Lexus คือหนึ่งในรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมสูงในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก แต่สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบเกี่ยวกับแบรนด์รถยนต์สุดหรูแบรนด์นี้คือ แบรนด์ที่อยู่ในเครือของบริษัทโตโยต้า (TOYOTA) ที่คนไทยเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับ Lexus LS Sedan รถเก๋ง 4 ประตูที่เปิดตัวมาพร้อม 3 รุ่นย่อย แต่ที่สำคัญแต่ละรุ่นมีสเปคที่น่าสนใจไม่เบาเลยทีเดียว สเปคจะเป็นอย่างไรและน่าสนใจขนาดไหนไปดูกันเลย
สเปคของ Lexus LS Sedan ทั้ง 3 รุ่นย่อย และมีกำลังสูงสุด 421 แรงม้า
สำหรับ Lexus LS Sedan หรือ Lexus LS 2022 เป็นรถยนต์ Sedan ที่เปิดตัวมาทั้งหมด 3 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ LS 350, LS 500 และ LS 500h และทุกรุ่นจะมีดีไซน์ทั้งภายในและภายนอกที่สุดแสน Luxury โดยเบาะหลังเป็นเบาะไฟฟ้า ที่สามารถปรับได้สูงสุดถึง 22 ทิศทาง มาพร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า แต่ในส่วนของเบาะนั่งด้านหลังฝั่งซ้ายถูกออกแบบให้มีพื้นที่วางขาให้มีความยาวเพิ่มมากขึ้นเพื่อความสบายกว่าที่เคย มาพร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า
เบาะหลังจะมาพร้อมโหมดการนั่งที่ Lexus ออกแบบมาให้ถึง 3 โหมดให้เลือก ได้แก่ คือ Business (ตำแหน่งสำหรับการนั่งปกติ), Entertain (ตำแหน่งนั่งเอนเพื่อการผ่อนคลาย) และ Relax (ตำแหน่งนั่งเอนที่ให้ความผ่อนคลายที่สุด และเพิ่มพื้นที่วางขาสูงสุด) โดยการควบคุมทุกฟังก์ชันสามารถควบคุมได้ง่าย ๆ ผ่านได้จากเบาะหลัง (ระบบสัมผัส) ทั้งระบบเครื่องเสียง, ระบบปรับอากาศ, การปรับระดับของเบาะนั่ง, การนวดผ่อนคลาย, ม่านบังแดด และ ระบบไฟส่องสว่างต่าง ๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในส่วนของด้านหลังของเบาะหน้าทั้ง 2 ฝั่งยังถูกติดตั้งจอภาพขนาด 11.6 นิ้วที่สามารถปรับตำแหน่งได้อัตโนมัติตามลักษณะการนั่ง อีกทั้งหน้าจอดังกล่าวยังรองรับทั้งแผ่น Blu-ray ช่องเสียบการ์ด SD และสาย HDMI เพื่อให้คุณเชื่อมต่อกับกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย และในส่วนของคอนโซลหน้ายังมาพร้อมหน้าจอ EMV แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว เพื่อให้ผู้ขับสามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้น
สุดท้ายเป็นในส่วนสเปคของเครื่องยนต์ของรถแต่ละรุ่นย่อย โดย LS 350 ที่ถือว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นมาพร้อมเครื่องยนต์ 3.5-liter V6 engine (8GR-FKS) ที่ให้กำลังสูงสุด 421 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที และ มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 10.4 กม./ลิตร สำหรับรุ่น LS 500 มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.5-liter V6 twin turbocharged engine (V35A-FTS) ที่ให้กำลังสูงสุด 421 แรงมาก แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 4,800 รอบต่อนาที และ มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.3 ลิตร / 100กม. และสุดท้ายคือ Lexus LS 500h รถยนต์ไฮบริดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.5-liter V6 engine (8GR-FXS) ที่ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 359 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 5,100 รอบต่อนาที และมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 6.5 ลิตร / 100 กม. และทุกรุ่นเป็นเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีท
Lexus sedan ราคา เริ่มต้นที่ 11.5 ล้านบาท พร้อมการตกแต่งภายในที่คุณเลือกเองได้
สำหรับราคาของ Lexus LS Sedan ในแต่ละรุ่นย่อยจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป โดย Lexus LS 350 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 11,550,000 บาท และ LS 350 Luxury สามารถเลือกการตกแต่งภายในได้ 2 ดีไซน์ ได้แก่ Black with Open Pore (Ash Burl) และ Hazel with Open Pore (Walnut) Lexus LS 500 ราคา เริ่มต้นที่ 13,110,000 บาท LS 500 Executive สามารถเลือกการตกแต่งภายในได้ 2 ดีไซน์ ได้แก่ Black with Laser Cut และ Crimson & Black with Laser Cut และสุดท้ายคือ Lexus LS 500h จะมีราคาอยู่ที่ 14,530,000 บาท ซึ่งLS 500h Executive Pleat จะสามารถเลือกการตกแต่งได้ทั้งหมด 4 ดีไซน์ คือดีไซน์จาก LS 500 Executive 2 ดีไซน์และเพิ่มดีไซน์ Black with Kiriko และ Crimson & Black with Kiriko นอกจากนี้ยังมีสีของรถให้เลือกมากถึง 10 สีด้วยกัน
อ่านบทความอื่น ๆ >> สนามช้าง CHANG INTERNATIONAL CIRCUIT สนามแข่งรถใช้แข่ง MOTOGP
สนับสนุนโดย: https://ufaball.bet/ เว็บพนันออนไลน์ มั่นคงปลอดภัย มั่นใจซื่อตรง เปิดบริการแล้วครบจบในที่เดียว