Previous slide
Next slide

พบกับ มาสด้า bt50 กับความสำคัญต่อประเทศญี่ปุ่นที่หลายคนยังไม่รู้

มาสด้า bt50

      เวลาที่เราพูดถึงแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นก็คงจะหนีไม่พ้นกับยี่ห้อแบรนด์โตโยต้าหรือว่าฮอนด้าแต่มีอีกหนึ่งแบนด์ที่คงเอกลักษณ์ไว้เฉพาะตัวเพราะนอกจากดีไซน์รถที่สวยงามไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถกระบะแล้วภายในยังดูโฉบเฉี่ยวและมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นนั่นก็คือแบรนด์มาสด้า ที่ถูกพูดถึงเช่นเดียวกัน

มาสด้า bt50 กับประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่าจะเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก

      จากก้าวแรกเริ่มต้นความท้าทายครั้งสำคัญกับมาสด้าที่เกิดและเติบโตมาจากเมืองฮิโรชิมาที่แม้ว่าจะได้รับความสูญเสียอย่างสูงสุดในประวัติศาสตร์โลกแต่สี่เดือนให้หลังจากนั้นมาสด้ากลับมาผลิตรถยนต์ได้อีกครั้งโดยผลิตรถยนต์จนไกลเป็นผู้นำในครั้งนั้นและมีแบบรถยนต์เป็น  MONOZUKURI จนนำไปสู่เทคโนโลยีแบบสกายแอคทีฟและโคโดะ ดีไซน์ที่ปรากฏและมีรากฐานที่มั่นคงมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน

ยุคเริ่มต้นช่วงปีค.ศ. 1920 ถึง 1931 จากการผลิตจุกไม้ก๊อกสู่รถยนต์ 

      หนึ่งปี 1920 บริษัท Toyo Cork Kogyo ได้ถูกจัดตั้งขึ้นที่เมืองฮิโรชิมาประเทศญี่ปุ่นโดย มร. จูริโร มัทสึดะ เป็นผู้ก่อตั้งและจากชื่อของผู้ก่อตั้งบริษัทได้ทำการผลิตจุกไม้ก๊อกในไม่ช้าบริษัทก็ได้เริ่มทำการผลิตรถยนต์ในปี 1931 ชื่อว่ามาสด้า ได้ถือกำเนิดมาจากชื่อของ มร.มัทสึดะ โดยมีความหมายของความรู้อัญชันฉลาดของเทพเจ้าชาวเอเชียตะวันตกที่มีความผสมผสานและกลมกลืนกัน

ยุคแรกช่วงปีค.ศ. 1931 ถึง 1945 รถสามล้อและการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ 

       รถคันแรกที่มาสด้าผลิตขึ้นเป็นรถยนต์สามล้อที่มีมีชื่อว่า“ Green Panel “ ได้ส่งไปจำหน่ายที่ประเทศอินเดียและประเทศจีนได้รับความนิยมอย่างสูงๆ สุดในเรื่องของความสามารถในการควบคุมรถและนั่นก็คือตัวอย่างหนึ่งในการคิดต่างที่ไม่เหมือนใครด้วยทัศนคติที่ยึดมั่นมาตลอดว่าสามารถทำได้ปลูกฝังจากสปิริทของชาวฮิโรชิมาที่ต้องการเอาชนะความท้าทายและอุปสรรคต่างๆรวมถึงแสดงเอกลักษณ์และสปิริทของมาสด้าในปี 1945 ภายหลังจากการทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮีโร่ชมาแล้วมาสด้าคือผู้นำและศูนย์กลางในการก่อสร้างเมืองฮิโรชิมาขึ้นมาใหม่จากการเสียหายครั้งใหญ่จึงทำให้มีโรงงานของมาสด้าเป็นการบัญชาการและฟื้นก่อสร้างเมือง

