Previous slide
Next slide

รีวิว 10 น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี แบรนด์เด็ด ที่คุณต้องรู้ในปี 2567

Top 10 automotive paint coatings

วันนี้เรามาคุยกันเรื่อง วิธีการดูแลรักษารถยนต์คันโปรดของเรากันดีกว่า เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่อง น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ กันมาบ้างแล้ว แต่จะมีสักกี่คนที่รู้จริงๆ ว่า น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับรถของเรา? ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโลกของน้ำยาขัดสีรถยนต์กันแบบเจาะลึกจัดเต็ม! และแนะนำ 10 น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ ยี่ห้อไหนดีที่สุดในปี 2567 ตามไปดูกัน!!

เนื้อหา

น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ คืออะไร

น้ำยาเคลือบสีรถ เรียกง่ายๆ ว่าเป็น “เกราะป้องกัน” สำหรับสีรถของคุณนั่นเอง! มันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างชั้นฟิล์มบางๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าบนพื้นผิวสีรถ ทำหน้าที่ปกป้องสีรถจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ฝน มลภาวะ หรือแม้แต่รอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ

แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ! น้ำยาขัดสีรถยนต์ยังช่วยเพิ่มความเงางามให้กับสีรถ ทำให้รถของคุณดูใหม่เอี่ยมอยู่เสมอ เหมือนเพิ่งออกมาจากโชว์รูมเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังช่วยให้การทำความสะอาดรถง่ายขึ้น เพราะสิ่งสกปรกจะเกาะติดผิวรถได้ยากขึ้นถ้าจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ก็เหมือนกับครีมกันแดดสำหรับผิวของเรานั่นแหละครับ ช่วยปกป้อง เพิ่มความสวยงาม และยืดอายุการใช้งานของสีรถให้นานขึ้น ใครที่รักรถ อยากให้รถดูดีอยู่เสมอ น้ำยาขัดสีรถยนต์นี่แหละครับ คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา!

ประเภทของการเคลือบสีรถยนต์

ก่อนที่เราจะเจาะลึกเข้าไปในรายละเอียดของแบรนด์ชั้นนำในวงการเคลือบสีรถยนต์ มาทำความเข้าใจกับประเภทต่างๆ ของการเคลือบสีรถยนต์กันก่อน แต่ละวิธีมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ข้อดี และข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถของคุณได้

1. การเคลือบแก้ว (Glass Coating)

การเคลือบแก้วเป็นเทคโนโลยีล่าสุดในวงการการดูแลรักษารถยนต์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเนื่องจากประสิทธิภาพที่โดดเด่น

  • วัสดุ : ใช้สารซิลิก้า (silica) เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งเมื่อแห้งแล้วจะแข็งตัวเป็นชั้นแก้วบางๆ เคลือบทับสีรถ
  • ความเงางาม : ให้ผิวรถเงางามเหมือนกระจก สร้างความลึกและมิติให้กับสีรถ
  • ความทนทาน : มีความทนทานสูงมาก สามารถอยู่ได้นานหลายปี ทนต่อสภาพอากาศและสารเคมีได้ดี
  • การป้องกัน : ช่วยป้องกันสีรถจากรอยขีดข่วน รังสี UV และสิ่งสกปรกต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การดูแลรักษา : ต้องการการดูแลรักษาน้อย ทำให้การล้างรถง่ายขึ้น เนื่องจากสิ่งสกปรกไม่เกาะติดผิวรถ
  • ข้อควรพิจารณา : มีราคาค่อนข้างสูง และอาจต้องการผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง

2. การเคลือบแว็กซ์ (Wax)

การเคลือบแว็กซ์เป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้กันมายาวนาน และยังคงเป็นที่นิยมเนื่องจากความคุ้มค่าและความง่ายในการใช้งาน

