMercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé ราคาปัจจุบันในปี 2023 GLC 43 AMG ราคา อยู่ที่ 5,180,000 บาท ซึ่งแตกต่างจากรุ่นเปิดตัวปี 2019 อยู่ที่ประมาณ 1,690,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งความแตกต่างที่เราเห็นได้ชัดเจนที่สุดนอกจากการตกแต่งที่ทำให้มีความดุดันมากยิ่งขึ้น คือรุ่นนี้มาพร้อมล้อ 21 นิ้ว จากรุ่นเดิมที่มีขนาดอยู่ที่ขนาด 20 นิ้วและที่สำคัญคืออัตราเร่งที่เร็วกว่ารุ่นเดิม ที่เร็วกว่าเดิม 4 วินาทีเลยทีเดียว

BMW IX FLOW โปรเจกต์คาร์ เปลี่ยนสีได้คันแรกของ BMW

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

BMW iX Flow เป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์คาร์ ที่ทางBMW ได้เปิดตัวไปตั้งแต่ในปี 2022 และแน่นอนว่าโปรเจกต์นี้ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากแฟน ๆ ได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว และที่สำคัญโปรเจกต์คาร์คันนี้ยังเป็นรถสไตล์ครอสโอเวอร์ที่มีขนาดใหญ่ และที่สำคัญการออกแบบรถเปลี่ยนสีได้รถรุ่นนี้ยังมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงานของตัวรถอีกด้วย ซึ่งจะด้วยวิธีใดนั้นเราไปดูรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมกันเลย

BMW iX Flow รถยนต์ที่สามารถเปลี่ยนสี 3 สีในคันเดียว

BMW iX Flowนับว่าเป็นหนึ่งในโปรเจกต์คาร์ที่ทางBMW นำเอาเทคโนโลยี E Ink เข้ามาใช้ในการพัฒนา นวัตกรรมรถเปลี่ยนสีได้ ของแบรนด์ และตั้งแต่ปี 2022 – 2025 ทางผู้พัฒนา(BMW) มีแพลนที่จะเปิดตัวBMW เปลี่ยนสี เองได้ ทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่BMW iXFlow, BMW i Vision Dee (เปิดตัวล่าสุด ปี 2023) และBMW Neue Klasse ที่ทางแบรนด์เตรียมที่จะเปิดตัวในปี 2025 ที่จะถึงนี้

สำหรับ BMW ix flowสามารถเปลี่ยนสีได้ทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว, เทา และดำ ซึ่งนับว่าเป็นสีแนวโมโนโทน ที่สามารถเปลี่ยนสีได้รอบตัวคันรวมไปถงล้อแม็กของรถทั้ง 4 ล้อ โดยสีของตัวรถจะถูกแสดงผ่านฟิล์มอิเล็กโทรโฟเรติกที่มีไมโครแคปซูลขนาดเล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ที่จะห่อหุ้มอยู่บนตัวรถ 

นอกจากนี้ความสามารถอีกอย่างหนึ่งของรถคือ การที่ขับขี่รถไปในบรรยากาศที่แตกต่างกัน เช่น การลดการใช้พลังงานของระบบปรับอากาศภายในรถท่ามกลางแดดจัด ด้วยการปรับสีนอกตัวรถให้เป็นสีขาว เนื่องจากสีขาวนั้นเป็นสีที่สามารถสะท้อนแสงได้ดีกว่าที่โทนเข้ม โหมดการปรับสีให้เป็นสีขาวจึงนับว่าเป็นหนึ่งฟังก์ชันที่ดีและน่าสนใจสำหรับอนาคตเป็นอย่างยิ่ง

BMW iX Flowราคาจะยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาจนกว่าจะมีกำหนดการผลิต

เนื่องจาก BMW iX Flowยังอยู่ในช่วงพัฒนา ซึ่งเป็นเพียงโปรเจกต์คาร์เท่านั้น และอาจจะกลายมาเป็นรถที่วางขายจริงหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นในเรื่องของราคา รถยนต์เปลี่ยนสีได้จาก BMW ix flowรุ่นนี้จึงจะยังไม่มีการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นในปัจจุบัน BMW iX รถยนต์ไฟฟ้า 100% ก็ถูกวางขายอย่างเป็นทางการแล้วหลายรุ่นด้วยกัน เช่น BMW iX xDrive40, BMW ix m60 และ BMW iX3 ซึ่งเหล่านี้จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3 – 4 ล้านบาท ดังนั้นเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากสัมผัสรถในตระกูล iX ก็สามารถไปสัมผัสของจริงได้ที่โชว์รูม BMW ได้แล้ววันนี้

