Previous slide
Next slide
Categories
ARTICLE

พาทำความรู้จักกับ logitech g25 จอยสำหรับการเล่นเกมที่ดีที่สุด

Logitech G25

หลายคนอาจจะรู้จักกับ logitech g25 จอยพวงมาลัย หรือจอยสำหรับเล่นเกมที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีสำหรับเกม ยอดนิยม นั่นก็คือเกม “ Gran Turismo ” ในรุ่นแรกของเกมค่าย GT Force ที่ได้สร้างมาตรฐานของจอยพวงมาลัยได้เป็นอย่างดีและมีชื่อว่า Logitech G25 สำหรับเจ้าพวงมาลัยรุ่นนี้นั้นได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางเพราะมีความทนทานสูงใช้วัสดุชั้นดีห่อหุ้มทั้งตัวพวงมาลัยและคันเกียร์มีแป้นครัชพร้อมเกลียวแยกมาให้ด้วย

ตำนาน Logitech G25 

        ในยุคแรกมีแค่เพียง  Fanatec เท่านั้นแถมยังมีเรื่องการควบคุมคุณภาพที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่และมีปัญหาจุกจิกแถมยังไม่ค่อยทนมือจึงทำให้ logitech g25 ออกมาเห็นช่องว่างของปัญหาของจอยพวงมาลัยรวมไปถึงราคาที่ค่อนข้างดี Mods Logitech มีมาตรฐานจึงถูกอกถูกใจคอเกมหลายหลายคนเป็นอย่างมากอีกทั้งยังเป็นพวงมาลัยที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วนสามารถหมุนได้ถึง 900 องศาเลยทีเดียว

Logitech G25

สเปค logitech g25

        ส่วนสเปคของเจ้า Logitech G25 ก็ถือค่อนข้างมี คุณภาพ สูงอยู่พอสมควรเพราะมีมาตรฐานดังนี้

  • มีพวงมาลัยขนาด 11 นิ้วหุ้มด้วยหนังแท้
  • สามารถหมุนได้ 900 องศา
  • มีระบบฟิตแบคทำงานด้วยมอเตอร์สองตัว
  • มีระบบกำลังด้วยระบบเฟือง
  • มีเกียร์แยกสามารถปรับเป็น Sequential shifter หรือ H-Pattern ได้ 
  • มีเป็นเกียร์ไว้คอยเหยียบเบรก คันเร่ง สปริงธรรมดากดลงไปได้ในจังหวะเดียวกัน
  • มีระบบเซ็นเซอร์แบบ option จัดเต็ม

นับว่าเป็นเป็นตัวที่มีสเปคค่อนข้างดีเลยทีเดียวถ้าเทียบกับคู่แข่งแล้วรวมทั้งยังมีชุดที่มีความเสถียรเป็นมิตรสำหรับผู้ใช้งานจอยพวงมาลัยรุ่นนี้จะเข้ามาอยู่ในหัวใจของคอเกมทุกคนอย่างแน่นอน

การเปลี่ยนแปลงของ logitech g25

         ถัดมาในปี 2007 ทาง logitech ได้ออกพวงมาลัยน้องใหม่ที่กลายเป็นรุ่นยอดนิยมอย่างโลจิเทคไดร์ฟวิ่งฟอร์จีที  ที่รถสเปคลงเหลือแค่เพียงมอเตอร์ตัวเดียวรวมตัดเอาแป้นเหยียบคลาสและเกียร์แยกออกถึงกระนั้น option ก็จะดูน้อยนิดแต่ก็ได้ทำการบ้านมาแล้วเป็นอย่างดีให้อารมณ์ที่ไม่แตกต่างจาก logitech g25 รวมทั้งเสียงรบกวนใน การใช้งาน ของเฟืองที่กระทบกันก็ลดน้อยลงไปด้วยที่สำคัญราคาถูกและเป็นมิตรต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมากและตัวย่อนิยมตลอดกาล ในที่สุดก็ถูกผลิตและหยุดลงไปในปี 2015 พร้อมกับ logitech g27

การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ logitech g25  

        มาถึง Logitech G27 อีกหนึ่งตัวที่มีแฟนเกมพูดถึงมากที่สุดและได้รับการอัพเกรดจากระบบเฟืองมาอยู่ในรูปแบบของ “Helical Gear” ที่บอกได้เลยว่าสามารถลบเสียงเสียงรบกวนในขณะเล่นได้เยอะมากพร้อมกับการหักพวงมาลัยที่แตกต่างจาก logitech g25 ได้อย่างสิ้นเชิงและยังมีไฟแอลอีดีที่พวงมาลัยอีกด้วยเป็นอีกหนึ่งระบบของโลจิสติกส์ที่พัฒนาออกมาอย่างมีประสิทธิภาพและให้ฟิวลิ่งอย่างแท้จริงในการเล่นเกม logitech g27 ราคา ก็อยู่ที่ 12,500 บาท 

logitech g25 g27  แตกต่างกันไหม

  • Logitech G27
  • ที่มาพร้อมสเปคดังต่อไปนี้และพัฒนามาจากรุ่นเดิมๆได้เป็นอย่างดีในทุกๆอย่างไม่ว่าจะเป็น
  • พวงมาลัยขนาด 11 นิ้วหุ้มด้วยหนังแท้
  • หมุนได้ 900 องศา
  • มีระบบทำงานด้วยมอเตอร์สองตัว
  • มีระบบกำลังด้วยระบบเฟื่อง
  • มีเกียร์แยกแบบ Pattern shifter
  • มีแป้นเหยียบเบรคคันเร่งสปริงธรรมดากดลงไปจังหวะเดียวใช้เซ็นเซอร์ optical
  • สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อนแทบจะแยกไม่ออกว่า logitech g25 กับ Logitech G27 ต่างกันอย่างไรแต่สิ่งที่อัพเกรดจากรุ่นนี้นั่นก็คือการใช้ H-Pattern Shifter ที่เปลี่ยนกลไกลใหม่ ที่มีมีความรู้สึกแน่นขึ้นกว่าเดิมกับตัวคันเร่งที่มีรูยึดเพิ่มสามารถปรับขยายห่างกันได้อีก

logitech g25 สุดยอดแห่งการเล่นเกมที่คุณจะพบกับประสบการณ์ใหม่ได้เลย  

หากใครเป็นคอเกมและกำลังตัดสินใจซื้อรุ่น logitech g25  อย่าลังเลตั้งแต่วันนี้กันได้เลยเพราะเรานั้นได้เปรียบเทียบทั้งรุ่น Logitech G25 กับ Logitech G27 ไว้ให้ทุกคนได้ตัดสินใจกันได้แล้วอีกทั้งสมรรถภาพในการเล่นเกมก็มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น พร้อมป้องกันระบบการรบกวนได้เป็นอย่างดีระหว่างการเล่นอัพเกรดเทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไว้ด้วยกันพัฒนาพัฒนาให้กับทุกคนได้ใช้สิ่งที่ดีที่สุดตั้งแต่ในวันนี้เลย ซึ่งราคา logitech g25 มือสอง ก็อยู่ที่ 9,900 บาท

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

พาทำความรู้จักกับ รถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่สุดแห่งนวัตกรรมยานยนต์ 

รถยนต์ไฟฟ้า BYD

ในปัจจุบันเราปฎิเสธไม่ได้เลยว่ารถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นกระแสที่มาแรงอย่างต่อเนื่องเพราะในยุคที่เศรษฐกิจน้ำมันแพงขนาดนี้หลายหลายคนจึงกำลังตัดสินใจที่กำลังมองหารถไฟฟ้าคู่ใจเพื่อใช้ขับไปทำงานเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในอนาคตโดยในวันนี้นั้นเราจะมาพูดถึง รถยนต์ไฟฟ้า BYD รถไฟฟ้า EV ค่ายยักษ์ใหญ่จากจีนเข้ามาเปิดตัวแล้วใน ประเทศไทยชื่อว่า BYD Thailand ประกาศเผยแพร่รุ่นรถเมื่อปลายปี 2523 ที่ผ่านมาและมีการจองรถไฟฟ้ากันอย่างเกินขนาดถึง 2507 คันตั้งแต่วันแรกเลยทีเดียวซึ่งในวันนี้นั้นเราก็จะแนะนำรุ่นรถที่กำลังมาแรงของรถยนต์ไฟฟ้า BYD กันเลย 

รีวิว รถยนต์ไฟฟ้า BYD อีกหนึ่งพลังการขับเคลื่อนที่หลายๆคนกำลังหมายปอง 

รถยนต์ไฟฟ้า BYD

 อีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้า BYD สุดโฉบเฉี่ยวที่เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนมีนา 2023 ที่ผ่านมาจะมีรุ่นไหนบ้างมาดูกัน  

