มอเตอร์ไซค์ หรือรถจักรยานยนต์ ถือเป็นอีกหนึ่งยานพาหนะที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย โดยมอเตอร์ไซค์นั้นจะมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท และหนึ่งในประเภทที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันก็คือ รถบิ๊กไบค์ เรียกได้ว่าเป็นรถสองล้อที่มาพร้อมกับสมรรถนะสูงด้วยความแรงความเร็วของตัวเครื่องที่พอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าไม่ธรรมดา แถมยังมีดีไซน์สวยงาม โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์มากกว่ามอเตอร์ไซค์แบบทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างจากรถจักรยานยนต์ธรรมดาอีกด้วย นั่นจึงทำให้รถประเภทดังกล่าวมีมูลค่าสูงเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามรถมอเตอร์ไซค์ บิ๊ก ไบค์ จะมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน

ทำความรู้จัก รถบิ๊กไบค์ ทั้งหมด 8 ประเภท มีแบบไหนบ้าง

บิ๊กไบค์ หรือ bigbike เป็นรถที่มีขนาดใหญ่กว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป โดยเฉพาะส่วนของ เครื่องยนต์ ล้อ เฟรม รวมถึงตัวรถทั้งหมด นอกจากขนาดตัวรถแล้ว รูปทรงต่าง ๆ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ รถบิ๊กไบค์ มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีลักษณะแตกต่างกันไป สำหรับขนาดของ เครื่องยนต์ จะมีตั้งแต่ 250 – 2,400 cc และมีทั้งแบบ 1 สูบ, 2 สูบ , 3 สูบ, 4 สูบ , 5 สูบ และ 6 สูบ โดยส่วนใหญ่รถระดับ ตัวท็อป จะมีมูลค่าสูงตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้าน หากใครสนใจมาดูกันว่า รถบิ๊กไบค์ มีกี่แบบ ประเภทไหนเหมาะกับคุณ พร้อมแนะนำ แบรนด์รถบิ๊กไบค์ และเทคนิคการเลือกให้ตอบโจทย์กับความต้องการ

1. สปอร์ตไบค์ (Sport Bike)

รถสปอร์ต ไบค์ เป็น บิ๊กไบค์ ที่มี ดีไซน์ ทรงสปอร์ต สำหรับแฟริ่งจะถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ส่งผลให้ตัวรถมีความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และดูแข็งแรง จุดเด่นของมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้คือ เครื่องยนต์ ที่ให้สมรรถนะสูง แถมยังมีระบบเบรกและแรงบิดชั้นยอด เหมาะกับ ไบค์เกอร์ ที่ชื่นชอบการแข่งในสนามโดยเฉพาะ เป็นอีกรุ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการลงแข่งใครที่เป็นสายสนามต้องชอบรุ่นนี้อย่างแน่นอนสำหรับ รถบิ๊กไบค์ราคาถูก ทรงสปอร์ตยอดนิยมจะมาจากแบรนด์ Honda และ Yamaha เป็นส่วนใหญ่

2. ทัวร์ริ่งไบค์ (Touring Bike)

รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ แบบทัวร์ริ่งถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะถูกออกแบบมาให้มีเบาะขนาดใหญ่ นั่งได้สบาย มาพร้อมกับช่วงล่างสุดแสนจะนุ่มนวล เวลาขับแล้วไม่รู้สึกกระด้างจนเกินไป เหมาะกับการเดินทางไกลอย่างมาก หากสงสัยว่า รถบิ๊กไบค์ มีกี่แบบ และแบบไหนที่เหมาะกับ ไบค์เกอร์ ชอบเดินทางท่องเที่ยวแบบไกล ๆ ขอแนะนำมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้เลย สำหรับรุ่น ตัวท็อป จะมีหลายแบรนด์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Honda และ Kawasaki หรือจะเป็นแบรนด์ยุโรปอย่าง Ducati ก็ได้เช่นกัน

3. เน็คเก็ตไบค์ (Naked Bike)