  • วัสดุ : ทำจากไขธรรมชาติ เช่น ไขคาร์นูบา หรือไขสังเคราะห์
  • ความเงางาม : ให้ความเงางามดี แต่อาจไม่ลึกเท่าการเคลือบแก้ว
  • ความทนทาน : อยู่ได้ไม่นานนัก โดยทั่วไปประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแว็กซ์และสภาพแวดล้อม
  • การป้องกัน : ช่วยป้องกันสีรถจากสิ่งสกปรกและสภาพอากาศได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่ทนทานเท่าการเคลือบแก้ว
  • การดูแลรักษา : ต้องเคลือบใหม่บ่อยๆ เพื่อรักษาประสิทธิภาพ แต่สามารถทำได้ง่ายด้วยตัวเอง
  • ข้อควรพิจารณา : ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดูแลรถด้วยตัวเองและไม่ต้องการลงทุนสูง

3. การเคลือบซิลิโคน (Silicone Glazing)

การเคลือบซิลิโคนเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ให้ความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและราคา

  • วัสดุ : ใช้สารซิลิโคนเป็นส่วนประกอบหลัก
  • ความเงางาม : ให้ความเงางามดี และช่วยเพิ่มความลึกของสี
  • คุณสมบัติกันน้ำ : มีคุณสมบัติกันน้ำที่ดีเยี่ยม ทำให้น้ำเกาะตัวเป็นหยดและไหลออกจากผิวรถได้ง่าย
  • ความทนทาน : มีความทนทานปานกลาง โดยทั่วไปอยู่ได้นานกว่าแว็กซ์ แต่ไม่เท่าการเคลือบแก้ว
  • การใช้งาน : ใช้งานง่ายและให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเงางามแบบเร่งด่วน
  • ข้อควรพิจารณา : อาจต้องเคลือบใหม่บ่อยกว่าการเคลือบแก้ว แต่ไม่บ่อยเท่าแว็กซ์
Advantages of automotive paint coatings

ข้อดีของการใช้น้ำยาเคลือบสีรถยนต์

ข้อดีของการใช้น้ำยาเคลือบสีรถยนต์มีหลายประการ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับรถของคุณแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ดังนี้

  1. การปกป้องสีรถจากรังสี UV : ในยุคที่สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การปกป้องสีรถจากรังสี UV เป็นสิ่งสำคัญมาก น้ำยาเคลือบสีรถจะทำหน้าที่เสมือนเกราะป้องกันชั้นแรกที่ช่วยสะท้อนรังสี UV อันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สีรถซีดจางเร็ว การใช้น้ำยาเคลือบสีอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สีรถของคุณยังคงสดใสเหมือนใหม่ได้ยาวนานขึ้น แม้จะต้องจอดรถกลางแดดเป็นเวลานาน
  2. การป้องกันคราบสกปรกและมลพิษ : ในสภาพแวดล้อมเมืองที่เต็มไปด้วยมลพิษ ฝุ่นละออง และสารเคมีต่างๆ น้ำยาเคลือบสีรถจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันพื้นผิวสีรถจากสิ่งเหล่านี้ โดยสร้างชั้นฟิล์มบางๆ ที่ช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเกาะติดกับตัวรถโดยตรง ทำให้คราบสกปรกและมลพิษไม่สามารถซึมเข้าไปทำลายชั้นสีได้ ช่วยยืดอายุการใช้งานของสีรถให้ยาวนานขึ้น
  3. ความสะดวกในการทำความสะอาด : หนึ่งในข้อดีที่เห็นได้ชัดของการใช้น้ำยาเคลือบสีรถคือ การทำให้การล้างรถเป็นเรื่องง่ายขึ้น เนื่องจากน้ำยาเคลือบสีจะสร้างพื้นผิวที่ลื่นและเรียบเนียน ทำให้น้ำและสิ่งสกปรกไม่สามารถเกาะติดกับตัวรถได้ง่าย ๆ เมื่อถึงเวลาล้างรถ คุณจะพบว่าคราบสกปรกต่าง ๆ หลุดออกได้ง่ายกว่าเดิม ช่วยประหยัดเวลาและแรงงานในการทำความสะอาดรถ
  4. รักษามูลค่าของรถ : สำหรับผู้ที่มองการณ์ไกลและวางแผนที่จะขายรถในอนาคต การใช้น้ำยาเคลือบสีรถอย่างสม่ำเสมอจะช่วยรักษามูลค่าของรถได้เป็นอย่างดี เพราะสภาพสีรถที่ยังคงสวยงามเหมือนใหม่เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อรถมือสองพิจารณา การลงทุนในการดูแลสีรถด้วยน้ำยาเคลือบสีจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ช่วยให้คุณสามารถขายรถได้ในราคาที่ดีกว่า
  5. ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว : แม้ว่าการใช้น้ำยาเคลือบสีรถอาจมีค่าใช้จ่ายในตอนแรก แต่เมื่อพิจารณาในระยะยาวแล้ว จะพบว่าเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก เพราะช่วยลดความจำเป็นในการทำสีรถใหม่หรือการซ่อมแซมสีรถที่เสียหายจากสภาพแวดล้อม การลงทุนในการดูแลรักษาสีรถด้วยน้ำยาเคลือบสีจึงเป็นการป้องกันปัญหาและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
  6. เพิ่มความสวยงามให้กับรถ : นอกเหนือจากประโยชน์ในด้านการปกป้องแล้ว น้ำยาเคลือบสีรถยังช่วยเพิ่มความเงางามให้กับสีรถ ทำให้รถดูใหม่และสวยงามอยู่เสมอ ช่วยสร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็น และทำให้เจ้าของรถรู้สึกภูมิใจในการขับขี่
  7. ป้องกันรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ : น้ำยาเคลือบสีรถสมัยใหม่หลายชนิดมีคุณสมบัติในการป้องกันรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดจากการใช้งานประจำวัน เช่น รอยจากการเช็ดทำความสะอาด หรือรอยจากกิ่งไม้ที่เสียดสีกับตัวรถ ช่วยรักษาสภาพสีรถให้สวยงามได้นานยิ่งขึ้น