  1. BYD E6

เป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV 2 สเตชั่นที่ ตอบโจทย์ ความต้องการของคนที่ชื่นชอบรถยนต์อเนกประสงค์ ทั้งฟังก์ชันการใช้งานก็มีความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่เป็นอย่างมากเพราะมีพื้นที่เก็บสามารและ ห้องโดยสาร ที่กว้างเหมาะสำหรับการเป็นรถยนต์ครอบครัวเรียบง่าย หน้าจอมัลติมีเดียสามารถหมุนได้มีขนาดใหญ่ถึง 10.1 นิ้วรองรับการชาร์จเชื่อมต่อบลูทูธเบาะโดยสารเป็น 2 แถว 5 ที่นั่ง พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังและมีช่องเสียบยูเอสบีอย่างสะดวกสบายโดยมีขนาดความจุ 71.7 KWH ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง ก็สามารถพาทุกคนในครอบครัวไปถึงที่หมายได้รุ่นนี้นั้นเป็นรุ่นฮิตมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ประเทศไทย รถยนต์ไฟฟ้าBYD ราคา 1,135,900 บาท

  1. BYD T3  

รถยนต์ไฟฟ้าBYD สุดยอดรถตู้ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ที่ตอบโจทย์การขนส่งได้เป็นอย่างดีช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและคุ้มค่ามากที่สุดสำหรับรถตู้คันนี้เพราะมีความคล่องตัวสูงขับขี่ได้อย่างง่ายดายและสะดวกต่อการหาที่จอดชิ้นส่วนและ การดูแลก็น้อยกว่ารถตู้ที่ใช้น้ำมันมีสมรรถนะเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปรวมถึงเป็นอีกหนึ่งรถยนต์เพื่อการขนของมีภาระกำลังแรงม้าถึง 134 และแบตเตอรี่จุถึง 44.9 KWH ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 233 กิโลเมตรรองรับน้ำหนักในการขนสินค้าได้ถึง 700 กิโลกรัมเป็นอีกหนึ่งรถตู้อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดีราคาขายในประเทศประเทศไทย 990,000 บาท BYD ราคาแต่ละรุ่น ราคาก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย 

  1. BYDM3

กลายเป็นรถตู้คู่ใจยอดฮิตกับรถยนต์ไฟฟ้า BYD M3 ที่เป็นรถตู้ไฟฟ้าล้วนแบบ 100% รถไฟฟ้า BYD เปิดตัวมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีครอบครัวขนาดใหญ่มีให้เลือกทั้งแบบห้าที่นั่งและเจ็ดที่นั่งภายภายนอกโดดเด่นด้วยดีไซน์สุดหรูหราเฉียบคมด้วยไฟคู่หน้า LED ดีไซน์ที่สวยงามและกระจังหน้ารูปตัววีซ่อนที่ชาร์จไฟไว้ในตัวรถลงตัวอย่างสุดๆกับดีไซน์สปอร์ตพร้อมช่องดักลมขนาดใหญ่ตรงกลางพร้อมติดตั้งไฟตัดหมอกและกระจกมองข้างขนาดใหญ่ให้มุมมองที่กว้างขึ้นและทัศนวิสัยที่ดีมาพร้อมกับประตูสไลด์ทั้งสองข้างติดตั้งแพ็คกิ้งเซ็นเซอร์ที่กันชนท้ายกับอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ประสิทธิภาพสูงผู้โดยสารได้มากสูงสุดถึง 7 ที่นั่ง พลังขับเคลื่อนสูงสุดถึง 94 แรงม้าและแบตเตอรี่ BYD NCM Battery ขนาด 50.3 KWH ในไทยจำหน่ายราคาแบบ5 ที่นั่งอยู่ที่ 1,059,000 บาท และแบบ 7 ที่นั่งอยู่ที่ 1,089,000 บาท

  1. BYD Atto 3

รถยนต์ไฟฟ้าBYD BYD Atto 3 หรือที่ใช้ชื่อ YUAN Plus EV ในประเทศจีนโดยรถยนต์รุ่นนี้นั้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความฮอตฮิตเป็นอย่างมากพร้อมเปิดตัวในราคาเพียง 1.9 1,000,000 เท่านั้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภท B-SUV/Crossover ที่มีขนาดตัวถังค่อนข้างใหญ่ใกล้เคียงกับ MG Haval Honda HR-V Toyota Corolla Cross รถยนต์ไฟฟ้าBYD มีดีไซน์ที่โดดเด่นและได้รับแรงบันดาลใจมาจากมังกรมีพละกำลังในการขับเคลื่อนถึง 204 แรงม้ามีระบบพลังไฟฟ้าที่แตกต่าง Extended Range และมีความจุแบตเตอรี่ที่สามารถรองรับการชาร์จได้ถึง 80 Kw ชาร์จกระแสสลับ Ac Atto 3 Standard Range 49.9 kW (410 กิโลเมตร) ราคา 1,099,900 บาท

  1. BYD Dolphin

ที่สุดแห่งนวัตกรรมจาก รถยนต์ไฟฟ้าBYD ที่ขายดีอย่างสุดสุดกับ BYD Dolphin ออกเป็นรุ่นสแตนดาร์ดและซูพีเรียร์ทั้งสองรุ่นนี้จะมามาพร้อมกับมอเตอร์มอเตอร์ไฟฟ้าที่วางบนเพลาหน้าขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าเหมือนกันมีขนาดตัวถังเท่ากันดังนี้ความเร็วสูงสุดถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงชาร์จกระแสสลับเอซีรองรับได้สูงสุดถึง 6.6 KW ใช้เวลาในการชาร์จ 30 ถึง 80% ภายใน 30 นาที สิ่งที่ทำให้สองรุ่นนี้ต่างกันนั่นก็คือรุ่นโสภิดาสามารถวิ่งได้ไกลกว่ารุ่นสแตนดาร์ดถึง 104 กิโลเมตรต่อหนึ่งรอบชาร์จนอกจากนั้นก็ยังมาพร้อมกับอัตราเร่งที่ดีกว่าไม่ว่าจะเป็นภาระกำลังของรุ่นสุพีเรียถึง 170 แรงม้าและรุ่นสแตนดาร์ดแค่ 95 แรงม้าระยะทางการวิ่งสแตนดาร์ด 301 กิโลเมตรและระยะทางการ วิ่งสุพีเรีย 405 กิโลเมตรต่อหนึ่งชาร์จ รุ่นสแตนดาร์ดในไทยขายเพียง 699,999บาทเท่านั้นและรุ่นสุพีเรียอยู่ที่ 859,999 บาท

รถยนต์ไฟฟ้า BYD เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและราคาสบายกะเป๋าเป็นอย่างมาก 

รถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่สุดแห่งนวัตกรรมของรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อบีวายดี รถ BYD ประเทศอะไร จากประเทศจีนที่เข้ามาทำการตลาดแข่งขันกับรถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งในตลาดนั้นราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างไม่หยุดจึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า กันมากยิ่งขึ้นและที่สำคัญยังรักษาสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดีเมื่อเทียบกับรถยนต์อีโคคาร์ หากใครกำลังมองหารถยนต์คันแรกราคาไม่แพงก็สามารถเปิดใจให้กับรถยนต์ไฟฟ้า BYD กันได้เลยมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ทั้งรถยนต์ที่มีคุณภาพเยี่ยมสภาพสวยถูกใจพร้อมกับการรับประกันตลอดการการใช้งานอย่างแน่นอน

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

จัดอันดับ รถที่แพงที่สุดในโลก นวัตกรรมที่น่าจับตามองใน ปี 2024

รถที่แพงที่สุดในโลก

วงการ รถที่แพงที่สุดในโลก และรถที่แพงที่สุดในไทย 2024 มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบที่ดูดีทันสมัย และการขับเคลื่อนที่ทำให้เกิดความคล่องตัว มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยบนท้องถนน ส่งผลให้วงการรถยนต์มีการแข่งขันสูง และยังเป็นสินค้าในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีผลต่อสังคมโลก

โดยวันนี้เป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะได้มาทำความรู้จักกับรถที่มีความเป็นที่สุดในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องความเร็ว หรือเรื่องราคา โดยยังมีเกร็ดน่ารู้สำหรับรถที่ถูกที่สุดในโลกอีกด้วย เราจะพามาดูการจัดอันดับรถที่แพงที่สุดในโลก 2024 และเผยโฉม รถที่แพงที่สุดในโลกอันดับ 1  รถที่แพงที่สุดในไทย 2024 และ รถที่เร็วที่สุดในโลก หากพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

