Bugatti Divo เป็นรถยนต์ซูเปอร์คาร์ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ณ PEBBLE BEACH ใน CALIFORNIA ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการรถซูเปอร์คาร์ เนื่องจากมาพร้อมกับดีไซน์สุดหรูที่มีความสวยงาม โดดเด่น พร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ดึงดูดความสนใจของผู้พบเห็นได้อย่างทันที ด้วยความพิเศษสุดอลังการนี้ จึงทำให้เกิดคำถามว่า Bugatti Divo มีกี่คัน และคำตอบก็คือมีเพียง 40 คันทั่วโลก จึงเป็นรถที่มีความแรร์ และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ Bugatti Divo ขึ้นไปอีก
และสำหรับใครที่สนใจ วันนี้เรามีรายละเอียดเกี่ยวกับซูปอร์คาร์สุดหรูคันนี้มาให้ได้รู้กัน โดยนอกจากคุณสมบัติโดดเด่นของรถยนต์คันนี้แล้ว เรายังมีข้อมูล Bugatti Divo ราคาในไทย และราคาที่มีประโยชน์สำหรับการคำนวณ Bugatti Divo ราคารวมภาษี มาให้ทุกคนได้เห็นถึงความพิเศษของรถยนต์คันนี้ โดยรายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้น เราไปทำความรู้จักกับรถซูเปอร์คาร์คันนี้ได้เลย
แรงบันดาลใจในการสร้าง Bugatti Divo ตัวท็อปที่ผลิตอย่างมีที่มา
Bugatti Divo ถูกผลิตขึ้นมาด้วยมาตรฐานการผลิตบนพื้นฐานเดียวกันกับ Bugatti Chiron ซึ่งมีการเปิดตัวก่อนหน้านี้ โดยชื่อ Divo มาจาก มาจากชื่อของนักแข่งรถในยุค 1920 อย่าง ALBERT DIVO ที่ควบคุม BUGATTI แล้วคว้าแชมป์มาได้ติดต่อกันตลอด 20 ปี
การผลิตซุเปอร์คาร์รุ่นนี้ ผ่านกระบวนการผลิตมาอย่างเข้มงวด เพื่อให้ได้รถยนต์ที่ดีที่สุดทั้งด้านการออกแบบ และด้านสมรรถนะการขับขี่ ซึ่งผลงานที่ออกมาก็ไม่ทำให้คนทั้งโลกต้องผิดหวัง เพราะหลังจากการเปิดตัว Bugatti Divo ก็สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างมาก
โดย Bugatti Divo ราคาในไทย มูลค่า 191 ล้านบาท มาพร้อมขุมพลัง W16 พละกำลังมหาศาลถึง 1,500 แรงม้า และมีดีไซน์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว มีลูกเล่นแนวสปอร์ต และความหรูหราล้ำสมัยภายในห้องผู้โดยสาร อีกทั้งยังมีการพัฒนาจาก Bugatti Chiron ได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น
ส่องความพิเศษ Bugatti Divo ที่มาเหนือในวงการซูเปอร์คาร์
คุณสมบัติของ Bugatti Divo นั้นมีความพิเศษอย่างมาก เรียกได้ว่าในยุคของการเปิดตัว ซูเปอร์คาร์สุดล้ำคันนี้กลายเป็นรุ่นที่มีความโดดเด่นเหนือรุ่นอื่นในค่ายเดียวกัน เพราะนอกจากจะมีความสวยงามแล้ว สมรรถนะ และพละกำลังยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งเหมาะสมกับมูลค่า 5 ล้านยูโร และความแรร์ที่มีเพียง 40 คันในโลก โดยความพิเศษเหล่านั้น มีดังต่อไปนี้
- Bugatti Divo มีช่องระบายอากาศสำหรับเบรก DIFFUSER ที่ออกแบบเพื่อรองรับปลายท่อไอเสีย 4 ท่อ
- ไฟท้ายที่ถูกตกแต่งแบบ 3 มิติ ด้วยครีบ LED ขนาดแตกต่างกันจำนวนถึง 44 ดวง
- ภายในห้องโดยสารมีการเอาช่องเก็บของออก และเปลี่ยนมาใช้ชุดเครื่องเสียงที่มีน้ำหนักเบาลง
- ความเร็งสูงสุดถูกจำกัดไว้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 380 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- หนังอัลคันทาราสีน้ำเงิน คอนโซลคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีชุดเครื่องเสียงน้ำหนักเบา พร้อมด้วยแป้นแพดเดิ้ลชิฟต์ขนาดใหญ่
- Bugatti Divo ขับสนุก ทนต่อแรงกดได้ดี และมีน้ำหนักเบา ทำให้เคลื่อนตัวได้อย่างคล่องแคล่ว โฉบเฉี่ยว
Bugatti Divo แตกต่างจาก Bugatti Chiron อย่างไรบ้าง ?
- Bugatti Chiron ราคาในไทยอยู่ที่ 300 ล้านบาท มีจำกัดเพียง 20 คันทั่วโลก ส่วน Bugatti Divo ราคารวมภาษี เริ่มต้นที่มูลค่า 191 ล้านบาท
- Divo สร้าง DOWNFORCE ได้ 456 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากรุ่น CHIRON ถึง 90 กิโลกรัม
- มีน้ำหนักเบาลงจาก BUGATTI CHIRON 35 กิโลกรัม
- แสดงแรงจีตอนเจ้าโค้งขนาด 1.6 G ได้โดยไม่หลุดโค้งที่สนาม Nardo ด้วยความเร็วสูง ซึ่งทำเวลาดีกว่ารุ่น Chiron ถึง 8 วินาที
สถานการณ์ปัจจุบันของ Bugatti Divo
สำหรับใครที่สนใจ Bugatti Divo ราคาในไทย นั้น เราก็จะมาบอกกันชัด ๆ อีกครั้งว่า Bugatti Divo ราคารวมภาษีในประเทศไทยเริ่มต้น 191 ล้านบาท โดยสำหรับ Bugatti Divo ราคารวมภาษีที่แน่นอนนั้นยังไม่ทราบเป็นที่แน่ชัด
แต่อย่างไรก็ตาม ในข้อมูลมีการระบุว่าทั้ง 40 คันที่ผลิตขึ้นมา มีการจองไว้ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงไม่มีข้อสงสัยอีกต่อไปว่า Bugatti Divo มีกี่คัน และคันสุดท้ายของรุ่นนี้ก็ได้ออกจากโรงงานและส่งถึงมือลูกค้าไปอย่างสมบูรณ์ ด้วยสไตล์การออกแบบที่มีสีหลักคือน้ำเงิน Bugatti EB 110 LM Blue ตัดกับสีน้ำเงินเข้มที่บริเวณส่วงล่างตัวรถ, หลังคา และปีกท้ายเป็นการโชว์ลวดลายคาร์บอนไฟเบอร์ ภายในห้องโดยสารมากับโทนสีน้ำเงิน French Racing Blue สลับกับน้ำเงิน Deep Blue หนังแท้ผสานกับ Alcantara ได้กลมกลืน เรียกได้ว่าเป็นการส่งท้ายได้อย่างสมศักดิ์กศรีซูเปอร์คาร์ราคาสูง
3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023
10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023