การเลือกน้ำมันเครื่องดีเซลที่เหมาะสมนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสมรรถนะและอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยียานยนต์มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลที่จำเป็น พร้อมทั้งเคล็ดลับในการเลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์ให้เหมาะสมกับความต้องการ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันเครื่องยี่ห้อไหนดีได้อย่างมั่นใจ
น้ำมันเครื่องดีเซล คืออะไร ?
น้ำมันเครื่องดีเซลคือน้ำมันหล่อลื่นที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างจากเครื่องยนต์เบนซินหลากหลายประการ เช่น อัตราการอัดที่สูงกว่า อุณหภูมิการเผาไหม้ที่สูงขึ้น และการปล่อยควันและเขม่าที่มากกว่า ดังนั้นน้ำมันเครื่องดีเซลจึงต้องมีความสามารถพิเศษ ทั้งในด้านการทนต่อความร้อนสูง การชะล้างเขม่า การป้องกันการกัดกร่อนของกรดที่เกิดจากการเผาไหม้น้ำมันดีเซล รวมถึงการหล่อลื่นอย่างทั่วถึงแม้ในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูงและแรงอัดสูง
ประเภทของน้ำมันเครื่องดีเซล
ประเภทของน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลมีไม่กี่แบบนัก แต่แต่ละประเภทต่างมีคุณสมบัติและขอบเขตการใช้งานที่แตกต่างกันไป เพื่อให้สามารถเลือกใช้ประเภทน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับยานพาหนะได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องทำความเข้าใจลักษณะเด่นและความแตกต่างของน้ำมันเครื่องแต่ละชนิด
น้ำมันเครื่องดีเซลแบบ xW-30
น้ำมันเครื่องประเภทนี้เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ที่ต้องการสมรรถนะในการหล่อลื่นสูงที่อุณหภูมิปกติ ค่าความหนืดของน้ำมันที่ระดับ xW-30 จะช่วยให้การไหลเวียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ราคาน้ำมันเครื่องประเภทนี้อยู่ในระดับปานกลางและมีระยะการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับยานพาหนะทั่วไป
น้ำมันเครื่องดีเซลแบบ xW-40
แบบ xW-40 เหมาะกับเครื่องยนต์ดีเซลที่มีอายุใช้งานมาแล้วระยะหนึ่งหรือต้องปฏิบัติงานภายใต้สภาวะอากาศร้อน ค่าความหนืดที่สูงขึ้นของน้ำมันเครื่องยี่ห้อนี้จะช่วยปกป้องชิ้นส่วนได้ดีกว่า แต่ในทางกลับกัน ราคาประมาณอาจสูงกว่าแบบ xW-30 เล็กน้อย การเลือกใช้ประเภทน้ำมันเครื่องนี้จะช่วยยืดระยะการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานขึ้น
น้ำมันเครื่องดีเซลแบบ xW-50
น้ำมันเครื่องรถยนต์ชนิดนี้มีค่าความหนืดสูงสุดเมื่อเทียบกับประเภทอื่น ๆ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่หรือต้องทำงานในสภาวะที่หนักหน่วงเป็นพิเศษ ราคาประมาณของน้ำมันดีเซลประเภทนี้จัดอยู่ในระดับสูง แต่ก็ช่วยรับประกันระยะการใช้งานและคุ้มครองอายุของเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม
คำแนะนำในการเลือกน้ำมันเครื่องดีเซลที่เหมาะสม
ในการตัดสินใจเลือกน้ำมันเครื่องดีเซลที่มีความเหมาะสมกับยานพาหนะของตนเองมากที่สุด ผู้ใช้ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้อย่างรอบด้าน:
- ค่าความหนืด: ตัวเลขความหนืดควรสอดคล้องกับข้อแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์และเหมาะกับสภาพภูมิอากาศที่ใช้งาน
- มาตรฐาน API: มาตรฐานที่สูงกว่าแสดงถึงคุณภาพที่ดีกว่า เช่น API CK-4 จัดเป็นมาตรฐานขั้นสูงที่สุดในปัจจุบัน
- ประเภทน้ำมันเครื่อง: ระหว่างน้ำมันเครื่องธรรมดา กึ่งสังเคราะห์ และสังเคราะห์เต็มรูปแบบ โดยทั่วไปน้ำมันสังเคราะห์จะให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าแต่ราคาก็สูงกว่า
- อายุการใช้งานของรถ: รถใหม่อาจจำเป็นต้องใช้สูตรน้ำมันเครื่องเฉพาะที่รองรับมาตรฐานการควบคุมมลพิษสูง ส่วนรถเก่าอาจเน้นไปที่การชะล้างและปกป้องความสึกหรอเป็นหลัก
- รูปแบบการใช้งาน: การบรรทุกน้ำหนักมากหรือการขับขี่ในสภาวะที่ร้อนอบอ้าวเป็นประจำ อาจต้องเลือกใช้น้ำมันเครื่องสูตรพิเศษที่ทนทานต่อการใช้งานหนัก