3 อันดับ รถที่แพงที่สุดในโลก

รถที่แพงที่สุดในโลก
  1. Rolls-Royce Boat Tail

รถที่แพงที่สุดในโลก 2024 เป็นรถที่เปิดตัวใหม่ในปี 2021 รุ่นเปิดประทุน มีประตูสั่งทำพิเศษ พร้อมการออกบบภายในที่หรูหรา ด้วยวัสดุอย่างไม้ คริสตัล และ หนัง ความพิเศษคือมีเพียง 3 คันในโลก ราคา 960 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็น รถที่แพงที่สุดในโลกอันดับ 1

รถที่แพงที่สุดในโลก
  1. Bugatti La Voiture Noire

รองจาก รถที่แพงที่สุดในโลกอันดับ 1 ก็คือ Bugatti La Voiture Noire ซึ่งมีเพียงคันเดียวในโลก ออกแบบด้วยสไตล์ทันสมัย โฉบเฉี่ยว ล้ำยุค มีสีดำเงาสะดุดตา ภายในตกแต่งด้วยสีน้ำตาลให้ความรู้สึกหรูหรา และมีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ให้ความล้ำหน้า สมกับการจัดอันดับให้เป็น รถที่แพงที่สุดในโลก

รถที่แพงที่สุดในโลก
  1. Bugatti Centodieci

เมื่อรู้จัก รถที่แพงที่สุดในโลกอันดับ 1 และอันดับ 2 ไปแล้ว ต่อมาในอันดับ 3 ก็คือ Bugatti Centodieci เป็น Supercar รุ่นพิเศษที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 110 ปีของแบรนด์รถหรู Bugatti มีการผลิตเพียง 10 คัน มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว แสดงถึงความเร็วที่ไม่หยุดยั้ง  และยังมีความพิเศษอยู่ที่ไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูและไฟท้ายแบบ LED ภายในตกแต่งหรูหราสมกับการติด top 3 รถที่แพงที่สุดในโลก ด้วยราคา 300 ล้านบาท

และนี่คือรถที่มีราคาแพงที่สุดในโลก 2024 ซึ่งเป็นราคาที่ได้อัปเดตไป ต่อมาเราจะมาดูในฝั่งของความเร็ว โดยวันนี้จะพามารู้จักรถที่มีความเร็วที่สุดในโลก ซึ่งได้แก่ SSC Tuatara

SSC Tuatara รถที่เร็วที่สุดในโลก

รถที่เร็วที่สุดในโลก เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ ความจุ 5.9 ลิตร V8 สูบ พละกำลัง 1,750 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลา 2.5 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 532.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง ดีไซน์มีความโฉบเฉียบแบบก้าวล้ำยุคสมัย โดยได้รับการการันตี 2 ปีติดว่าเป็นรถที่เร็วที่สุดในโลก มีการผลิตเพียง 100 คันเท่านั้น

Rolls-Royce Spectre รถที่แพงที่สุดในไทย

หลังจากรู้เกี่ยวกับ รถที่แพงที่สุดในโลก ในระดับสากลกันไปแล้ว ต่อไปเราจะมารู้จักกับรถที่แพงที่สุดในไทย 2024 นั่นก็คือ รถรุ่น Rolls-Royce Spectre ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่มีการออกแบบอย่างหรูหรา มีสมรรถนะแข็งแกร่ง ซึ่งมาพร้อมกับความนุ่มนวลในห้องโดยสาร Spectre ถูกใส่ความเป็นที่สุดเข้าไปในหลายด้าน อาทิ เปลือกตัวถังด้านข้างที่เป็นวัสดุอะลูมิเนียมชิ้นเดียวยาว 6.5 เมตร ยาวที่สุดตั้งแต่ Rolls-Royce เคยทำรถมา ประตูเป็นแบบ Coach Door โครงสร้างอะลูมิเนียมทั้งหมด ราคาในไทยเริ่มต้น 31,800,000 บาท ซึ่งถือเป็น รถที่แพงที่สุดในไทย 2024 นั่นเอง

และทั้งหมดนี้ก็คือความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ที่น่าสนใจ โดยมีทั้งหัวข้อรถที่แพงที่สุด 2024 รถแพงที่สุดในไทย 2024 รถที่เร็วที่สุดในโลก ในหัวข้อรถที่ถูกที่สุดในโลกนั้น ยังไม่มีการยืนยันข้อมูล เพราะมักจะมีการหยุดผลิตไปหากรถทำกำไรได้น้อย สุดท้ายนี้หวังว่าบทความรถที่แพงที่สุดในโลก นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องรถยนต์และราคา ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาด้วยความชอบส่วนบุคคล หรืออยากได้เป็นเจ้าของ ก็ขอให้ศึกษาอย่างละเอียดและรอบคอบ

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

จัด 5 อันดับ รถเปิดประทุน จากแบรนด์สุดหรูที่น่าขับมากที่สุด

รถเปิดประทุน

รถเปิดประทุน หนึ่งในสิ่งที่ทำให้หลายคนชื่นชอบรถสปอร์ตก็คือการที่มันสามารถเปิดประทุนได้ เวลาจะซื้อหรือเช่ามาขายเตรียมพยายามมองหาว่ารถรุ่นไหนเปิดประทุนได้บ้าง ส่วนใหญ่เราอาจจะคุ้นชินว่า BMW เปิดประทุน มีรุ่นไหนบ้าง หรือใครที่ชอบเบนซ์ก็อาจจะเกิดคำถามว่าเบนซ์เปิดประทุนราคากี่บาท เราเลยจะพาทุกคนไปดูรถเปิดประทุน เราจะพาทุกคนไปดูรุ่นที่น่าสนใจกัน 

เปิดรายชื่อ 5 อันดับ รถเปิดประทุน ที่คุณไม่ควรพลาด 

สำหรับคำถามต่างๆ นานา มากมายว่ารถรุ่นไหนเปิดประทุนได้ ใครชอบ BMW หรือเบนซ์ก็อาจจะเกิดคำถามว่า BMW เปิดประทุน มีรุ่นไหนบ้าง เบนซ์เปิดประทุนราคากี่บาท คำถามนี้จะหมดไป เพราะเราได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดและให้คุณเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ 

รถเปิดประทุน

Ferrari 488 GTB 

อาจไม่ตรงกับความต้องการของคนที่ชื่นชอบเบนซ์หรือสงสัยว่าเบนซ์เปิดประทุนราคากี่บาท  หรือกำลังมองหารถเปิดประทุน หลักแสน เพราะเจ้าตัวนี้คือเฟอร์รารี่รถเปิดประทุน 2024 ใหม่ล่าสุดแบบ 2 ที่นั่ง ไม่ใช่รถเปิดประทุน 4 ที่นั่ง แต่ความยอดเยี่ยมของมันก็คือเป็นเครื่องยนต์เบนซิน V8 Twin Turbo แรงถึงใจจนเหล่านักซิ่งต่างต้องยกนิ้วให้กันเป็นแถบ กำลังสูงสุดกว่า 670 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุดเท่าพายุกว่า 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขนาดเล็ก แต่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่อย่างแท้จริง แถมยังสามารถระบายอากาศในห้องเครื่องได้อีกด้วย 

Mercedes E Cabriolet
สำหรับใครที่กำลังมองหารถรุ่นไหนเปิดประทุนได้ และชื่นชอบเบนซ์เป็นพิเศษ มีคำถามว่าเบนซ์เปิดประทุนราคากี่บาท เราขอแนะนำรถเปิดประทุน 2024 รุ่นนี้เลย เหมาะสำหรับคนที่สนใจรถเปิดประทุน 4 ที่นั่ง เพราะเจ้ารุ่นนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสปอร์ต แต่จัดเต็มความหรูหราและความสะดวกสบาย มาพร้อมเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร ส่งกำลังสูงสุดกว่า 258 แรงม้า มีเทคโนโลยีพิเศษอย่าง EQ Boost ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ออกตัวดีขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมเสนอเฉพาะตัวและการอำนวยความสะดวกสบายในห้องผู้โดยสารแบบจัดเต็ม 