จากรถสปอร์ตมาสด้า  คอสโม ศูนย์รถสปอร์ต มาสด้า RX-8เครื่องยนต์โรตารี่ 1961 

      เครื่องยนต์ที่ใช้นวัตกรรมทางวิศวะที่ไม่เหมือนใครและลูกสูบแบบหมุนที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกเกิดขึ้นจากการพัฒนาภายหลังจากเครื่องยนต์โรตารี่ถูกริเริ่มขึ้นโดย มร.เฟลิกซ์ แวนเคิ้ล โดยเป็นเครื่องยนต์ที่ห้องเผาไหม้มีการทำงานการหมุนของแผ่นดิสก์ที่มีความเรียบแทนที่การเคลื่อนที่ลงของลูกสูบมาสด้าได้รับลิขสิทธิ์ของเทคโนโลยีในช่วงท้ายทศวรรษ 1950 และเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเดียวของโลกที่ได้ใช้เครื่องยนต์โรตารี่เพิ่มเติมจากเครื่องยนต์ที่มีในตลาดทุกวันนี้เครื่องยนต์โรตารี่เป็นอุดมคติในรถยนต์ของรถสปอร์ตที่รถมาสด้าได้นำเอามาผลิตในรถยนต์มาสด้าคอสโม110S ครั้งแรกในโลกรถสปอร์ตแห่งตำนานมาสด้าได้ถูกนำมาใช้เป็นรถแข่งมาสด้า 787 ที่ชนะเลิศการแข่งขัน Le Mans ในปี 1991

รถสปอร์ตโรดสเตอร์แห่งตำนานได้กลับมาแล้ว รถมาสด้า  MX-5 1989

     ทศวรรษที่ 50 ถึง 60 เป็นช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองของโรดสเตอร์ ในประเทศอังกฤษนับตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมาความรุ่งเรืองเหล่านั้นก็ได้จางหายไปจนไม่มีผู้ใดผลิตคิดค้นโรสเตอร์ออกมาอีก จนกระทั่งมาสด้าได้ผลิตและคิดค้นพัฒนาอีกครั้งหนึ่งโดยมุ่งมั่นให้เป็นรถสปอร์ตที่มีความทันสมัยพร้อมกับมีความปลอดภัยมีความสนุกสนานในด้านการขับขี่ฉบับแบบรถสปอร์ตดั้งเดิม

Mazda  MX-5 มีน้ำหนักเพียง 955 กิโลกรัมเป็นรถสปอร์ตที่มีน้ำหนักเบาอย่างไม่น่าเชื่อวางเครื่องยนต์ที่ด้านหน้าและมีการขับเคลื่อนสมรรถนะที่ดีเยี่ยมเป็นการกำเนิดโรดสเตอร์ อีกครั้งให้ความสนุกการขับขี่เป็นอย่างมากสร้างความภูมิใจกับผู้ที่ได้ครอบครองจนทำให้มียอดการขายที่ดีที่สุดในโลกจนไม่มีใครเทียบเท่าได้

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่กับการแข่งขัน เลอ มังส์ LE Mans 1991 

      ไม่มีผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายใดที่สามารถเอาชนะการแข่งขัน Le Mans จนกระทั่งในปี 1991 เป็นปีที่มาสด้าได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการส่งรถมาสด้า 787 เครื่องยนต์โรตารี่ลงแข่งขันในรายการที่เก่าแก่ที่สุดและทรหดที่สุดด้วยการเป็นการแข่งขันที่ไม่มีวันหยุดพักตลอด 24 ชั่วโมงถึงแม้ว่ารถมาสด้า 787 จะมีกำลังไม่มากกว่ารถคู่แข่งแต่มีข้อได้เปรียบในเรื่องความน่าเชื่อถือและความทนทานโดยมาสด้าสามารถเป็นผู้นำและคว้าชัยชนะในการแข่งขันครั้งแรกในบริษัทจนถึงทุกวันนี้ซึ่งถือว่าเป็นรถญี่ปุ่นรายแรกและรายเดียวที่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์แบบเคลื่อนที่กลับไปกลับมาแต่ความสำเร็จเกิดมาจากความคิดต่างในยุคนั้น

ยุคของเจนเนอเรชั่น  zoom zoom  2002 ถึง 2010

    จากรถมาสด้า 6 ศูนย์มาสด้า RX-8 แนวการออกแบบและสื่อสารด้วยสโลแกนใหม่  “ zoom zoom “ คือการแสดงออกถึงความรู้สึกในการขับขี่ที่สนุกสนานแบบวัยเยาว์รวมทั้งได้ถูกถ่ายทอดการขับขี่เป็นรถยนต์ที่เปิดประสบการณ์ในการขับขี่ที่สนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจเป็นการออกแบบรถยนต์ที่มีความโดดเด่นในรถมาสด้า6 ในครั้งนั้นเป็นรุ่นแรกที่แสดงออกถึงแนวคิดดังกล่าวเมื่อได้เปิดตัวก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในปี 2002 ตามด้วยรถสปอร์ตในตำนานกับ Mazda Rx-8 ในปี 2003 เป็นรถที่ได้รับการตอบรับดีมากที่สุดและตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างแท้จริงมีการออกแบบให้มีประตูแบบฟรีสไตล์เพิ่มความเป็นอเนกประสงค์ในการใช้งาน และได้รับรางวัล International Engine of the Year และรางวัล Best New Engine 