แนะนำ 10 น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2567

เอาล่ะ! มาถึงช่วงที่หลายคนรอคอย เรามาดูกันว่าในปี 2567 นี้ มีน้ำยาเคลือบสีรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี แบบไหนบ้างที่น่าสนใจ น้ำยาขัดสีรถ แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นอะไร มาดูกันเลย!

1. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ Meguiar’s

แว็กซ์เคลือบเงาสีรถ Meguiar’s จากแบรนด์สหรัฐอเมริกา น้ำยาขัดสีรถยนต์ที่อยู่ในวงการมานาน และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์ของเขาใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากลอง เคลือบสีรถด้วยตัวเอง ให้ความเงางามเนียนกริบ และมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหม็นฉุน

Meguiar's car varnish Wax
  • ราคาประมาณ : 1,428 บาท
  • ปริมาณ : 473 มิลลิลิตร

จุดเด่นของ Meguiar’s คือ น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ สูตรสังเคราะห์แท้ๆ ไม่ว่าคุณจะมีรถสีอะไร ก็ใช้ได้กับรถทุกสี ทำให้ผิวรถสีเงาล้ำลึก และลื่นสุดๆ แถมมีเทคโนโลยี Premium Hydrophobic Polymer ที่จะทำให้สีรถยนต์ของคุณสีสวยเด่นชัดมากขึ้น

2. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ 3M Gloss Enhancer Quick Wax

น้ำยาเคลือบรถ สูตรเสริมความเงา 3M Gloss Enhancer Quick Wax เป็นอีกหนึ่งแบรนด์น้ำยาเคลือบสีรถที่คนในวงการรถยนต์รู้จักกันดี 3M Gloss Enhancer Quick Wax อันนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาเยอะ แต่อยากให้รถเงาวับ ภายในพริบตา

3M Gloss Enhancer Quick Wax
  • ราคาประมาณ : 159 บาท
  • ปริมาณ : 400 มิลลิลิตร

จุดเด่นของ 3M Gloss Enhancer Quick Wax ผลิตภัณฑ์นี้คือ สามารถใช้ได้ทั้งบนสีรถเปียกและแห้ง ทำให้สะดวกมาก ๆ ในการใช้งาน นอกจากนี้ยังให้ความเงางามที่ดีเยี่ยมในเวลาอันรวดเร็ว

3. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ TURTLEWAX

TURTLEWAX ขี้ผึ้งเคลือบเงา เทอร์เทิ่ลแว็กซ์ เป็นแบรนด์น้ำยาขัดสีรถยนต์ที่มีประวัติยาวนานในการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ น้ำยาเคลือบสีนี้เคลือบรถได้เงางามมาก เพราะปริมาณแว็กซ์ที่มีมากกว่าแบรนด์ทั่วไป TURTLEWAX การรันตีเรื่องคุณภาพ ถึงราคาจะสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ แต่รับรองได้ว่าคุณภาพสูงเกินราคาแน่นอน

TurtleWax
  • ราคาประมาณ : 940 บาท
  • ปริมาณ : 270 มิลลิลิตร

จุดเด่นของ TURTLEWAX คือ ความทนทาน สามารถป้องกันสิ่งสกปรกและผงฝุ่นมาเกาะรถได้ดี TURTLEWAX มีส่วนผสมของแว็กซ์ ที่ให้ความเงางามสูง ปกป้องสีรถจากแสง UV ได้แม้จอดตากแดดนานๆ ผลิตภัณฑ์ของเขาสามารถปกป้องสีรถได้นานกว่าหลาย ๆ แบรนด์ในระดับราคาเดียวกัน

4. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ Liqui Moly Gloss spray wax

สเปย์สำหรับเคลือบเงา เกรดพรีเมี่ยม Liqui Moly เป็นแบรนด์น้ำยาเคลือบสีรถ จากประเทศเยอรมนี ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ สเปรย์เคลือบเงานี้ขึ้นชื่อเรื่องการปกป้องสีรถจากแสงแดดได้ ไม่ทำให้สีรถซีดจาง ป้องกันฝุ่นได้ดี ใช้เคลือบรถยนต์แล้วน้ำไม่เกาะ ทำให้รถมีความฉ่ำ แวววาว เหมือนรถใหม่ตลอดเวลา

Liqui Moly Gloss spray wax
  • ราคาประมาณ : 590 บาท
  • ปริมาณ : 400 มิลลิลิตร

จุดเด่นของ Liqui Moly คือการใช้เทคโนโลยีจากเยอรมนี ที่ให้การปกป้องสูงและความเงางามที่ยาวนาน แม้จะเป็นแบบสเปรย์ก็ตาม นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้กับวัสดุหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสี โครเมียม หรือพลาสติก

5. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ SOFT99 Luxury Gloss

สเปรย์เคลือบเงา SOFT99 Luxury Gloss น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ สูตรน้ำ water-based liquid wax จากประเทศญี่ปุ่น (Made in Japan) ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักรถ เพียงแค่ฉีดแล้วเช็ดออก ก็ทำให้รถมีความเงางามระดับพรีเมียมได้ทันที

SOFT99 Luxury Gloss
  • ราคาประมาณ : 359 บาท
  • ปริมาณ : 500 มิลลิลิตร

จุดเด่นของ SOFT99 คือการใช้เทคโนโลยีนาโนเพื่อสร้างชั้นเคลือบที่บางเฉียบแต่แข็งแรง ทำให้สีรถดูลึกและมีมิติมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติกันน้ำที่ดีเยี่ยม ทำให้รถสะอาดง่ายขึ้น

6. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ D1 Spec

ดีวัน สเปรย์เคลือบเงา สูตรฟิล์มแก้ว D1 Spec เป็นแบรนด์น้ำยาเคลือบสีรถที่เน้นผลิตภัณฑ์สำหรับรถแต่งโดยเฉพาะ แต่สเปรย์เคลือบเงาของพวกเขาก็เหมาะสำหรับรถทั่วไปด้วยเช่นกัน

D1 Spec pro works
  • ราคาประมาณ : 235 บาท
  • ปริมาณ : 600 มิลลิลิตร

จุดเด่นของ D1 Spec คือการใช้สูตรฟิล์มแก้วที่ให้ความแข็งแรงสูง สามารถปกป้องสีรถได้ดีกว่าสเปรย์เคลือบเงาทั่วไป แถมยังให้ความเงางามระดับโชว์รูมอีกด้วย

7. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ Naxpro

แนกซ์โปร ผลิตภัณฑ์เคลือบเงาสีรถ สูตรเงาและปกป้องพิเศษ Naxpro เป็นแบรนด์น้ำยาขัดสีรถยนต์ที่กำลังมาแรงในวงการดูแลรถยนต์ ด้วยสูตรที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับสภาพอากาศในเมืองไทย

Naxpro ultrashine wax
  • ราคาประมาณ : 480 บาท
  • ปริมาณ : 473 มิลลิลิตร

จุดเด่นของ Naxpro คือการผสมผสานระหว่างความเงางามและการปกป้องได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ช่วยฟื้นฟูสีรถที่หมองคล้ำให้กลับมาสดใสอีกครั้ง

8. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ KIT Car Wax

คิท คาร์ แว๊กซ์ KIT Car Wax เป็นน้ำยาเคลือบสีรถแบรนด์ไทยที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยคุณภาพที่ดีในราคาที่เข้าถึงได้

KIT Car Wax
  • ราคาประมาณ : 165 บาท
  • ปริมาณ : 460 มิลลิลิตร

จุดเด่นของ คิท คาร์ คือการใช้งานที่ง่ายเหมาะสำหรับมือใหม่ แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงสีรถได้อย่างอ่อนโยน

9. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ Wax One Clear Visions

แว็กซ์วัน เคลียร์วิชัน Wax One เป็นแบรนด์น้ำยาเคลือบสีรถ ผลิตภัณฑ์เคลือบกระจกรถยนต์ น้ำไม่เกาะ ที่เน้นการพัฒนา Product ให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย

Wax One Clear Visions
  • ราคาประมาณ : 119 บาท
  • ปริมาณ : 135 มิลลิลิตร

จุดเด่นของ Wax One คือการให้ความเงางามที่ยาวนานแม้ในสภาพอากาศร้อนจัด นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติกันน้ำที่ดีเยี่ยม ช่วยให้รถสะอาดง่ายขึ้นในหน้าฝน

10. น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ CARPRO CAR CREAM

ครีมขัดเงา CARPRO CAR CREAM เป็นแบรนด์ครีมขัดเงารถยนต์ที่ได้รับความนิยมในหมู่ช่างเคลือบเงาสีรถยนต์มืออาชีพ ด้วยคุณภาพระดับพรีเมียม

CARPRO CAR CREAM
  • ราคาประมาณ : 99 บาท
  • ปริมาณ : 250 กรัม

จุดเด่นของ CARPRO คือการใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ CAR CREAM ของพวกเขาให้การปกป้องระดับสูงพร้อมกับความเงางามที่ลึกและมีมิติ คุ้มค่าสำหรับคนที่ต้องการการดูแลรถระดับพรีเมียม

รอยขีดข่วนที่พบบนรถยนต์บ่อยมากที่สุด

ทีนี้เรามาพูดถึงปัญหาที่คนรักรถทุกคนต้องเจอกันบ้างนะครับ นั่นก็คือรอยขีดข่วนนั่นเอง! รอยขีดข่วนที่พบบ่อยมีหลายประเภท ได้แก่:

  1. รอยขีดข่วนจากการล้างรถ : รอยประเภทนี้เป็นหนึ่งในรอยขีดข่วนที่พบบ่อยที่สุด และมักเกิดจากความไม่ระมัดระวังในขั้นตอนการล้างรถ สาเหตุหลักมาจากการใช้ผ้าหรืออุปกรณ์ทำความสะอาดที่ไม่สะอาดพอ ทำให้เศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนผ้าขูดกับผิวรถ นอกจากนี้ การใช้แรงมากเกินไปในการขัดถูก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีคราบสกปรกฝังแน่น ผู้ล้างรถอาจใช้แรงมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพดี และล้างรถด้วยความระมัดระวัง ใช้น้ำยาล้างรถที่เหมาะสม และหมั่นเปลี่ยนน้ำล้างรถบ่อย ๆ เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยขีดข่วน
  2. รอยขีดข่วนจากกิ่งไม้ : รอยขีดข่วนประเภทนี้มักเกิดขึ้นเมื่อขับรถผ่านพื้นที่ที่มีต้นไม้หรือพุ่มไม้ขึ้นอยู่ใกล้ถนน โดยเฉพาะในเขตชนบทหรือพื้นที่ที่มีการจัดการพืชพรรณริมทางไม่ดีพอ กิ่งไม้ที่ยื่นออกมาบนถนนสามารถทำให้เกิดรอยขีดข่วนยาว ๆ บนตัวถังรถได้ บางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้สีรถลอกได้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการระมัดระวังเมื่อขับผ่านพื้นที่ที่มีต้นไม้ริมทาง และหากเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงการขับผ่านเส้นทางที่มีกิ่งไม้ยื่นลงมาต่ำเกินไป นอกจากนี้ การใช้น้ำยาเคลือบสีรถที่มีคุณภาพดีก็สามารถช่วยป้องกันรอยขีดข่วนเล็ก ๆ จากกิ่งไม้ได้ในระดับหนึ่ง
  3. รอยขีดข่วนจากที่จอดรถ : ลานจอดรถเป็นอีกหนึ่งแหล่งกำเนิดรอยขีดข่วนที่พบบ่อย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจอดรถหนาแน่น รอยขีดข่วนประเภทนี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น รถคันอื่นเฉี่ยวชนเบาๆ ขณะเข้าจอดหรือออกจากที่จอด ประตูรถคันข้างเคียงเปิดมากระทบ หรือแม้แต่คนเดินผ่านที่อาจชนหรือเสียดสีกับรถโดยไม่ตั้งใจ บางครั้งอาจเกิดจากรถเข็นในซูเปอร์มาร์เก็ตที่เลื่อนมาชนรถด้วย วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการเลือกที่จอดรถอย่างระมัดระวัง หากเป็นไปได้ควรเลือกจอดในพื้นที่ที่มีช่องจอดกว้าง หรือจอดในมุมที่ห่างจากการสัญจรหนาแน่น นอกจากนี้ การติดฟิล์มกันรอยหรือใช้น้ำยาเคลือบสีรถที่มีคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วนก็สามารถช่วยลดความเสียหายจากรอยขีดข่วนเล็ก ๆ ในที่จอดรถได้
  4. รอยขีดข่วนจากหินกระเด็น : รอยขีดข่วนประเภทนี้มักเกิดขึ้นเมื่อขับรถบนถนนที่มีหินเล็ก ๆ หรือเศษวัสดุอื่น ๆ โดยเฉพาะเมื่อมีรถคันอื่นขับผ่านด้วยความเร็วสูง ทำให้หินหรือเศษวัสดุกระเด็นมากระทบกับตัวถังรถ นอกจากจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนแล้ว บางครั้งยังอาจทำให้เกิดรอยบุบเล็ก ๆ ได้ด้วย วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า โดยเฉพาะเมื่อขับบนถนนที่มีพื้นผิวไม่เรียบหรือมีเศษหินมาก นอกจากนี้ การติดฟิล์มกันรอยหรือการใช้น้ำยาเคลือบสีรถที่มีคุณภาพสูงก็สามารถช่วยป้องกันรอยขีดข่วนจากหินกระเด็นได้ในระดับหนึ่ง
  5. รอยขีดข่วนจากสัตว์เลี้ยง : แม้จะไม่ใช่รอยขีดข่วนที่พบบ่อยที่สุด แต่ก็เป็นปัญหาที่เจ้าของรถที่มีสัตว์เลี้ยงต้องระวัง โดยเฉพาะเจ้าของสุนัขหรือแมว สัตว์เลี้ยงอาจกระโดดขึ้นรถหรือวิ่งผ่านข้างรถ ทำให้เล็บของพวกมันขูดกับสีรถ ทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ บางครั้งแมวอาจใช้รถเป็นที่ลับเล็บ ทำให้เกิดรอยขีดข่วนลึกได้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการฝึกสัตว์เลี้ยงให้มีระเบียบ และระมัดระวังไม่ให้พวกมันเข้าใกล้รถมากเกินไป หากจำเป็นต้องพาสัตว์เลี้ยงขึ้นรถ ควรใช้กรงหรืออุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันสัมผัสกับพื้นผิวภายนอกของรถโดยตรง