BMW i8 Roadster

รถเปิดประทุน หลักแสนคงไม่มี แต่ใครสงสัยว่า BMW เปิดประทุน มีรุ่นไหนบ้าง เราขอแนะนำรุ่นนี้เลย ถึงมันอาจจะไม่ใช่รถเปิดประทุน 4 ที่นั่งที่สามารถจุคนได้เยอะ แต่ถือว่าเป็นรถสปอร์ตตัวดำที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid สไตล์การขับขี่แบบ Roadster เร็วแรงถึงใจ ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับความหรูหรา สามารถทำความเร็วได้สูงสุดประมาณ 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เร็วจนเกินไป เหมาะสำหรับมือใหม่สุดๆ 

Porsche Boxster 718   

รถรุ่นไหนเปิดประทุนได้ หลายคนอาจนึกถึงแบรนด์ยอดนิยมอย่างเบนซ์หรือ BMW แต่เราขอแนะนำรุ่นนี้เลย มันอาจจะไม่ใช่รถเปิดประทุน หลักแสน เพราะเจ้ารถเปิดประทุน 2024 รุ่นนี้มาพร้อมกับขุมพลังสมราคาของมัน มาพร้อมการออกแบบที่เก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้อย่างแนบเนียนทุกกระเบียดนิ้ว มาพร้อมกับช่องลมใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ถึงจะเป็นเครื่องเล็กและไม่ใช่รถเปิดประทุน 4 ที่นั่ง แต่บอกเลยว่าขุมพลังของมันจะพาคุณพุ่งทะยานไปบนท้องถนนได้รวดเร็วกว่าใคร โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ด้วยโหมด Sport+ 

BMW Z4 G29 M-Sport 

ใครกำลังมองหาว่า BMW เปิดประทุน มีรุ่นไหนบ้าง เราขอแนะนำเจ้ารถเปิดประทุน 2024 รุ่นนี้เลย แน่นอนว่าราคาของมันอาจจะไม่ใช่รถเปิดประทุน หลักแสนที่จับต้องได้ง่าย แต่คุณภาพคุ้มค่ากับราคาที่เสียไปอย่างแน่นอน มาพร้อมความดุดันไม่เกรงใจใครตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการทำงาน เครื่องยนต์ทวินพาวเวอร์เบนซิน 20 ลิตร 258 แรงม้า เร็วมากพอที่จะนำเอาไปขับขี่ในสนามแข่ง แต่ก็ตอบโจทย์สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันเหมือนกัน ช่วยให้ทริปการเดินทางของคุณสุดเหวี่ยงกว่าที่เคย

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

 

Categories
ARTICLE

Logitech G25 จอยเกมรูปแบบพวงมาลัยที่จะทำให้การเล่นเกมแข่งรถของคุณสนุกกว่าที่เคย 

Logitech G25

เบื่อหรือไม่กับการใช้จอยเกมเดิมๆ เล่นเกมขับรถแบบขัดฟีล เราขอแนะนำ Logitech G25 จอยเกมสำหรับคอเกมขับรถโดยเฉพาะด้วยการออกแบบรูปทรงเหมือนพวงมาลัย มาพร้อมการควบคุมทั้งเกียร์ที่มือ ควบคุมคันเร่ง เบรก คลัชที่เท้า เหมือนเราได้ไปขับรถแข่งจริงๆ ทั้งที่นั่งเล่นเกมอยู่ในบ้าน หากใครได้ลอง รับรองว่าจะติดใจจนทิ้งจอยเกมเดิมๆ ไปแน่นอน

ทำความรู้จักกับ Logitech G25 และรุ่นอื่นๆ ที่จะทำให้คุณทิ้งจอยเกมเดิมไปแน่นอน 

Logitech G25เป็นหนึ่งในจอยสำหรับเล่นเกมแข่งรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจุดเริ่มต้นของจอยประเภทพวงมาลัยต้องย้อนกลับไปถึงปี 2006 กันเลยทีเดียว ออกแบบมาเพื่อเล่นกับเกมแข่งรถยอดนิยมอย่าง Gran Turismo และได้รับกระแสตอบรับจากแฟนเกมเป็นอย่างดีมาจนถึงในปัจจุบัน 

Logitech G25

จอยเกมLogitech G25 Driver ไม่ใช่แค่ออกแบบมาเพื่อเล่นกับเกมแข่งรถให้ได้อรรถรถมากขึ้นเท่านั้น แต่Logitech G25 Driver ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษมากมาย ทั้งแข็งแรงทนทาน วัสดุหุ้มหนังอย่างดี แยกชิ้นส่วนทั้งพวงมาลัย เกียร์ และแป้นบังคับที่เท้าให้เราสามารถเลือกวางได้ตามความถนัด ล้ำสมัยสุดๆ ในยุคนั้นกันเลยทีเดียว

เพราะลักษณะจอยเกมมาครบทั้งหมดที่รถคันหนึ่งควรมี มันทำให้เวลาเล่นเกม เหมือนกับเราได้ลงไปขับรถแข่งจริงๆ มากกว่าการใช้จอยธรรมดาทั่วไป ยิ่งใครมีแว่น VR ด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความสมจริงได้มากขึ้นกว่าเดิมไปอีก เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับคอเกมแข่งรถที่อยากจะเปิดประสบการณ์เล่นเกมแบบใหม่ให้สนุกกว่าที่เคย

สเปกของ Logitech G25 ที่จะทำให้คุณเมินจอยเดิมๆ ที่แสนน่าเบื่อ

หากย้อนกลับไปปี 2006 ที่เปิดตัวจอยเกมรุ่นLogitech G25 Driver ถือว่าเป็น Gaming Gear ที่ค่อนข้างหรูหรา ไม่ใช่แค่ความสามารถ แต่ยังรวมถึงราคาด้วย ปัจจุบันแม้จะเป็นLogitech G25 มือสอง แต่ราคาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สำหรับสเปกสุดพรีเมียมของรุ่นดังกล่าว มีดังนี้

  • ขนาดพวงมาลัย 11 นิ้วหุ้มหนังแท้นุ่มมือ
  • หมุนรอบกว่า 900 องศา
  • มาพร้อมมอเตอร์ 2 ตัวช่วยระบบ Force Feedback
  • มีระบบเฟืองทดกำลัง
  • พวงมาลัยมี Paddleshifter 2 อัน
  • เกียร์แยกส่วน ปรับได้ทั้ง  H-Pattern และ Sequential Shifter
  • แป้นเหยียบสปริงกดจังหวะเดียวทั้งคลัช เบรก และคันเร่ง
  • มีเซ็นเซอร์ Optical 
  • มี Clamp ยึดล็อกกับโต๊ะแน่นหนา 

รวมจอยเกมแข่งรถลูกพี่ลูกน้องของLogitech G25

นอกจากรุ่นG25 ที่เปิดตัวออกมาอย่างยิ่งใหญ่ ทางแบรนด์ยังมีการเปิดตัวรุ่นลูกพี่ลูกน้องออกมาในภายหลังอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาLogitech G25 ราคามือหนึ่งเท่าไหร่ คงต้องแสดงความเสียใจด้วยเพราะมันไม่มีวางขายมานานแล้ว แต่รุ่นใหม่อาจยังพอหาซื้อได้บ้าง ประกอบไปด้วย 

Logitech G27 

รุ่นยอดนิยมตลอดกาล มาพร้อมการอัปเกรดใหม่ทั้งระบบเฟือง Helical Gear ช่วยลดเสียงรบกวนตอนเล่นเกมมันส์ๆ ติดไฟ LED Shifter เพิ่มลูกเล่นน่าสนใจ ปรับกลไก H-Pattern Shifter ให้แน่นขึ้นกว่าเดิม แต่โดยรวมแล้วความรู้สึกขณะใช้งานไม่ได้ต่างจากรุ่นแรกสักเท่าไหร่นัก จะดีกว่าตรงที่การปรับ DIY ทำได้หลากหลายขึ้น

Logitech G29 

รุ่นล่าสุดสำหรับใช้งานร่วมกับเครื่องเล่นเกมระดับตำนานอย่าง Play Station 4 รุ่นนี้สามารถซื้อเกียร์ H-Pattern มาติดเพิ่มได้ เบรกมีสปริงลูกยาง ทำให้สามารถเหยียบได้ 2 ระดับ เปลี่ยนเซ็นเซอร์เป็นระบบ Hall effect Sensor โดยรวมไม่ได้แตกต่างจากรุ่นเก่ามากอีกเช่นเดียวกัน แต่ดีกว่าตรงที่ยังมีมือหนึ่งขายอยู่ ทำให้หาซื้อง่ายนั่นเอง