นอกจากนี้ ควรตรวจสอบคู่มือการใช้งานหรือสอบถามผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับยี่ห้อที่แนะนำสำหรับรุ่นรถของคุณ และอย่าลืมเปรียบเทียบราคาน้ำมันเครื่องจากหลายช่องทางเพื่อหาข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุด
10 น้ำมันเครื่องดีเซล ยอดนิยมแห่งปี 2024 พร้อมคำแนะนำสำหรับการเลือกใช้
น้ำมันเครื่องถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยหล่อลื่นและปกป้องเครื่องยนต์รถยนต์ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล การเลือกใช้น้ำมันเครื่องดีเซลที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาสมรรถนะและยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
ในบทความนี้ เราได้รวบรวมข้อมูล 10 ยี่ห้อน้ำมันเครื่องดีเซลคุณภาพเยี่ยมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2024 พร้อมทั้งแนะนำเทคนิคการเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะกับรถของคุณ เพื่อให้คุณสามารถดูแลรถคันโปรดของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
1. Castrol Magnatec Pick-Up 10W-30
Castrol เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อยอดนิยมในตลาดน้ำมันเครื่องรถยนต์ โดยรุ่น Magnatec Pick-Up 10W-30 ถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้ระบบคอมมอนเรลโดยเฉพาะ คุณสมบัติเด่นของน้ำมันเครื่องตัวนี้ คือการใช้เทคโนโลยี “Intelligent Molecules” ซึ่งเป็นโมเลกุลอัจฉริยะที่ช่วยให้มอเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์ ทำให้ปกป้องเครื่องยนต์ดีเซลได้อย่างทรงพลังภายใต้แรงดันสูง และอุณหภูมิสูง
คุณสมบัติ
- เกรด: สังเคราะห์ 100%
- ค่าความหนืด: 10W-30
- ราคา: 1,100 บาทต่อ 6 ลิตร
จุดเด่น
- พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรล
- ผสานเทคโนโลยีโมเลกุลอัจฉริยะ “Intelligent Molecules” ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่การสตาร์ท
- ปกป้องเครื่องยนต์ดีเซลภายใต้ความดันและอุณหภูมิสูงได้อย่างดีเยี่ยม
2. LIQUI MOLY Special TEC AA 5W-30
LIQUI MOLY นำเสนอผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องระดับพรีเมี่ยมอย่าง Special TEC AA 5W-30 ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเครื่องยนต์รถยนต์สมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นของรถญี่ปุ่นและอเมริกัน น้ำมันเครื่องรุ่นนี้มีคุณสมบัติในการหล่อลื่นที่เหนือชั้น ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นแม้ในสภาวะอุณหภูมิต่ำ ช่วยประหยัดน้ำมันดีเซล เพิ่มอัตราเร่ง แรงบิดได้อย่างทันทีทันใด พร้อมทั้งยังช่วยรักษาความสะอาดของชิ้นส่วนสำคัญภายในเครื่องยนต์อีกด้วย
คุณสมบัติ
- เกรด: สังเคราะห์
- ค่าความหนืด: SAE 5W-30
- ราคา: 580 บาทต่อ 1 ลิตร
จุดเด่น
- น้ำมันเครื่องพรีเมี่ยมที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์เครื่องยนต์สมัยใหม่ โดยเฉพาะรถญี่ปุ่นและอเมริกัน
- มีคุณสมบัติการหล่อลื่นชั้นเลิศ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานลื่นไหลแม้ในอุณหภูมิต่ำ
- ประหยัดน้ำมันดีเซล เร่งความเร็วและแรงบิดได้ทันที
- รักษาความสะอาดของชิ้นส่วนสำคัญภายในเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี
3. Valvoline Diesel Synthetic
น้ำมันเครื่อง Diesel Synthetic จาก Valvoline เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ที่ผลิตด้วยกระบวนการ Tri-synthetic และใช้สาร Poly Alpha Olefins (PAO) ช่วยยกระดับคุณภาพสูงกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ทั่วไป ด้วยสูตรพิเศษนี้ทำให้น้ำมันเครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในอุณหภูมิต่ำและสูง เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้ในสภาวะหนัก ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุกหรือรถยนต์เพื่อพาณิชย์ อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของรถของคุณได้ยาวนานยิ่งขึ้น
คุณสมบัติ
- เกรด: สังเคราะห์ 100%
- ค่าความหนืด: SAE 5W-30
- ราคา: 2,150 บาท ต่อ 6 ลิตร
จุดเด่น
- สังเคราะห์ 100% ด้วยกรรมวิธี Tri-synthetic และสาร PAO
- คุณภาพเหนือกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ทั่วไป
- ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งในสภาพอากาศหนาวเย็นและร้อนจัด
- เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่ทำงานหนัก เช่น ในรถบรรทุกหรือรถเพื่อการพาณิชย์
- ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น
4. PTT Dynamic Commonrail
PTT Dynamic Commonrail เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้ระบบคอมมอนเรล โดยผลิตจากน้ำมันพื้นฐานคุณภาพสูง เพื่อให้ฟิล์มน้ำมันมีความแข็งแรง และปกป้องเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารเพิ่มประสิทธิภาพที่ทำให้สะอาดเครื่องยนต์ ช่วยเพิ่มการตอบสนองและประหยัดน้ำมันดีเซลได้อีกด้วย น้ำมันเครื่อง PTT รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับรถปิกอัพ รถ SUV หรือรถที่ใช้ในเชิงพาณิชย์
คุณสมบัติ
- เกรด: สังเคราะห์ 100%
- ค่าความหนืด: SAE 5W-30 / SAE 5W-40
- ราคา: 1,019 บาทต่อ 6 ลิตร
จุดเด่น
- สังเคราะห์ 100% เพื่อเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลโดยเฉพาะ
- ผลิตด้วยน้ำมันเบสคุณภาพเยี่ยม สร้างฟิล์มน้ำมันแข็งแกร่ง ปกป้องเครื่องยนต์ได้อย่างดีเลิศ
- ประกอบด้วยสารเสริมประสิทธิภาพ ขจัดสิ่งสกปรกในเครื่องยนต์ เพิ่มการตอบสนองและประหยัดน้ำมันดีเซล
- เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรถปิกอัพ SUV และรถเพื่อการพาณิชย์
5. Mobil 1 Turbo Diesel 5W-40
Mobil เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในด้านคุณภาพและประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องรถยนต์ และรุ่น Mobil 1 Turbo Diesel 5W-40 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเครื่องยนต์ดีเซลในรถปิกอัพและ SUV เป็นหลัก ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดทำให้น้ำมันเครื่องตัวนี้ให้การปกป้องที่เหนือชั้น สำหรับเครื่องยนต์ใหม่ที่มีระบบควบคุมไอเสีย รวมถึงยังเหมาะกับเครื่องยนต์รุ่นเก่าที่ผ่านการใช้งานอย่างหนักหน่วงมาก่อน
คุณสมบัติ
- เกรด: สังเคราห์แท้
- ค่าความหนืด: SAE 5W-40
- ราคา: 2,879 บาทต่อ 6 ลิตร
จุดเด่น
- สังเคราะห์แท้ 100% ออกแบบมาสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลในรถกระบะและ SUV
- ใช้เทคโนโลยีล่าสุดเพื่อการปกป้องขั้นสูงสุด สำหรับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่มีระบบควบคุมมลพิษ
- เหมาะสมกับเครื่องยนต์รุ่นเก่าที่ผ่านการใช้งานอย่างหนักมาแล้ว
6. Shell Helix Ultra Diesel 0W-40
Shell เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ชั้นนำที่ผลิตน้ำมันเครื่องรถยนต์คุณภาพสูง และ Helix Ultra Diesel 0W-40 ก็ถือเป็นน้ำมันเครื่องสูตรที่ดีที่สุดของ Shell สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูง น้ำมันเครื่องรุ่นนี้ผลิตจากเทคโนโลยี Shell PurePlus โดยใช้ก๊าซธรรมชาติในการสร้างน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์ ทำให้มีคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Active Cleansing ที่ทำความสะอาดเครื่องยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง รักษาสมรรถนะ และยืดอายุของเครื่องยนต์ดีเซล
คุณสมบัติ
- เกรด: สังเคราะห์แท้
- ค่าความหนืด: SAE 0W-40
- ราคา: 1,800 บาทต่อ 4 ลิตร
จุดเด่น
- น้ำมันเครื่องสูตรเรือธงของ Shell สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูง
- ใช้เทคโนโลยี Shell PurePlus ผลิตน้ำมันเบสสังเคราะห์คุณภาพสูงจากก๊าซธรรมชาติ
- ผสานเทคโนโลยี Active Cleansing เพื่อทำความสะอาดเครื่องยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง
- ช่วยรักษาประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ดีเซล
7. Furio Fully Synthetic Diesel 5W-30
น้ำมันเครื่องดีเซลรุ่นล่าสุดจาก Furio ที่ใช้เทคโนโลยี Respoplex ในการผลิตน้ำมันสังเคราะห์คุณภาพสูง น้ำมันเครื่องตัวนี้ทำงานได้ดีเยี่ยมในทุกมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดเครื่อง ป้องกันการสึกหรอ ประหยัดน้ำมันดีเซล และการหล่อลื่นที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะสูงขึ้น เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล
คุณสมบัติ
- เกรด: สังเคราะห์แท้
- ค่าความหนืด: SAE 5W-30
- ราคา: 1,889 บาทต่อ 6 ลิตร
จุดเด่น
- ผลิตด้วยเทคโนโลยี Respoplex สร้างน้ำมันสังเคราะห์คุณภาพสูง
- โดดเด่นในด้านการทำความสะอาด ป้องกันการเสื่อมสภาพ ประหยัดน้ำมันดีเซล และหล่อลื่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์
- เหมาะสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ดีเซลทุกรูปแบบ
8. Delo Sports Synthetic Blend SAE 15W-40
Delo Sports Synthetic Blend SAE 15W-40 เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่ใช้เทคโนโลยีไอโซซิน ซึ่งทำให้มีคุณสมบัติในการทนความร้อนสูง น้ำมันเครื่องรุ่นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษากำลังและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังช่วยลดการสูญเสียของน้ำมันหล่อลื่นได้เป็นอย่างดี ทำให้เครื่องยนต์ของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะใดก็ตาม
คุณสมบัติ
- เกรด: กึ่งสังเคราะห์
- ค่าความหนืด: SAE 15W-40
- ราคา: 850 บาทต่อ 6 ลิตร
จุดเด่น
- น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่ใช้เทคโนโลยีไอโซซิน
- ทนทานต่อความร้อนสูงได้เป็นอย่างดี
- ช่วยรักษาพลังและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์
- ลดการสูญเสียน้ำมันหล่อลื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์
9. D3 Common Rail
D3 เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าจับตามองในตลาดน้ำมันเครื่องดีเซล โดยรุ่น D3 Common Rail เป็นน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์เกรดพรีเมียมที่ผลิตตามมาตรฐาน API CH-4/SJ ซึ่งสามารถรองรับการทำงานหนักของเครื่องยนต์ดีเซลได้เป็นอย่างดี ตัวน้ำมันเครื่องมีให้เลือกสองความหนืด คือ 15W-40 และ 20W-50 เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานของรถแต่ละคัน น้ำมันเครื่องตัวนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังคงได้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสูง
คุณสมบัติ
- เกรด: กึ่งสังเคราะห์
- ค่าความหนืด: SAE 15w-40
- ราคา: 720 บาทต่อ6 ลิตร
จุดเด่น
- น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์เกรดพรีเมียมที่ผลิตตามมาตรฐาน API CH-4/SJ
- รองรับการทำงานหนักของเครื่องยนต์ดีเซลได้อย่างดีเยี่ยม
- มีให้เลือกสองค่าความหนืด คือ 15W-40 และ 20W-50 เพื่อความเหมาะสมกับการใช้งานของรถแต่ละประเภท
- ตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยยังคงได้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสูง
10. FURIO POWER DIESEL CF-4/SJ 20W-50
ฟูริโอ พาวเวอร์ ดีเซล CF-4/SJ 20W50 เป็นน้ำมันเครื่องคุณภาพสูง ที่ได้รับการพัฒนามาเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถปกป้องเครื่องยนต์ดีเซลได้อย่างดีเยี่ยม แม้ว่าจะต้องทำงานหนักเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็ตาม น้ำมันเครื่องตัวนี้เหมาะสำหรับใช้กับรถยนต์หลากหลายประเภท เช่น รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ รถทัวร์ ตลอดจนรถที่ติดตั้งระบบเชื้อเพลิงทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น LPG, NGV หรือ CNG ก็สามารถใช้ได้เป็นอย่างดี
คุณสมบัติ
- เกรด: สังเคราะห์แท้
- ค่าความหนืด: SAE 20W-50
- ราคา: 1,889 บาทต่อ 6 ลิตร
จุดเด่น
- ผลิตจากสารเพิ่มคุณภาพชั้นดี ทำให้ได้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เกรดรวมคุณภาพสูง
- ฟิล์มน้ำมันมีความแข็งแรง ลื่นไหลได้ดี ช่วยปกป้องเครื่องยนต์แม้ต้องทำงานหนักเป็นเวลานาน
- รักษาความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นได้ดี และฟิล์มน้ำมันเคลือบได้แนบเนียน
- ป้องกันการเกิดคราบเหนียวและน้ำมันเป็นโคลน ซึ่งเป็นสาเหตุให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วและทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