การใช้น้ำยาเคลือบสีรถที่มีคุณภาพดีจะช่วยป้องกันและกำจัดรอยขีดข่วนเหล่านี้ได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ น้ำยาเคลือบสีจะสร้างชั้นป้องกันบาง ๆ บนพื้นผิวรถ ทำให้วัตถุที่มาสัมผัสกับรถไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนสีรถโดยตรง

วิธีลบรอยขีดข่วนรถยนต์ ด้วยตัวเองง่ายๆ

เมื่อเกิดรอยขีดข่วนขึ้นบนรถของเรา ไม่ต้องตกใจไปครับ เพราะเรามีวิธีขัดสีรถลบรอยขีดข่วนด้วยตัวเองที่ทำได้ง่ายๆ โดยใช้น้ำยาลบรอยขีดข่วนรถยนต์ มาดูขั้นตอนกันเลย!

  1. ทำความสะอาดบริเวณที่มีรอยขีดข่วน : ล้างและเช็ดให้แห้งสนิท เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกติดอยู่
  2. ตรวจสอบความลึกของรอย : ใช้เล็บลูบดู ถ้าเล็บไม่ติด แสดงว่าเป็นรอยตื้น สามารถลบได้ด้วยน้ำยาขัดลบรอยขีดข่วน
  3. เลือกน้ำยาลบรอยขีดข่วนรถยนต์ที่เหมาะสม : มีหลายแบรนด์ให้เลือก ควรเลือกให้เหมาะกับสีรถและความรุนแรงของรอย
  4. ทดสอบในจุดที่ไม่เห็นชัด : ก่อนใช้จริง ให้ลองทาในบริเวณที่ไม่เห็นชัดก่อน เพื่อดูว่าไม่ทำให้สีรถเสียหาย
  5. ใช้น้ำยาขัดลบรอยขีดข่วน : ใช้ผ้านุ่มหรือฟองน้ำชุบน้ำยาแล้วถูเบาๆ บริเวณที่มีรอย ทำซ้ำๆ จนกว่ารอยจะจางลง
  6. เช็ดออกให้สะอาด : ใช้ผ้าสะอาดเช็ดน้ำยาออกให้หมด
  7. ตรวจสอบผลลัพธ์ : ดูว่ารอยหายไปหรือยัง ถ้ายังเห็นอยู่ อาจต้องทำซ้ำ
  8. เคลือบสีรถ : หลังจากขัดสีรถลบรอยเสร็จแล้ว ควรใช้น้ำยาเคลือบสีรถเพื่อปกป้องผิวสีในบริเวณนั้น
  9. ข้อควรระวังเพิ่มเติม :
    • อย่าออกแรงมากเกินไป เพราะอาจทำให้สีรถเสียหายได้
    • ทำในที่ร่ม ไม่ควรทำกลางแดด เพราะความร้อนอาจทำให้น้ำยาแห้งเร็วเกินไป
    • หากรอยลึกมาก อาจต้องใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญ
    • ควรสวมถุงมือยางเพื่อป้องกันสารเคมีสัมผัสผิวหนังโดยตรง

บทส่งท้าย

เป็นยังไงกันบ้างครับกับการเปิดโลกน้ำยาเคลือบสีรถยนต์ในปี 2567 นี้ หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้และแนวทางในการเลือกใช้น้ำยาเคลือบสีที่เหมาะกับรถของตัวเองนะครับ

จำไว้ว่า การดูแลรักษารถไม่ได้เป็นเพียงแค่การรักษามูลค่าของรถเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงความรักและใส่ใจต่อสิ่งที่เราเป็นเจ้าของด้วย ลองเลือกน้ำยาขัดสีรถยนต์ที่คุณสนใจ แล้วมาดูแลรถคันโปรดของคุณกันเถอะครับ รับรองว่าคุณจะรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ได้ขับรถออกไปบนท้องถนนแน่นอน!

สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าไม่ว่าคุณจะเลือกใช้น้ำยาขัดสีรถ ยี่ห้อไหนดี สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี แล้วรถของคุณจะอยู่กับคุณไปได้อีกนานแสนนานครับ!

3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023

10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก ปี 2023

More Contents

More Cars