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

ทำความรู้จักกับ Nissan Skyline R35 สุดยอดรถสปอร์ตในฝันของใครหลายๆ คน

  เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ใฝ่ฝันว่าอยากจะได้ขับรถสปอร์ตดูสักครั้ง และ Nissan Skyline R35 ก็เป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายๆ คนเช่นเดียวกัน รุ่นนี้เรียกได้ว่ากระแสดีไม่มีตก มักมีคนถามบนโลกอินเตอร์เน็ตอยู่เสมอว่า Nissan Skyline R35 ราคาเท่าไหร่ อยู่ในระดับที่เราพอจะสามารถจับต้องได้หรือไม่ และสเปกของรถคันนี้จะเป็นอย่างไร เราเลยจะพาทุกคนไปหาคำตอบของรถรุ่นนี้ไปพร้อมๆ กัน

Nissan Skyline R35

เปิดสาเหตุ ทำไม Nissan Skyline R35 จึงกลายเป็นขวัญใจคนชื่นชอบรถสปอร์ต

เรียกได้ว่าแรงดีไม่มีตกสำหรับกระแสรถสปอร์ตอย่าง Nissan Skyline R35  รถที่ออกแบบมาเพื่อตีตลาดยุโรปโดยเฉพาะ หลังจากที่ประสบความสำเร็จราคา GTR R34 เกินห้ามใจ การกลับมาในครั้งนี้เปลี่ยนโฉมใหม่ให้สวยงามขึ้นกว่าเดิม ลักษณะภายนอกมีความใกล้เคียงกับหุ่นยนต์กันดั้ม ในส่วนของการใช้งานก็ไม่ธรรมดา ไม่ต้องถามเลยว่า GTR R35 กี่แรงม้า เพราะจัดหนักจัดเต็มสุดๆ GTR R35 ราคาในไทยตอนนี้พุ่งไปที่ 10 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว เราจึงจะพาทุกคนไปดูความพิเศษของรถคันนี้กัน 

Nissan Skyline R35

อัตราการเร่งสปีดถึงใจ

GTR R35 กี่แรงม้าเป็นคำถามที่หลายคนสนใจมากที่สุด สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 3,800 cc Twin Turbo 485 แรงม้า แต่รุ่น Nismo กำลังขับสูงถึง 69 แรงม้าเลยทีเดียว ทำเวลาในสนามได้ถึง 7.38 นาที ทำให้ Nissan Skyline R35 กลายเป็นรถสปอร์ต 4 ที่นั่งที่มาพร้อมกับอัตราการเร่งรวดเร็วไม่แพ้ใครในโลก ใช้เวลาเพียงแค่ 2.8 วินาทีในการทำความเร็วจาก 0 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่ารถซุปเปอร์คาร์ เอาไปขับในสนามไม่อายใครแน่นอน 

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไม่แพ้รุ่นใหญ่

ด้วยความที่เครื่องแรงเต็มพิกัด ทำให้ Nissan Skyline R35 ต้องมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเพื่อเพิ่มความสมดุลและความปลอดภัยในการขับขี่ สามารถบุกน้ำลุยไฟไปได้ทุกที่ หมดปัญหาเสียการทรงตัวซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน จะถนนสภาพแยกแค่ไหนก็ไม่หวั่น 

ผลงานประกอบเครื่องยนต์โดย Takumi

ใครที่รู้แล้วว่าคำตอบของคำถาม Nissan Skyline R35 ราคาเท่าไหร่น่าสะพรึงขนาดไหน ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่รถรุ่นนี้ประกอบเครื่องยนต์โดยกลุ่มคนอย่าง Takumi คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่ใช้เรียกคนที่มีความชำนาญด้านเครื่องยนต์สูงที่สุด ซึ่งบนโลกใบนี้มีบุคคลที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น Takumi เพียงแค่ 4 คนเท่านั้น และพวกเขาก็เป็นผู้ประกอบเครื่องยนต์รหัส VR38DETT ของรถรุ่นนี้นั่นเอง 

มันจึงไม่ใช่รถที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ผลิตจากหุ่นยนต์ในโรงงาน แต่ถูกประกอบขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่จะทำให้ผู้ครอบครองรู้สึกเป็นคนพิเศษมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทุกขั้นตอนกระบวนการมีความพิถีพิถันและเข้มงวดสมกับเป็นการทำงานสไตล์ญี่ปุ่น มันเลยยิ่งทำให้รถรุ่นนี้มีความพิเศษขึ้นกว่าเดิมไปอีก สมแล้วที่ GTR R35 ราคาในไทยพุ่งไปแตะหลักสิบล้าน 

การลู่ลมน่าเหลือเชื่อ

ถึงแม้ว่า Nissan Skyline R35 จะเป็นรถที่มีขนาดใหญ่ แถมยังออกแบบเทอะทะลักษณะคล้ายกับหุ่นยนต์กันดั้มอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับสามารถลู่ลมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ สามารถเทียบกับแบรนด์ระดับโลกชื่อดังอย่าง Ferrari รุ่น 458 Italia กันเลยทีเดียว ที่สำคัญคือหากเทียบกันแบบช็อตต่อช็อตแล้ว รถสปอร์ตจากนิสสันดูเหมือนว่าจะสามารถลู่ลมได้ดีกว่าด้วยซ้ำไป เมื่อลู่ลมได้ดีก็ทำให้อัตราการเร่งความเร็วดีขึ้นไปด้วย เพราะหมดปัญหาเรื่องแรงต้านจึงสามารถไปต่อได้อย่างไร้อุปสรรคนั่นเอง 

เปลี่ยนเกียร์เร็วเทียบเท่าเฟอร์รารี่ 

นอกจากเรื่องการลู่ลมที่สามารถเทียบกับแบรนด์ดังอย่างเฟอร์รารี่ได้แล้ว เจ้า Nissan Skyline R35 ยังมาพร้อมกับความสามารถพิเศษในการเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วทันใจ หากเทียบกับรุ่น Ferrari Enzo เจ้า Nissan คันนี้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วกว่า 0.15 วินาทีกันเลยทีเดียว ฟังดูเหมือนเร็วกว่าการแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่หากอยู่ในสนามแข่งหรือวัดความเร็วกันจริงๆ ในถนน เวลาเพียงแค่ 0.15 วินาทีก็ถือว่าเป็นความเร็วที่แตกต่างกันพอสมควรเลยทีเดียว 

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

ตารางแข่ง F1 ปี 2024 พร้อมรายละเอียทั้งหมด ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

ตารางแข่ง F1

การแข่งขัน fomula 1 เป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยม และมีความโด่งดัง เนื่องจากเป็นการแข่งรถระดับนานาชาติ ที่ได้รับการควบคุมจาก องค์กรควบคุมมอเตอร์สปอร์ตระดับนานาชาติ Fédération Internationale de l’Automobile (FIA) ว่าเป็นการแข่งขันระดับสูงสุดสำหรับรถแข่งล้อเปิด เป็นกีฬาที่มีการจัดขึ้นทุกปีเป็นฤดูกาล และมีการจัดแข่ง fomula 1 ในทั่วโลก จึงสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างมากมาย โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความตื่นเต้น

โดยในปี 2024 ได้มีการเปิดเผยตารางการแข่งขัน พร้อมกับรายละเอียดต่าง ๆ มาแล้วเป็นที่เรียบร้อย รวมถึงยังมีการเคลื่อนไหวมากมายที่น่าสนใจใน ตารางแข่ง f1 ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมรายละเอียดของการแข่งขันมาสรุปให้เข้าใจได้ง่าย จะมีประเด็นไหนที่น่าสนใจบ้าง เรามาดูกันเลย

ตารางแข่ง F1

มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ใน ตารางแข่ง F1 ปี 2023 และปี 2024 ?