เน็คเก็ตไบค์ จัดเป็นมอเตอร์ไซค์ประเภทหนึ่งที่มีสปอร์ตไบค์เป็นต้นแบบ แต่ ดีไซน์ ภายนอกของ bigbike ประเภทนี้จะถูกปรับเปลี่ยนให้แตกต่างจากสปอร์ตไบค์ โดยจะเน้นยกแฮนด์สูง และเปลือยแฟริ่งด้านล่างให้เห็นตัวเครื่องแบบชัดเจน นอกจากนี้ยังปรับเบาะให้นั่งสบายมากขึ้นอีกด้วย เพื่อช่วยให้คนขับ บิ๊กไบค์ ขับขี่ได้นานแบบไม่ปวดเมื่อย หากใครสนใจ รถบิ๊กไบค์ ราคาไม่เกินแสน สามารถเลือกรถจากแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Suzuki และ Yamaha หรือจะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ดังอย่าง Kawasaki ก็น่าสนใจไม้แพ้กัน

4. แอดเวนเจอร์ไบค์ (Adventure Bike)

แอดเวนเจอร์ไบค์ คือ บิ๊กไบค์ ที่นิยามคำว่า “พร้อมลุยทุกสถานการณ์” ได้เป็นอย่างดี เพราะถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายรถวิบาก มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องง่าย ให้ความสะดวกสบายกับคนขับได้ดี หากใครที่ชื่นชอบความท้าทาย ผจญภัยต่าง ๆ อยากจะลุยกับเส้นทางยาก ๆ bigbike ประเภทนี้ตอบโจทย์มากเลยทีเดียว สำหรับ แบรนด์รถบิ๊กไบค์ จากญี่ปุ่นที่น่าสนใจก็จะมี Honda และ Kawasaki หรือจะเป็นแบรนด์อังกฤษอย่าง Triumph และ Royal Enfield ก็ดีเช่นกัน

5. ชอปเปอร์/ครุยเซอร์ไบค์ (Chopper/Cruiser Bike)

ชอปเปอร์ และครุยเซอร์ จัดเป็น บิ๊กไบค์ ที่มีสไตล์คล้ายกันจนบางครั้งแยกไม่ออก ส่วนใหญ่จะนิยมนำครุยเซอร์มาปรับแต่งเป็นชอปเปอร์ โดยจะเน้นให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา ดังนั้นอะไรที่ไม่จำเป็นก็จะถูกตัดออกไป จุดเด่นของมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้คือตัวโช้คหน้าที่มีขนาดยาวเป็นพิเศษ และส่วนของแฮนด์บาร์ก็จะสูงด้วย ถือเป็นรถที่เน้น ความเร็ว แรงเป็นหลัก ให้ แรงม้า สูง เบาะนั่งมักเป็นเบาะเดี่ยว สำหรับ รถบิ๊กไบค์ราคาถูก ทรงนี้จะมีทั้งแบรนด์อเมริกาอย่าง Harley-Davidson หรือแบรนด์ยุโรปอย่าง Triumph และ BMW Motorrad

6. เอ็นดูโรไบค์ (Enduro Bike)

เอ็นดูโรไบค์ เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มี ดีไซน์ ค่อนข้างแตกต่างจาก รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ประเภทอื่น ๆ รูปลักษณ์ภายนอกจะดูปราดเปรียวเป็นพิเศษ ใส่ความวิบากลงไปพอสมควร และร่องดอกยางจะลึกมาก จึงเหมาะกับการเดินทางแบบลุย ๆ บนถนนขรุขระอย่างเช่นในป่า หรือบนเขา แต่จะไม่เหมาะกับถนนเรียบ ๆ เพราะล้อรถถูกออกแบบมาให้ใช้งานบนถนนขรุขระโดยเฉพาะ ใครที่เป็นสายลุยต้องชอบแน่นอนสำหรับใครที่สนใจ รถบิ๊กไบค์1000cc แบรนด์ญี่ปุ่นขอแนะนำ Honda และ Kawasaki หรือจะเป็น Yamaha ก็ได้เช่นกัน

7. สแครมเบลอร์ (Scrambler)