BMW I VISION DEE CONCEPT CAR สามารถเปลี่ยนสีตัวรถได้ 32 สี

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

BMW i Vision Dee คือคอนเซ็ปต์คาร์ที่ทาง BMW นำเอาเทคโนโลยี E-Ink ที่เคยใช้กับ BMW ix flow มาพัฒนาต่อ จนทำให้คอนเซ็ปต์คาร์คันนี้สามารถเปลี่ยนสีได้สูงถึง 32 สีรอบตัวคันเลยทีเดียว และนอกจากนี้รถรุ่นนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ทั้งในส่วนของงานดีไซน์ จึงทำให้รถรุ่นนี้เป็นรถแห่งอนาคตที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

BMW i Vision Dee มีหน้าจอรอบตัวคัน พร้อมความสามารถแสดงภาพอวาตาร์ส่วนตัว

i Vision Deeเป็นรถที่ทางBMWให้นิยามขอ“Dee” (Digital emotional experience) คือประสบการณ์ด้านอารมณ์ความรู้สึกผ่านระบบดิจิตอล โดยตัวรถนั้นมาพร้อมจอภาพที่ถูกติดตั้งรอบตัวคัน รวมไปถึงบริเวณล้อแม็ก จะเป็นส่วนที่จะแสดงสีทั้ง 32 สีออกมาให้ทุกคนได้เห็น รวมไปถึงบริเวณหน้าต่างของรถทั้ง 4 บาน ที่มีความสามารถแสดงภาพอวาตาร์ส่วนตัวของผู้ขับขี่ออกมาให้ เพื่อร่วมเส้นทางเห็นได้อย่างชัดเจน 

ที่สำคัญ i Vision Dee ยังมาพร้อมระบบBMW Mixed Reality Slider คือระบบควบคุมการทำงานส่วนกลางที่จะค่อย ๆ เปลี่ยน กระจกหน้าเป็นพอร์ทัลสำหรับสัมผัสประสบการณ์ดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นภายในของรถรุ่นนี้จึงถูกออกแบบมาให้มีความ Simple มากที่สุด และจะไม่มีหน้าจอกลางมาวางอยู่บริเวณคอนโซลด้านหน้าอีกต่อไป 

แน่นอนว่าเมื่อรถยนต์รุ่นนี้เป็นรถที่นำเอาเทคโนโลยีล้ำ ๆ มาใช้ร่วมกับการออกแบบและพัฒนา คุณจึงสามารถตั้งค่าเนื้อหาดิจิตอล จากบริเวณคอนโซลหน้า ผ่าน Shy-Tech ซึ่งเป็นระบบเซนเซอร์ด้วบการสัมผัสแบบเดี่ยวกับการ Touch หน้าจอต่าง ๆ ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถที่จะฉายสิ่งต่าง ๆ ขึ้นบนกระจกหน้าได้ 4 ระดับเลยทีเดียว นอกจากนี้ในการใช้งานภายในต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิด – ปิดกระจก หรือแม้แต่กระทั่งการเปิด – ล็อกประตูของ รถ BMW เปลี่ยนสี คันนี้ก็จะผ่านระบบเซนเซอร์ทั้งหมด และจำไม่มีปุ่มใด ๆ ขึ้นมาเกะกะอีกต่อไป

BMW วางแผนที่จะเปิดตัว NEUE KLASSE คอนเซ็ปต์คาร์อีกหนึ่งรุ่นในปี 2025 นี้

ก่อนหน้านี้ในช่วงปลายปี 2022 ทางBMW ได้เปิดตัว BMW iX Flow หนึ่งในโปรเจกต์รถยนต์เปลี่ยนสีได้ออก และสำหรับต้นปีนี้ก็ถึงคิวของ BMW i Vision Deeที่มีความสามารถในการเปลี่ยนสีที่สามารถเปลี่ยนได้สูงสุดถึง 32 สี พร้อมกับฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งในอนาคตในปี 2025 ทางผู้พัฒนาเองก็มีแพลนที่จะเปิดตัวBMW NEUE KLASSE ที่คาดว่าจะเป็นซุเปอร์คาร์ที่จะมีความสามารถในการเปลี่ยนสีได้ตามคอนเซ็ปต์ที่ทางBMW ได้วางไว้