F1 ตารางแข่งในปี 2024 นั้น มีความแตกต่างจาก ตารางแข่ง f1 2023 เนื่องจากสถานการณ์โลกกลับมาดีขึ้น หลังจากเผชิญผลกระทบของโควิด อีกทั้งยังมีการระบุสถานที่แข่ง และวันเวลา ที่จะทำให้สะดวกต่อการรับชมการแข่งขัน อีกทั้งยังเหมาะสมกับสนามแข่งในแต่ละที่ โดยสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในตารางแข่ง f1 มีดังต่อไปนี้

–            ตารางแข่ง F1 2024 มีทั้งหมด 24 สนาม ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์

–            มีการโยกโปรแกรมหลายสนามให้มีการจัดแข่งในภูมิภาคเดียวกัน เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทาง

–            ประเทศจีนกลับมาแข่งขัน  fomula 1 อีกครั้งในรอบ 4 ปี หลังจากเผชิญสถานการณ์โควิด 19

–            2 สนามแรกของ ตารางแข่ง F1 2024 ที่บาห์เรนและซาอุดิอาระเบีย มีการโยกวันแข่งจริงจากวันอาทิตย์มาวันเนื่องจากในช่วงเวลานั้นอยู่ในช่วงถือศีลอด หรือ รอมฎอน

–            คนในวงการ  fomula 1 ออกมาประกาศจุดยืนเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการปรับความคล่องตัวของการแข่งขัน f1

สำรวจ ทีมในตารางแข่ง f1  ที่น่าจับตามอง พร้อมย้อนดูความสำเร็จในปี 2023 ที่ผ่านมา

  • Red bull

ทีม Red bull ทีมหัวตารางแข่ง f1 2023 ด้วยผลการแข่งขัน คะแนนนำ 166 ห่างจากอันดับ 2 เกือนหนึ่งเท่าตัว เป็นทีมที่มีความเกรียงไกร ด้วยนักขับที่การันตีความสามารถอย่าง มักซ์ เวอร์สแตพเพน นักแข่งอายุน้อยที่คว้าอันดับ 1 ในการแข่งขัน Australian Grand Prix ในปี 2023 ที่ผ่านมา ตามมาด้วย เซร์คิโอ เปเรซ นักแข่งในทีมเดียวกันที่คว้ายชัยชนะใน Saudi Arabian Grand Prix และด้วยความสามารถของผู้คนในทีม และความสมบูรณ์ของผู้คน รวมถึงกลยุทธ์ต่าง ๆ ส่งผลให้ทีม Red bull เป็นทีมที่น่าจับตามองอย่างมาก ในตารางแข่ง f1 2024

  • Mercedes

ที่มที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นที่น่าจับตามองในตารางแข่ง f1  ด้วยสถิติการแข่งขัน ในตารางแข่ง f1 2023 ที่มีคะแนนของทีมอยู่ในอันดับต้น ๆ และยังมีนักขับอย่าง Lewis Hamilton ที่สามารถทำผลงานได้ดีเยี่ยมในปี  2017-2020 รวมทั้งในช่วงเวลานั้นทีมก็ได้แชมป์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน  โดยปี 2021 ได้ทำสถิติคว้าแชมป์ไปแล้ว 95 ครั้ง และนักแข่งอีกหนึ่งคนคือ George Russell นักแข่งดาวรุ่งวัย 25 ปีชาว ผลผลิตจากทีมเยาวชนของ Mercedes-AMG Petronas Motorsport อดีตแชมป์โลก Formula 2 เมื่อปี 2018 และยังคงทำผลงานได้ดีในปีหลัง ๆ ที่ผ่านมา ทีมเมอร์เซเดสมีรถแข่งที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จัก จึงเป็นอีกหนึ่งทีมใน ตารางแข่ง F1 2024 ที่ดึงความสนใจของผู้คนได้

  • Ferrari F1

เป็นทีมที่น่าจับตามองมาอย่างยาวนาน เนื่องจากเป็นทีมเก่าแก่ใน ตารางแข่ง f1 และถูกจัดอันดับให้เป็นทีมแข่งขัน f1 ที่ได้รับความนิยม และมีการใช้เครื่องยนต์เฟอร์รารี่ทำการแข่งขันมาโดยตลอด มาพร้อมกับนักแข่งดาวรุ่ง 2 คนอย่าง Charles Leclerc และ Carlos Sainz ซึ่งทำฟอร์มได้ดีในช่วงปีหลัง ๆ ส่งผลให้คะแนนรวมทีมยังคงอยู่อันดับต้น ๆ ในตารางแข่ง f1 2023 ดังนั้นในปี 2024 นี้ จึงเป็นอีกหนึ่งทีมที่มีความน่าสนใจ

และทั้งหมดนี้ ก็คือข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับ ตารางแข่งขัน f1 ที่กำลังจะมาถึงในปี 2024 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.f1-fansite.com เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับชมการแข่งขันเครื่องยนต์ที่คนทั้งโลกตั้งตารอในทุกปี

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

CORVETTE C6 รถสปอร์ตอเมริกันมัสเซิลดีไซน์โดดเด่น

CORVETTE C6

เมื่อกล่าวถึงรถสปอร์ตคงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่จะต้องนึกถึงรถยุโรปกันอย่างแน่นอน เพราะรถยุโรปหลายแบรนด์มีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นที่รู้จักกันมานาน แต่ถ้ากล่าวถึงรถสปอร์ตที่ไม่ใช่แบรนด์ยุโรป คงหนีไม่พ้นรถสปอร์ตของอเมริกาอย่างแน่นอน สำหรับรถสปอร์ตที่มีชื่อเสียงของทางฝั่งอเมริกาก็มีอยู่หลายแบรนด์ด้วยกัน และหนึ่งในนั้นมีรถสปอร์ตในตำนานอย่าง CORVETTE C6 ด้วย รถสปอร์ตอเมริกันมัสเซิลที่มีดีไซน์โดดเด่น และเป็นที่กล่าวขานในวงการรถสปอร์ตมายาวนาน

รู้จัก CORVETTE C6 สุดยอดรถสปอร์ตระดับตำนานที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก

CHEVROLET C6 CORVETTE ถูกผลิตขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 2005 – 2013 โดยถูกเปิดเผยให้เห็นไฟหน้าเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1962 สำหรับ C6 ที่ถูกผลิตเป็นรุ่นแรก ๆ จะมีราคาอยู่ที่ 44,245 เหรียญ อย่างไรก็ตามในระหว่างการผลิตรถสปอร์ตรุ่นดังกล่าว มักจะมีการพัฒนาและเสริมคุณสมบัติต่าง ๆ ให้กับตัวรถ เพื่อให้สามารถรองรับกับการแข่งขันได้ แม้ว่าจะผ่านมานานหลายปี แต่ทว่า CORVETTE C6 รุ่นนี้ ก็ยังเป็นตำนานที่หลายคนนึกถึงอยู่เสมอ ถึงแม้ว่า CORVETTE C8 จะมาแรงในช่วงหลังก็ตาม ครั้งนี้มาทำความรู้จักกับรถสปอร์ตรุ่นนี้กันว่ามีลักษณะและคุณสมบัติเป็นอย่างไรบ้าง  

CORVETTE C6

1. ลักษณะภายนอก

เมื่อเข้าสู่รุ่น C6 CORVETTE CHEVROLET ก็ได้เปลี่ยนดีไซน์ใหม่ทั้งหมด แต่ทว่าหน้าตาก็ยังแอบคล้ายกับ C5 ที่ถูกนำมาแปลงโฉม ในส่วนของไฟหน้าจะมีลักษณะคล้ายกับ FERRARI 360 อย่างมาก แต่รุ่นนี้จะถูกปรับแต่งให้สูงขึ้นและสั้นกว่า C5 อยู่ที่ 5.1 นิ้ว ในขณะที่ฐานล้อจะถูกปรับขึ้น 1.2 นิ้ว แม้ว่าล้ออาจจะไม่ได้ดูหรูหราและทันสมัยนัก แต่ก็ไม่ได้ดูแย่ เมื่อเข้าสู่รุ่น Z06 จะถูกปรับแต่งให้เป็นแบบใหม่ ซึ่งจะมีโครงหลังคาอลูมิเนียม สปอยเลอร์หลังมีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิม ส่วนบังโคลนหน้าจะใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่กว้างขึ้น และบังโคลนหลังเป็นแบบไฟเบอร์กลาส โดยรวมจะแตกต่างจาก CAPTIVA และรุ่นอื่น ๆ พอสมควร

2. ภายในห้องโดยสาร

ในส่วนของห้องโดยสาร CORVETTE CHEVROLET รุ่น C6 จะเห็นถึงความแตกต่างอยู่พอสมควรเมื่อเทียบกับ CAPTIVA และรุ่นอื่น ๆ โดยรุ่นนี้จะเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับห้องโดยสารอยู่เล็กน้อย ด้านบนจะติดตั้งหลังคากระจกแบบโพลีคาร์บอเนต ซึ่งจะช่วยลดความอึดอัดได้พอสมควร อีกทั้งยังทนต่อแรงกระแทกได้สูงด้วย สำหรับการออกแบบคอนโซลหน้ารถจะมีพวงมาลัยอยู่ฝั่งซ้าย ตรงกลางมีหน้าจอกลางขนาดเล็ก ซึ่งอยู่ด้านล่างของช่องแอร์ และเมื่อเทียบกับ CORVETTE C8 จะแตกต่างกันอย่างแน่นอน เพราะรุ่นนี้จะเน้นการใช้งานเป็นหลัก 