สแครมเบลอร์ จัดเป็น รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ที่มีต้นแบบมาจากมอเตอร์ไซค์คัสตอมในช่วงปี ค.ศ. 1920 เรียกได้ว่าเป็น bigbike ทรงคลาสสิคกึ่งวิบาก เครื่องยนต์ ดี สายลุยหลายคนน่าจะชอบรถประเภทนี้ เพราะตัวรถถูกออกแบบให้มีความสูงขึ้น โดยเฉพาะโช้คและท่อไอเสีย ยางจะมีร่องลึก สามารถเดินทางไปได้ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะลุยโคลนหรือลุยน้ำก็ไม่หวั่น หากใครสนใจ รถบิ๊กไบค์ราคาถูก ทรงนี้ก็สามารถพิจารณาแบรนด์ Honda หรือแบรนด์ยุโรปอย่าง Ducati และ Triumph ก็ดีไม่แพ้กัน

8. สกู๊ตเตอร์ไบค์ (Scooter Bike)

สกู๊ตเตอร์ไบค์ จัดเป็น บิ๊กไบค์ ประเภทหนึ่งที่มีขนาดมอเตอร์ค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับ รถบิ๊กไบค์1000cc จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เนื่องจากมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ถูกออกแบบมาให้ขับขี่ง่าย ใช้ระบบเกียร์แบบออโตเมติก ช่วงล่างมีความนุ่มนวล จึงทำให้คนทั่วไปใช้งานได้สะดวกสบาย ขับง่ายแบบไม่ต้องเน้น ความเร็ว แรง แต่ถึงอย่างนั้นรูปลักษณ์ภายนอกก็ยังคง ดีไซน์ ให้มีความสปอร์ตอยู่ดี สำหรับแบรนด์ญี่ปุ่นยอดฮิตจะเป็น Honda และ Yamaha รวมไปถึงแบรนด์ยุโรปอย่าง BMW Motorrad และอื่น ๆ

ทริคการซื้อ รถบิ๊กไบค์ ง่าย ๆ เลือกแบบไหนดี มีสเปคตอบโจทย์กับความต้องการ

หลังจากทราบกันแล้วว่า รถบิ๊กไบค์ มีกี่แบบ คราวนี้ขอแนะนำเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคนที่สนใจอยากจะครอบครอง รถบิ๊กไบค์ กันบ้าง นอกเหนือจากการดูประเภทและ แบรนด์รถบิ๊กไบค์ แล้ว สิ่งหนึ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญก็คือ สเปค และ ราคา ของรถรุ่นนั้น ๆ หากต้องการรูปลักษณ์เท่ ๆ พร้อมกับ เครื่องยนต์ ที่มีสมรรถนะสูงก็สามารถเลือกรุ่น ตัวท็อป ได้เลย หรือถ้าใครเป็นมือใหม่ก็ควรเลือกรุ่นรองลงมาก่อน แนะนำให้เลือก รถบิ๊กไบค์ ราคาไม่เกินแสน จะดีกว่า เผื่อในอนาคตไม่ถูกใจ และถ้าอยากอัพเลเวลแล้วค่อยเลือกรุ่นท็อปที่มีมูลค่าสูง

สุดยอด 5 ชอปเปอร์ ดีไซน์เท่ ตอบโจทย์สายบิ๊กไบค์ รุ่นไหนดี 2024

ความลับของ รถเต่า VOLKSWAGEN BEETLE ในตำนาน

ถ้าพูดถึงการแต่งรถมอเตอร์ไซค์สไตล์อเมริกันที่ได้รับความนิยม เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับรถ ชอปเปอร์ หรือ Chopper เป็นอย่างดี เนื่องจากรถประเภทนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่อนข้างชัดเจน แต่ว่าหลายคนก็ยังคงสับสนระหว่าง Chopper และ Cruiser อยู่ เพราะรถทั้ง 2 ประเภทนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว รถ ชอป เปอร์ ก็คือรถครุยเซอร์ที่ถูกนำมาแต่งใหม่อีกที ให้มีความเท่และดีไซน์ที่ดูแตกต่างสมัยนิยมมากขึ้น โดยส่วนมากจะนิยมตัดหั่นเฟรม แต่งโครเมียม แต่งโช้คหน้าให้ยื่นยาว และอื่น ๆ สำหรับใครที่ชื่นชอบรถประเภทนี้ มาทำความรู้จักกับ Chopper ดีไซน์เท่ ๆ ในปี 2024 กันเลย