YAMAHA TEAM เปิดตัวแคมเปญใหม่ต้อนรับการแข่งขันฤดูกาล ปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี

Yamaha Team ประกาศทวงบัลลังก์แชมป์คืน หลังจากที่ปี 2022 ที่ผ่านมา ทางทีมเสียแชมป์ให้กับทีมคู่แข่งตลอดกาลอย่าง Ducati Lenovo Team ซึ่งล่าสุด MotoGP ได้เปิดเผยข้อมูลออกมาว่า ทีม Monster Energy Yamaha MotoGP พร้อมที่จะรับมือกับฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงด้วยความแข็งแกร่งครั้งใหม่ ด้วยการเปิดตัวสีประจำทีม และ เสื้อทีมใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวในวันอังคารที่ 17 มกราคม 2023 ที่งาน “3S Dealer Meeting” ของ Yamaha Indonesia Motor Manufacturing กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย 

Yamaha Team พร้อมทวงคืนตำแหน่งแชมป์ จากDucati Lenovo Team

เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา หากใครที่ได้ติดตามการแข่งขัน MotoGP ก็คงจะทราบดีว่าอดีตแชมป์เก่าอย่างYamaha Teamได้เสียแชมป์ให้กับ Ducati Lenovo Teamไปอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากในปี 2021 Fabio Quartararo เคยนำทับทีม Monster Energy Yamaha MotoGP คว้าแชมป์โลกปี 2021 มาได้อย่างสวยงาม ซึ่งเราเชื่อว่าในปี 2023 นี้ Fabio Quartararo เองก็คงมุ่งมั่นที่จะทวงคืนตำแหน่งนักแข่งระดับแนวหน้าของโลก ในรายการ MotoGP อย่างแน่นอน เพราะหลังจากที่เขาเสียมงกุฎแชมป์ให้กับ Francesco Bagnaia จากทีม Ducati ไปอย่างหวุดหวิดเมื่อปีที่แล้ว (ปี 2022) 

นอกจากความพยายาม และการฝึกฝนของนักแข่งเอง อีกหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทาง Monster Energy Yamaha MotoGP ได้วางไว้เพื่อที่จะนำเอาตำแหน่งแชมป์กลับมาครอบครองได้คือการเปลี่ยนสีทีม รวมไปถึงการเปิดตัวชุดทีม และ การเปิดตัว Yamaha YZR-M1 ปี 2023 ซึ่งเป็นรถแข่งรุ่นใหม่ล่าสุดที่งานนี้ด้วย ซึ่งเราจะได้เห็นอย่างเป็นทางการพร้อมกันในวันที่ 17 มกราคม ที่จะถึงนี้ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ภายในงานคุณจะได้พบกับ Fabio Quartararo แชมป์โลกปี 2021 และ Franco Morbidelli รองแชมป์โลกปี 2020 รวมไปถึงการจัดแสดง 

3S Dealer Meeting อีเวนท์ก่อน Sepang Test

สำหรับใครที่อยากไปร่วมอีเวนท์ของYamaha Team หรืองาน 3S Dealer Meeting ที่จะจัดขึ้นที่ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ที่จะเกิดขึ้นภายในวันที่ 17 มกราคมนี้ แน่นอนว่าคุณจะได้สัมผัสกับความน่าตื่นเต้น และสิ่งต่าง ๆ ที่ทางทีมจะขนมาสู้กับทีมอื่น ๆ ในวันแข่งจริงก่อนใคร 

นอกจากนี้ Yamaha เป็นทีมแรกที่ได้รับเกียรติให้เป็นทีมแรกในการเปิดตัว ก่อนที่จะถึง Sepang Test ในวันที่ 11 – 12 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ สำหรับใครที่ไม่สามารถเข้าชมการเปิดตัวในกรุงจาการ์ตาได้ คุณสามารถติดตามข่าวสาร และการให้สัมภาษณ์ของเหล่านักแข่งได้ง่าย ๆ ผ่านช่องเว็บไซต์ MotoGP หรือ แพลตฟอร์มออนไลน์ช่องทางต่าง ๆ ของ Yamaha ซึ่งไม่ว่าจะเป็น Instagram, Face book, Twitter หรือเว็บไซต์ Yamaha MotoGP หรือติดตามข้อมูลข่าวสารบนเว็บไซต์ของเราก็ได้เช่นเดียวกัน