การครบรอบ 90 ปีในปี 2010 

      การเผชิญความท้าทายถึง 90 ปีและความคิดต่างที่ทำให้มีแบรด์นรถยนต์จนถึงทุกวันนี้ เมื่อเรามองดูการผลิตรถยนต์มาสด้ามาตลอด 90 ปีจะเห็นถึงความคิดที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจนจนนำมาสู่การตื่นเต้นนวัตกรรมใหม่และการสร้างรถที่ให้การขับขี่ที่สนุกสนานสร้างสรรค์จากกลุ่มคนที่มีความหลงกับสิ่งที่ทำและเป็นรถสปอร์ต โรดสเตอร๋ ที่ขายดีที่สุด Mazda Mx-5 สู่รถ Mazda Cx-7 ที่โฉเจียมาสด้ายังคงมุ่งมั่นในการนำเอานวัตกรรมทางวิศวกรรมและสปิริทความท้าทายในความต้องการทำสิ่งที่ไม่เหมือนใครเพื่อสร้างมาตรฐานขึ้นใหม่ต่ออีก 90 ปีข้างหน้า

พร้อมกับได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่กับ มาสด้า bt50 รุ่นใหม่ 2021 ที่เป็นรถกระบะที่มีสมรรถนะที่ทรงพลังมีเครื่องยนต์ที่ดีเยี่ยมพร้อมฟันฝ่าอุปสรรคในทุกการขับขี่จนได้เป็นรถยนต์คู่ใจที่ดีที่สุดพร้อมมีรีวิวอย่างจัดเต็มบวกกับราคาที่แจ้งไว้อย่างชัดเจน

มาสด้า bt50

รีวิว ALL-NEW MAZDA BT50 รุ่นใหม่ 2021

       รถปิ๊กอัพเป็นรถที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานเป็นรถที่สามารถใช้ได้หลากหลายในชีวิตประจำวันไปจนถึงเชิงพาณิชย์หรือก็คือการทำมาค้าขายรถปิกอัพถูกผลิตให้ใช้งานได้หลากหลายประเภทโดยมีขนาดเครื่องยนต์และการขับเคลื่อนรวมถึงอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานโดยในวันนี้มาสด้าได้เปิดตัว มาสด้า บีที50 อัพรุ่นใหม่กับรุ่น มาสด้า bt50 โดยได้ผลิตออกมาหลายๆ รุ่นย่อย Mazda BT50 Pro เพื่อให้ ตอบโจทย์ การใช้งานที่มีรูปแบบหลากหลายของคนไทยเพิ่มเติมความโดดเด่นและ ดีไซน์ ให้ดูสง่างามมากยิ่งขึ้น

  • การออกแบบ

        สิ้นสุดการรอคอยโดยในครั้งนี้รถยนต์ มาสด้า bt50 ถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมดเป็นรถปิ๊กอัพเจนเนอเรชั่นใหม่อย่างแท้จริงโดยภายใต้แนวคิดจิตวิญญาณแห่งความเคลื่อนไหวเหมือนกับรถยนต์มาสด้าทุกรุ่นแต่เดิมที่หน้าตาจะแตกต่างกันออกไปแต่ตอนนี้เรียกว่าสามารถเป็นพี่น้องกันได้โดยอย่างแท้จริงแล้วโดยการออกแบบได้รับ แรงบันดาลใจมาจากสุนทรียภาพแบบญี่ปุ่นเรียบง่ายแต่มีความงดงามผสมผสานกับการออกแบบรูปทรงของรถที่สะท้อนความบึกบึนแข็งแกร่งทำให้รถยนต์ มาสด้า bt50 มีมิติอย่างลงตัวผู้ออกแบบของมาสด้าเข้าใจว่ารถปิกอัพไม่ได้ถูกเอามาใช้งานแค่เชิงพาณิชย์อย่างเดียวเท่านั้นแต่เป็นรถที่ใช้งานได้ทุกโอกาสเพื่อตอบสนองไร้สไตล์ให้เข้ากับปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคมจึงออกแบบมาให้ดูทันสมัยและสง่าเหมือนรถ SUV ราคาสูง

