(https://www.ferrari.com/en-CD/history/garage/1994/f355-berlinetta)
Ferrari F355 นับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นรถยนต์ที่เรามักจะพบได้ในเกมแข่งรถหลาย ๆ เกม และแน่นอนว่าในความเป็นจริงนั้น ครั้งหนึ่งรถรุ่นนี้เคยเป็นที่รู้จัก และเป็นที่พูดถึงในหมู่คนในช่วงเวลานั้นเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่ในปัจจุบันจะกลายมาเป็นตำนาน
(https://www.supercars.net/blog/1994-ferrari-f355-gts/)
มาทำความรู้จักกับ Ferrari F355 รถที่มีพัฒนาออกมาถึง 5 รุ่น ตลอดเวลา 6 ปี
Ferrari F355 เป็น รถสปอร์ต 2 ประตู ที่เปิดตัวในครั้งแรกในปี 1994 โดยรุ่นแรกที่เปิดตัวในยุคนั้นคือ F355 Berlinetta ตามด้วยรุ่น F355 Spider ในปี 1995 ซึ่งในปีเดียวกันนี้ ทาง Ferrari ก็ได้ทำการเปิดตัวโมเดลรถอีก 2 รุ่นได้แก่ F355 GTS และ F355 Challenge โดยรุ่น F355 Challenge เป็นรุ่นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อลงเตรียมแข่งในรายการ Ferrari Challenge และรุ่นสุดท้ายที่ถูกเปิดตัวคือในปี 1999 โดยมีชื่อรุ่นว่า Limited Edition Fioranoนั่นเอง นอกจากนี้ในแต่ละรุ่นก็จะมีสเปค และสมรรถนะที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่ทุกรุ่นมีเหมือนกันคือใช้เครื่องยนต์ V8 3.5 ลิตร 5 วาล์วต่อสูบ โดยรหัสดังกล่าวถูกนำมาใช้เป็นชื่อรุ่นที่ปรากฏให้เราเห็นในทุกวันนี้นั่นเอง
(https://www.ferrari.com/en-CD/history/garage/1994/f355-berlinetta)
เปิดสเปคของ Ferrari F355 Berlinetta รถยนต์รุ่นแรกของ F355
ตามที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า Ferrari F355 ทุกรุ่นจะใช้เครื่องยนต์ V8 3.5 ลิตร 5 วาล์วต่อสูบ แต่วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสเปคของ Ferrari F355 Berlinetta ที่ถือว่าเป็นรถยนต์รุ่นแรกของ F355 เลยก็ว่าได้
โดย F355 Berlinetta เป็นรถยนต์ 2 ประตู 2 ที่นั่ง แต่รุ่นที่ยังไม่สามารถเปิดประทุนได้ ซึ่งรุ่นนี้จัดว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นของกลุ่มรถซุเปอร์คาร์ในยุคนั้น โดยความเร็วสูงสุดของรุ่นนี้อยู่ที่ 294.5 กม./ชม. (183 ไมล์/ชม.) อัตราเร่ง 0 – 100 ไมล์/ชม. อยู่ที่ประมาณ 11.3 วินาที กำลังแรงมาสูงถึง 280 แรงม้า และทำรอบ 8250 รอบ/นาที เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะโหดไม่เบาเลยทีเดียว
ต่อมาเป็นในส่วนของราคา โดย Ferrari F355 ราคา ที่ถูกเปิดตัวอยู่ที่ราว ๆ $130,000 ซึ่งเป็นราคาที่สูงไม่เบาหากเทียบกับอัตราเงินในยุคนั้น นอกจากนี้แล้ว ferrari f355 มือสอง ก็มีราคาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น สภาพของตัวรถ ปีที่ผลิต ตัวเลขของเข็มไมล์ รวมไปถึงการคงไว้ซึ่งชิ้นส่วน หรืออะไหล่เดิมของรถ เหล่านี้ล้วนมีผลต่อราคาทั้งหมด นอกจากนี้แล้วรถมือสองของรุ่นนี้ยังมีขายอยู่เป็นจำนวนมากทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งหากเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศก็จะมีในส่วนของภาษีเพิ่มเข้ามานั่นเอง