3. ด้านขุมพลัง

CHEVROLET C6 ในรุ่นเริ่มต้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ความจุ 6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นที่มาแรงอย่าง Z06 ใช้เครื่องยนต์ 7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 500 แรงม้า แต่ก็ยังไม่ใช่รุ่นที่แรงที่สุด เพราะต่อมาในปี 2009 CORVETTE CHEVROLET ยังมีรุ่น ZR1 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6.2 ลิตร Supercharged ให้กำลังสูงสุด 638 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 820 นิวตันเมตร จากการทดลองสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 330 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกว่าแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ CORVETTE เลยก็ว่าได้ 

4. ความพิเศษ

CHEVROLET C6 ถือเป็นรถสปอร์ตรุ่นที่ 6 ของ Corvette ซึ่งถูกผลิตโดยบริษัท General Motors (GM) ประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับรุ่นปี 2005-2013 จะเป็น Corvette คันแรกที่มีไฟหน้าแบบเปลือย ต่อมารุ่นปี 1962 ได้มีการผลิตรุ่น Z06, ZR1, Grand Sport และ 427 Convertible สำหรับความพิเศษที่มากกว่าการขับขี่แบบธรรมดาก็คือ การนำ Z06 ไปพัฒนาจนกลายเป็น C6R ที่ตกแต่งด้วยสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ จากนั้นลงแข่งรายการ 24 Hours of Le Mans GTE-Pro ในปี 2011 และคว้าชัยชนะมาได้ในที่สุด ถัดมาในปี 2006 ก็ได้กำเนิดสุดยอด SUV อย่าง CAPTIVA ส่วน CORVETTE C8 ก็ถือเป็นรุ่นที่ 8 ของ Corvette ที่มีความโดดเด่นเช่นเดียวกัน 

CORVETTE C6

CORVETTE C6 รถสปอร์ตอเมริกันโดนใจสายซิ่ง เกิดมาเพื่อวิ่งบนท้องถนน

ถึงแม้ว่า CORVETTE CHEVROLET รุ่น CORVETTE C6 จะมีดีไซน์เปลี่ยนไปจากรุ่นก่อน ๆ แต่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ CORVETTE จะอยู่ในช่วงที่เปิดตัว CORVETTE C8 โดยรุ่นนี้จะย้ายเครื่องยนต์ไปอยู่ที่กลางรถ ดีไซน์ภายนอกให้ความรู้สึกเหมือน FERRARI แต่ใช้เครื่องยนต์ V8 NA ความจุ 6.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 490 แรงม้า ถูกตัดเกียร์ธรรมดาออกและเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเกียร์ AT Dual Clutch 8 Speed อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 314 กิโลเมตร/ชั่วโมง อย่างไรก็ตามในแง่ของการใช้งานแบบครอบครัว CAPTIVA จะตอบโจทย์กว่า 

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

BYD ATTO3 รถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์เท่ ล้ำสมัย มาพร้อมกับความแปลกใหม่ที่ไม่มีใครเหมือน 

BYD ATTO3

ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งการใช้รถยนต์ไฟฟ้ายังช่วยลดมลพิษในอากาศ ซึ่งจะช่วยลดการเกิดมลภาวะที่ทำให้โลกร้อนได้ จึงทำให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่หลายรายเริ่มหันมาพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแข่งกัน ถ้าหากพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย หนึ่งในนั้นก็คือ BYD ATTO3 จัดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภท B-SUV และเป็นรุ่นแรกที่ BYD ได้นำเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่ขายได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ดีไซน์เท่ ล้ำสมัย มาพร้อมกับความแปลกใหม่ที่ไม่มีใครเหมือน

BYD ATTO3

ทำความรู้จัก BYD ATTO3 รถยนต์ไฟฟ้าตระกูลราชวงศ์ BYD สัญชาติจีน

BYD ATTO 3 เป็นรุ่นที่ต่างจาก BYD TANG และ BYD HAN โดย ATTO 3 จะแบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือ Standard Range และ Extended Range ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะมีการออกแบบที่เหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย โดยมิติตัวถังจะมีขนาดเท่ากัน ความยาว 4,455 มิลลิเมตร, ความกว้าง 1,875มิลลิเมตร, ความสูง 1,615 มิลลิเมตร, ระยะฐานล้อ 2,720 มิลลิเมตร, ความสูงใต้ท้องรถ 175 มิลลิเมตร, ความสูงใต้ท้องรถ (มีผู้โดยสาร) 150 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนัก BYD ATTO3 รุ่น Standard Range จะอยู่ที่ 1,680 กิโลเมตร และรุ่น Extended Range จะอยู่ที่ 1,750 กิโลเมตร 

1. ลักษณะภายนอก

ภายนอกของ ATTO3 จะมีกระจังหน้าแบบทึบคล้าย BYD TANG ติดตั้งไฟหน้า LED คาดคิ้วโครเมียมได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ เช่นเดียวกับไฟท้ายที่เป็นแบบ LED คาดยาวจากด้านซ้ายไปสุดที่ด้านขวา ลักษณะคล้ายปีกนก ด้านหน้ามีช่องลมทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมเรดาร์ช่วยในเรื่องการขับขี่และความปลอดภัย ทั้งยังมีกล้อง 360 องศารอบคัน ช่วยในเรื่องวิสัยทัศน์ของการขับขี่และจอดรถ ฝากระโปรงค่อนข้างหนาและแข็งแรง ส่วนล้อเป็นล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์แบบ Aero Dynamic สีทูโทนขาวดำ ดูทันสมัย และตรงกลางมีโลโก้ BYD 

2. ภายในห้องโดยสาร

ภายในห้องโดยสาร ATTO3 จะมี 5 ที่นั่ง ตัวเบาะทำจากหนังสังเคราะห์และติดตั้งระบบไฟฟ้า คอนโซลหน้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากฟิตเนส ดีไซน์ดูหรูหราต่างจาก BYD HAN ที่เน้นความคลาสสิค หน้าจอกลางเป็นระบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว สามารถปรับเป็นแนวตั้งและแนวนอนได้ ถัดมาเป็นพวงมาลัยแบบ Multi Function ด้านหลังพวงมาลัยมีหน้าจอข้อมูลขับขี่ขนาด 5 นิ้ว ช่องแอร์มีทั้งตรงกลางและฝั่งซ้าย-ขวา ที่เปิดประตูจะอยู่ใกล้กับช่องแอร์ ดีไซน์ต่างจากมือจับทั่วไป และด้านบนเป็นหลังคากระจกที่สามารถเปิดได้เหมือนกับ BYD TANG 

3. ด้านขุมพลัง

ด้านขุมพลัง ATTO3 จะต่างจาก BYD HAN อย่างสิ้นเชิง สำหรับรุ่น Standard Range และ Extended Range จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 1 ตัว ขนาด 150 kW ติดตั้งที่บริเวณล้อหน้า แต่รุ่นStandard Range ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 1 สปีด บรรจุแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ขนาด 50.1 kWh ส่วนรุ่น Extended Range ให้กำลังสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 1 สปีด ความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 60.48 kWh และมีระบบจ่ายกระแสไฟ Vehicle to Load 2.2 kW 

4. ราคาอย่างเป็นทางการ

สำหรับ BYD ATTO 3 รุ่น Standard Range ราคา 1,099,900 บาท ส่วน ATTO3 รุ่น Extended Range ราคา 1,199,900 บาท จะเห็นได้ว่ารุ่น Standard Range มีราคาถูกกว่า Extended Range อยู่ 100,000 บาท นั่นเป็นเพราะว่าความจุแบตเตอรี่แตกต่างกัน สำหรับรุ่น Standard Range จะมีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 49.9 kWh ในขณะที่รุ่น Extended Range มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 60.48 kWh ซึ่งต่างกันอยู่ประมาณ 10.58 kWh แต่เมื่อเทียบกับ BYD TANG และ BYD HAN จะมีราคาถูกกว่า 

เปรียบเทียบความแตกต่างของ BYD ATTO3 ทั้ง 2 รุ่น

BYD ATTO3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในตระกูลราชวงศ์ BYD ที่มีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่น คือ Standard Range มีระยะทางวิ่งสูงสุด 410 กิโลเมตร ส่วนรุ่น Extended Range มีระยะทางวิ่งสูงสุด 480 กิโลเมตร จะเห็นว่ารุ่น Extended Range สามารถวิ่งได้ไกลกว่ารุ่น Standard Range ประมาณ 70 กิโลเมตร นอกจากนี้สีตัวถัง ATTO3 รุ่น Standard Range จะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว (Frost White) และสีเทา (Graphite Grey) ส่วนรุ่น Extended Range จะมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีขาว (Frost White), สีเทา (Graphite Grey), สีเขียว (Emerald Green), สีฟ้า (Lagoon Blue) และสีแดง (Solar Red)