5 ชอปเปอร์ ยี่ห้อดัง ดีไซน์สุดเท่ โดนใจสายบิ๊กไบค์ วิ่งได้ทั้งระยะใกล้และระยะไกล

อย่างที่ทราบกันว่า ไบค์เกอร์ แต่ละคนมักมีสไตล์รถที่ชอบเป็นของตัวเอง ซึ่งความชอบของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป บางคนไม่ได้ต้องการรถมอเตอร์ไซค์ที่เร็วแรงเสมอไป แต่ต้องการรถที่มีรูปลักษณ์หรือดีไซน์ที่ใช่ อย่างเช่น ชอปเปอร์ นับเป็นมอเตอร์ไซค์อีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมในอเมริกา ซึ่งจะมีทั้ง ชอปเปอร์ ราคา ถูกและราคาแพง บางรุ่นอาจเป็น ชอปเปอร์มือสอง แม้ว่าจะขับขี่บนทางซิกแซกได้ลำบากกว่า สปอร์ตไบค์ ประเภทอื่น แต่ด้วยความชอบก็ทำให้หลายคนเลือกใช้รถประเภทนี้ มาดูกันว่า 5 Chopper ยี่ห้อดัง ดีไซน์เท่ ๆ มีรุ่นไหนบ้าง

1. Honda Rebel 300 (ราคาเริ่มต้น 146,830 บาท)

หนึ่งใน ตัวท็อป ของบรรดารถสไตล์ ชอป เปอร์ ครุยเซอร์ เรียกได้ว่าเป็นรุ่นยอดฮิตที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกจะดูเป็นรถสไตล์บ๊อบเบอร์ซะมากกว่า ดีไซน์ภายนอกสุดเท่ มาพร้อมกับชุดเรือนไมล์ทรงกลมแบบดิจิตอล และโคมไฟหน้าทรงกลมแบบ LED แถมยังมีไฟท้ายและไฟเลี้ยวแบบ LED ด้วย เมื่อดูจาก ราคา แล้วต้องบอกว่าไม่แพงนัก ถือเป็น รถ ชอป เปอร์ ราคาถูก อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยที่หลายคนจับตามองและให้ความสนใจ ในส่วนของ เครื่องยนต์ เป็นแบบสูบเดียว 4 จังหวะ ขนาด 300 cc ซึ่งจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด PGM-Fi ตัวใหม่ ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด

2. Yamaha Bolt R (ราคาเริ่มต้น 429,000 บาท)

ต้องบอกว่าเป็น Cruiser-Chopper อีกหนึ่งรุ่นในตำนานที่หาซื้อได้ยากแล้ว หากใครอยากครอบครองคงต้องไปหาซื้อ ชอปเปอร์มือสอง แทน โดยจุดเด่นของรถรุ่นนี้ก็คือมีรูปลักษณ์ภายนอกสุดเฟี้ยวตามแบบฉบับ Urban Performance Bobber โดยดีไซน์แบบเรียบ ๆ ไม่เน้นความหรูหรามากนัก ส่วน เครื่องยนต์ ก็มีขนาดไม่ถึง 1000 cc ไฟหน้าและไฟท้ายเป็นทรงกลมแบบ LED ธรรมดา เบาะนั่งมีความโค้งงอเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับ เครื่องยนต์ แบบ 2 สูบ V-twin ขนาด 942 cc SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ ให้กำลังสูงสุด 54.3 แรงม้า และ แรงบิด สูงสุด 79.5 นิวตันเมตร