  • ขุมกำลัง

        กลุ่มกำลังรถในมาสด้า bt50 ประกอบด้วย เครื่องยนต์ ดีเซลสองขนาดที่สามารถเลือกใหม่เหมาะกับการขับขี่ได้อย่างลงตัวเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตรที่มีกำลังขนาดสูงสุดถึง 190 แรงม้าที่ให้สมรรถนะในการขับขี่อย่างทรงพลังตอบสนองดีเยี่ยมทุกรอบความเร็วและเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตรที่มีกำลังสูงสุด 150 แรงม้าให้แรงบิดสูงตั้งแต่รอบเครื่องต่ำและโดดเด่นด้วยอัตรากำลังประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุดในคลาสเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยิ่งไปกว่านั้นเครื่องยนต์ทั้ง 2 ขนาดยังสามารถรองรับน้ำมัน B20 ได้อีกด้วยเป็นทางเลือกที่มีความปลอดภัยและสะดวกสบาย

  • ความปลอดภัย 

       มาสด้า bt50 ได้รับการติดตั้งระบบเบรกแบบ ABS ระบบกระจายแรงเบรคแบบ EBD รวมทั้งระบบช่วยเบรคแบบ BA ถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อยทำให้สมรรถนะการขับขี่และความปลอดภัยมีความขบขันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นขับขี่ได้อย่างมั่นใจสำหรับผู้ที่เลือกซื้อต้องการ ความปลอดภัย ที่มากขึ้นก็สามารถขยับไปที่รุ่นย่อยที่เพียบพร้อมมากขึ้นโดยจะได้รับถุงลมนิรภัยถึงหกตำแหน่งระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลังรวมสูงสุดถึงแปดตำแหน่งกล้องมองหลังระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอัพสัญญาณขณะเปลี่ยนเลนส์ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอัพสายตาขณะถอยหลังในรุ่น 4×4 การขับเคลื่อนสี่ล้อจะมากับระบบ electronic diff – lock ที่ฟันเฟืองท้ายกล้าขับขี่ได้อย่างมั่นใจแบบออฟโรด

  • ระบบ Media ที่มาแบบจัดเต็ม 

      พบกับมาสด้า bt50 มีหน้าจอแสดงผลสัมผัสขนาด 9 นิ้วรองรับ การเชื่อมต่อ Apple Carplay และระบบ Andriod Auto พร้อมระบบเสียงรอบทิศทางด้วยลำโพงมากถึง 8 ตำแหน่งเพลิดเพลินได้ตลอดทุกการเดินทาง

รุ่นและราคา รถ มาสด้า bt50 ใหม่

“จำนวนรุ่นย่อย 14 รุ่น”

กระบะตัวเตี้ย

Mazda BT50 STD 1.9 E ____ 553,000 บาท

Mazda BT-50 FSC 1.9 C ____ 679,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 1.9 C ____ 771,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 1.9 S ____ 847,000 บาท

ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง หรือ 4 ล้อ ยกสูง

Mazda BT-50 FSC 1.9 C Hi-Racer _____ 714,000 บาท

Mazda BT-50 FSC 1.9 C Hi-Racer 6 AT__ 768,000 บาท

Mazda BT-50 FSC 1.9 S Hi-Racer _____ 787,000 บาท

Mazda BT-50 FSC 1.9 S Hi-Racer 6AT__ 832,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 1.9 S Hi-Racer _____ 891,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 1.9 S Hi-Racer 6AT__ 936,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 1.9 SP Hi-Racer ____ 1,012,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 1.9 SP Hi-Racer 6AT_ 1,070,000 บาท

ขับเคลื่อน 4 ล้อ

Mazda BT-50 DBL 4×4 3.0 SP_____ 1,118,000 บาท

Mazda BT-50 DBL 4×4 3.0 SP 6 AT__1,153,000 บาท

บทสรุป มาสด้า bt50 กับการขับเคลื่อนและไม่ หยุดพัฒนาเพื่อรถยนต์ที่ดีที่สุดของทุกคน

        เป็นอย่างไรกันบ้างกับรถยนต์ Mazda BT50 2024 พร้อมประวัติความเป็นมากว่าจะเป็นมาสด้าจนถึงทุกวันนี้ที่ได้ฝ่าฟันอุปสรรคและเป็นผู้ก่อตั้งแม้จะเกิดสงครามโลกที่มีระเบิดลงที่ฮิโรชิม่าก็ตามแต่ก็ยังมีความคิดที่แตกต่าง สร้างโรงงานรถยนต์จนได้กลายเป็นผู้นำในด้านการผลิตยานยนต์ชั้นนำระดับโลก พร้อมกับเยี่ยวยาจิตใจของชาวญี่ปุ่นขึ้นมาใหม่ จนสุดท้ายได้เปิดตัวรถกระบะปิ๊กอัพสุดโฉบเฉี่ยวอย่างมาสด้า bt50 ที่คุณนั้นก็สามารถเป็นเจ้าของกันได้แล้วตั้งแต่ในวันนี้

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

More Contents

More Cars