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

Categories
ARTICLE

H1 ISUZU D MAX สุดยอดความทนทาน ที่ต้องมาลองด้วยตัวคุณเอง

ISUZU D MAX

มั่นใจเลยว่าพ่อค้าแม่ค้าหลาย ๆ คนต้องมีรถที่คอยช่วยในการขนของไปไหนมาไหน เพื่อให้ทำการค้าขายได้อย่างสะดวก โดยรถที่พ่อค้าแม่ค้าจะต้องมีก็คือรถกระบะของ ISUZU D MAX เท่านั้นที่พร้อมจะช่วยทำงานของคุณได้ง่ายขึ้น ทั้งราคาที่จับต้องได้ ความทนทานพร้อมสู้ทุกงานไปกับคุณแบบไม่มีหมด บอกเลยว่ามี ISUZU D MAX ไว้ใช้จะช่วยให้งานของคุณเบาไปได้เยอะ

ISUZU D MAX ยอดรถกระบะ ที่ดีที่สุดแล้วในเวลานี้

หากจะพูดว่า ISUZU D MAX นั้นเป็นสุดยอดของรถกระบะ แล้วคุณยังไม่เชื่อ ก็คงไม่ได้ เพราะทั้งยอดขายที่ดีไม่หยุด และเป็นรถกระบะที่ขายดีที่สุดในตอนนี้ อีซูซุ 2023 นั้นดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าหันมองหาพ่อค้าแม่ค้าเจ้าไหน ๆ ก็ต่างใช้กัน หากต้องการ รถกระบะ ที่ ราคา ดีมีความ คุ้มค่า พร้อม การใช้งาน ได้อย่างทนทาน ทำงานได้ทุกรูปแบบต้องลอง

ขนของได้จำนวนมาก ใช้งานได้ดีต้อง ISUZU D MAX เท่านั้น

หากพูดถึงเรื่องขนของ ISUZU D MAX ก็ไม่แพ้ใครอย่างแน่นอน ด้วยตัวกระบะที่กว้าง ทำให้จุได้เยอะ แถมยังมีกำลังรถมหาศาล พร้อมแบกน้ำหนักของจำนวนมาก ๆ ทำให้พูดได้อย่างเต็มบอกเลยว่าวงการ รถกระบะ จะเป็นใครไม่ได้แล้วนอกจาก อีซูซุ 2023  ปีนี้เป็นของ ISUZU D MAX อย่างแน่นอน นอกจากกระบะแบบธรรมดาแล้ว เรายังมี มิวเอ็ก ที่มีความ หรูหรา พร้อมทั้ง ดีไซน์ สวยงาม ให้ได้ลองใช้งานกันด้วย

ISUZU D MAX

ISUZU D MAX มีข้อดีอะไรที่ ทำให้ใคร ๆ ก็มาใช้กัน

ต้องบอกว่าในปีนี้ของ อีซูซุ 2023 เป็นปีของ ISUZU D MAX อย่างแท้จริงทั้งยอดขาย ที่เป็นอันดับหนึ่งในตอนนี้ ทำให้หลายคนสงสัยอย่างรู้ว่า ISUZU MU X  และ ISUZU D MAX มีข้อดีอะไรที่ทำให้คนใช้งานมากกว่า กระบะโตโยต้า มาดูกันได้เลย

  1. ความจุในการขนของที่มากกว่า
  2. ความทนทาน ไปได้ทุกสถานที่
  3. ความประหยัดน้ำมันที่มากกว่า
  4. ราคาที่ประหยัด และ คุ้มค่า กว่า
  5. อายุ การใช้งาน ที่ยาวนาน

รวมรถกระบะน่าสนใจจากค่าย ISUZU

นอกจาก ISUZU D MAX แล้ว ISUZU ยังมีรถอีกหลากหลายรุ่นที่มีความน่าสนใจ และเป็นที่ต้องการของตลาดในนี้ตอนนี้โดยจะมีรุ่นอะไรบ้างมาดูกันได้เลย

  1. ISUZU D-Max X-Series
  2. ISUZU V-Cross 4X4
  3. ISUZU MU X  
  4. ISUZU Cab Chassis
  5. ISUZU Spark 4X4

ISUZU D MAX แข็งแกร่งทนทาน พร้อมสู้งานไปกับคุณ

หากพูดถึงเรื่องความทนทานไปได้ทุกสถานที่ ทนต่อน้ำหนักมาก ทั้งทนและอึดบอกเลยว่า ISUZU D MAX นั้นยืน 1 พร้อมที่จะช่วยให้งานขนส่งทุกอย่างของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่นไร้ปัญหา การันตีด้วยการเป็น รถกระบะ ที่ขายดีมากที่สุดในตอนนี้ หากว่าไม่มั่นใจ ก็ยังสามารถมา ทดลอง ที่ศูนย์ อีซูซุทั่วประเทศ รับรองว่า ISUZU D MAX พร้อมสู้ไปทุกงานกับคุณแน่นอน

ISUZU MU X รถครอบครัว อเนกประสงค์สุดทันสมัย

ทำความรู้จักกับ ISUZU D MAX กันมามากพอสมควรแล้ว คราวนี้มารู้จัก รถกระบะอเนกประสงค์อย่าง มิวเอ็ก กันบ้าง กับรถกระบะยุคใหม่ ดีไซน์ สวยงามทันสมัย แต่ยังคงคอนเซ็ป ที่พร้อมช่วยงาน และความจุของรถกระบะ ที่มากแทบไม่ต่างกับแบบเดิม เพิ่มเติมด้วยความหรูหรา น่าใช้งานขับไปไหนมาไหน ในรูปแบบรถครอบครัว ที่คุณต้องมีไว้สักคัน

ISUZU MU X มีจุดเด่นอะไร ทำให้ต้องมาซื้อใช้งาน

จุดเด่นที่สำคัญของ มิวเอ็ก ที่กับการใช้งานที่หลากหลายที่ไม่ต่างอะไรเลยกับแบบ ISUZU D MAX เลยโดย ISUZU MU X จะมีจุดเด่นอะไรบ้างมาดูกัน

  1. ความหรูหราทันสมัย
  2. รูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ใน ราคา รถกระบะ
  3. ตอบโจทย์คนเมืองใช้งานได้ ใช้เที่ยวได้
  4. ความทนทาน
  5. เทคโนโลยีครบครัน

ISUZU ต่างจากค่ายอื่นยังไง ถึงเป็นที่ 1 ในตลาดรถกระบะตอนนี้

เห็นแล้วว่า ISUZU D MAX นั้นคือที่สุดของ รถกระบะ แล้วในตอนนี้ยิ่ง อีซูซุ 2023 ในปีนี้ ที่มียอดขายอันดับ 1 เหนือ กระบะโตโยต้า แบบขาดรอยเลย โดย ISUZU D MAX และ ISUZU MU X มีอะไรดีกว่า กระบะโตโยต้า บ้างมาดูกันได้เลย

  1. ISUZU MU X  กับ ISUZU D MAX มีราคาที่ถูกคุ้มค่ากว่า กระบะโตโยต้า
  2. ความสวยความ และ หรูหรา กว่าโดยเฉพาะ มิวเอ็ก ที่เป็นรถกระบะรูปแบบใหม่
  3. การตลาดที่ดี สร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้ใช้งาน
  4. ความแข็งแรง ป้องกันอุบัติเหตุ ร้ายแรงของผู้ใช้งานได้
  5. ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่มากกว่า

ISUZU D MAX สุดยอดรถยนต์ สุดแกร่งที่พร้อมทำงานกับคุณทุกที่

สุดท้ายนี้คงจะได้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของ รถกระบะ อย่าง ISUZU D MAX ที่มีดีพอจนกลายเป็นรถกระบะที่ทำยอดขายได้เป็นอันดับ 1 ในแบบที่แบรนด์ไหน ๆ ก็เทียบไม่ติดทั้งด้านความ สวยงาม ทนทาน หรือแม้แต่ราคา ที่เข้าถึงง่ายและคุ้มค่า จึงไม่แปลกใจเลยที่ ISUZU D MAX จะเป็นสุดยอดรถกระบะอันดับ 1 ที่พร้อมให้คุณได้เป็นเจ้าของแล้วในนี้ 

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023