3. Triumph Speed Twin 1200 (ราคาเริ่มต้น 559,000 บาท)

นับเป็น รถสปอร์ต ไบค์ระดับแถวหน้าของ Cruiser-Chopper เลยก็ว่าได้ นี่คือรุ่น ตัวท็อป ที่มีดีไซน์สุดเท่ มาพร้อมกับไฟหน้าทรงกลมแบบ LED และ DRL ไฟท้ายไฟเลี้ยว LED แบบเรียบง่าย แต่ดูเท่และแข็งแรง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่ง ชอปเปอร์ ราคา ครึ่งล้านที่น่าสนใจอย่างมาก ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่มาในโทนสีดำ ตัดกับตัวถังสีแดงที่เข้ากันได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีขนาดที่เหมาะกับการเดินทางในระยะไกล ทำให้ดีไซน์โดยรวมดูสมาร์ทและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน โดยใช้ เครื่องยนต์ ขนาด 1200 cc มีจุดเด่น คือ คันเร่งไฟฟ้า จูนแบบทรักซ์ตัน ระบบคลัตช์ช่วยผ่อนแรง Torque Assist Clutch 

4. Triumph Thruxton RS (ราคาเริ่มต้น 699,000 บาท)

เรียกว่าเป็นรถ ชอปเปอร์ ราคา แพงสไตล์คลาสสิคที่ยังคงเป็นตำนานน่าจดจำ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเท่แบบเรียบ ๆ ไม่ตกแต่งเยอะจนเกินไป ทำให้รถรุ่นนี้โดนใจใครหลายคนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่ชอบมอเตอร์ไซค์แบบดั้งเดิมจะถูกใจรุ่นนี้เป็นพิเศษด้วยความที่รุ่นนี้มีความพิเศษเฉพาะและดีไซน์ที่ออกแบบมาได้เป็นที่น่าจับตามองของคนชอบรถเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่น ๆ แล้วถือว่ามีความโดดเด่นในเรื่อง ความเร็ว และความคล่องตัว ดีไซน์ตัวรถได้ผสมผสานระหว่าง Cafe Racer เข้ากับขีดความสามารถตามแบบฉบับโมเดิร์นได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับ เครื่องยนต์ สูบคู่ 4 จังหวะ ขนาด 1200 cc จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด Multipoint Sequential Electronic

5. Harley-Davidson Breakout 117 (ราคาเริ่มต้น 1,205,000 บาท)

นี่อาจไม่ใช่ รถ ชอป เปอร์ ราคาถูก ที่หลายคนตามหา แต่เป็นรถ ชอป เปอร์ ราคาแพงที่หลายคนให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย เนื่องจากรถรุ่นนี้มีดีไซน์สไตล์ รถสปอร์ต ไบค์แบบเต็มรูปแบบ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือลาดตระเวน เป็นรถที่คนให้ความสนใจและอยากลองจับจองขับขี่กันเป็นแน่ สำหรับรุ่นล่าสุด 2024 นี้จะมีการอัปเดตหลายอย่าง และมีการเพิ่มโครเมียมสไตล์ Raked-Out ลงไปด้วย รูปร่างมีความโค้งมนแบบคลาสสิค แม้ว่าดีไซน์ตัวรถจะดูเรียบง่าย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าองค์ประกอบต่าง ๆ ทำให้ดูมีความสปอร์ตอยู่พอสมควร ซึ่งมาพร้อมกับ เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ 117 และล้ออลูมิเนียมสีดำ 26 ก้าน

แนะนำมือใหม่เลือก ชอปเปอร์ แบบไหนดี ตอบโจทย์การเดินทางแบบฉบับสายซิ่ง

สำหรับมือใหม่ที่อยากครอบครอง สปอร์ตไบค์ อย่าง Cruiser-Chopper ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ารถประเภทนี้ไม่ได้เน้น ความเร็ว ความแรงเหมือนกับมอเตอร์ไซค์ประเภทอื่น ๆ แต่เรื่องท่อ เสียงดัง นั้นก็ไม่น้อยหน้า ซึ่งจะขับได้ดีในทางตรง แต่ในทางโค้งและซิกแซกจะควบคุมรถได้ลำบากกว่า หากคุณเป็นมือใหม่และอยากซื้อ ชอปเปอร์ มาใช้งานจำเป็นต้องเลือกจากดีไซน์และ เครื่องยนต์ ของรถเป็นหลัก แนะนำให้เลือก รถ ชอป เปอร์ ราคาถูก และตอบโจทย์ความชอบจะดีที่สุด บางรุ่นอาจหาซื้อได้ยากก็จำเป็นต้องซื้อ ชอปเปอร์มือสอง แทน

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023