NEW DUCATI DIAVEL 1260 S รถที่จะดึงเอาตัวตนของคุณออกมา

New Ducati Diavel 1260 S เป็นรถรุ่นใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Diavel ที่เคยเปิดตัวไปเมื่อปี 2018 และล่าสุดสำหรับ New Ducati Diavel 1260 S เป็นรุ่นที่พึ่งจะมีการเปิดตัวไปเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากสเปคของรถรุ่นนี้จะน่าสนใจแล้ว ดีไซน์ของรถก็เรียกได้ว่าเท่ หรู และ ดูดี จนสามารถดึงเอาตัวตนและสไตล์ของผู้ขับขี่ออกมาได้ดีเป็นอย่างยิ่ง 

New Ducati Diavel 1260 S มอเตอร์ไซค์ 159 แรงม้า พร้อมระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม

New Ducati Diavel 1260 Sเป็นรถ Sport Cruiser ที่มาพร้อมเครื่องยนต์Testastretta DVT L-Twin 2 สูบ ขนาด 1,262 ซีซี 159 แรงม้า 117 Kw ที่ 9,500 รอบต่อนาที แต่สำหรับที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา, แคนาดา และ เม็กซิโก จะมีกำลังสูงสุดที่ 157 แรงม้า 116 Kw ที่ 9,250 รอบต่อนาที แรงบิด 129 นิวตัน – เมตร ที่ 7,500 รอบต่อนาที เกียร์ธรรมดา เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 

ในส่วนของภาพรวมของตัวรถ Ducati Diavel 1260 S มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 218 กิโลกรัม (481 ปอนด์) ความสูงของที่นั่ง 780 มม. (30.7 นิ้ว) ฐานล้อ 1,600 มม. (63.0 นิ้ว) อุปกรณ์ความปลอดภัยของ Diavel 1260 s ก็ให้มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Borsch Cornering ABS EVO, Ducati Traction Control EVO, Riding Mode, Power Modes และ Ducati Wheelie Control EVO เป็นต้น ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยที่สำคัญและรถมอเตอร์ไซค์ที่มีซีซีสูงระดับพันซีซีควรต้องมีเป็นอย่างยิ่ง 

นอกจากนี้ Ducati Diavel 2022 ยังมาพร้อมกับ ระบบ Cruise Control and Hands Free ซึ่งเป็นการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่ ซึ่งควบคุมโดยปุ่มควบคุมไฟเรืองแสงบนแฮนด์บาร์ ที่จะถูกติดตั้งอยู่ที่บริเวณแฮนด์บาร์ อีกทั้งแผงหน้าปัดของ Diavel 1260 s ยังประกอบด้วยหน้าจอ TFT พร้อมแผงไฟแสดงสถานะแยกต่างหาก ซึ่งอยู่ด้านบนและด้านล่างของแฮนด์บาร์ตามลำดับ

ราคาของ Diavel 1260 s เริ่มต้นเพียงล้านต้น ๆ พร้อมวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ 

สำหรับNew Ducati Diavel 1260 S และDiavel 1260 วางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยDucati Diavel 1260 s ราคา เริ่มต้นที่ 1,049,000 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Sandstone Gray และ Total Black สำหรับDucati Diavel 1260 ราคาเริ่มต้นที่ 939,000 บาท และมี 2 สีให้เลือกเช่นกัน ได้แก่ Sandstone Gray และ Black Stealth นอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่น ยังจะได้รับการตรวจสอบการล้างวาล์ว (DESMOSERVICE) ทุก ๆ 15,000 กม. (9,000 ไมล์) / 12 เดือน และที่สำคัญทั้ง 2 รุ่นยังสามารถใช้งานร่วมกับ Ducati Link App ซึ่งทำให้สามารถตั้งค่าโหมดการเดินทาง และปรับแต่งพารามิเตอร์ของโหมดการขี่แต่ละโหมด โดยคุณสามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้บนสมาร์ทโฟนของคุณได้ง่าย ๆ เพื่อการขับขี่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลมากที่สุด 

GRAND PRIX OF KAZAKHSTAN เจ้าภาพ MOTOGP ครั้งแรกของ คาซัคสถาน

10 อันดับ ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก ประจำปี 2566 ทนทาน กับทุกสภาพถนน และยึดเกาะถนนได้ดี