- เหมาะสำหรับใช้กับรถยนต์หลากหลายประเภท เช่น รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ รถบัส รถทัวร์ รวมถึงรถที่ติดตั้งระบบเชื้อเพลิงทางเลือกอย่าง LPG, NGV และ CNG
เปรียบเทียบยี่ห้อ จุดเด่น ปริมาณ และราคา
| Castrol Magnatec Pick-Up 10W-30 | ใช้เทคโนโลยีโมเลกุลอัจฉริยะ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ | 6 ลิตร | 1,100 บาท |
| LIQUI MOLY Special TEC AA 5W-30 | เหมาะสำหรับเครื่องยนต์สมัยใหม่ โดยเฉพาะรถญี่ปุ่นและอเมริกัน | 1 ลิตร | 580 บาท |
| Valvoline Diesel Synthetic | เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่ทำงานหนัก | 6 ลิตร | 2,150 บาท |
| PTT Dynamic Commonrail | มีคุณสมบัติในการทำความสะอาด เพิ่มการตอบสนอง | 6 ลิตร | 1,019 บาท |
| Mobil 1 Turbo Diesel 5W-40 | ที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุด เพื่อการปกป้องขั้นสูงสุด | 6 ลิตร | 2,879 บาท |
| Shell Helix Ultra Diesel 0W-40 | รักษาประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ดีเซล | 4 ลิตร | 1,800 บาท |
| Furio Fully Synthetic Diesel 5W-30 | ป้องกันการสึกหรอ ประหยัดน้ำมัน และหล่อลื่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ | 6 ลิตร | 1,889 บาท |
| Delo Sports Synthetic Blend SAE 15W-40 | ใช้เทคโนโลยีไอโซซิน ทนทานต่อความร้อนสูง | 6 ลิตร | 850 บาท |
| D3 Common Rail | เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ต้องการประหยัดค่าใช้จ่า | 6 ลิตร | 720 บาท |
| FURIO POWER DIESEL CF-4/SJ 20W-50 | เหมาะสำหรับใช้กับรถยนต์หลากหลายประเภท | 6 ลิตร | 1,889 บาท |
ความถี่ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องดีเซล
ตามหลักการทั่วไป ผู้ใช้ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องดีเซลทุก ๆ 6 เดือน หรือตามระยะทางเฉลี่ยที่กำหนด ซึ่งจะอยู่ที่ราว 5,000 – 10,000 กิโลเมตรโดยประมาณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสูตรและประเภทของน้ำมันเครื่องที่เลือกใช้ สำหรับการใช้งานในสภาวะที่หนักหน่วงผิดปกติ อาจจำเป็นต้องลดระยะเวลาหรือระยะทางในการเปลี่ยนถ่ายให้สั้นลงเพื่อรักษาสภาพให้มีความพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องดีเซล เท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องดีเซลอาจแตกต่างกันอย่างมากตามสถานที่ที่ไปใช้บริการ ราคาประมาณอยู่ที่ 500 – 2,500 บาทสำหรับการเข้ารับบริการที่ร้านซ่อมทั่วไป ในขณะที่ศูนย์บริการของผู้ผลิตอาจคิดค่าบริการเริ่มต้นที่ 2,500 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพและปริมาณน้ำมันเครื่องที่เติม รวมถึงค่าแรงและค่าบริการเสริมอื่น ๆ ที่อาจมีเพิ่มเติม
ถ้าไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องดีเซลตามกำหนด จะเป็นยังไง
การไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องดีเซลตามระยะการใช้งานที่แนะนำสามารถส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อสมรรถนะและอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ในระยะยาว เช่น การเร่งความเร็วที่ไม่สมบูรณ์ การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น เครื่องยนต์มีอาการความร้อนสูงผิดปกติ และถ้าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้
ซึ่งอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนหัวฉีดหรือเสื้อสูบใหม่ทั้งชุด นับเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมากที่สามารถหลีกเลี่ยงได้หากมีการดูแลรักษาเครื่องยนต์ดีเซลอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ
บทสรุป
การเลือกใช้น้ำมันเครื่องดีเซลที่มีคุณภาพสูง เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสมรรถนะและอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ในรถคุณ บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ 10 ยี่ห้อน้ำมันเครื่องดีเซลยอดนิยมในปี 2024 พร้อมทั้งเทคนิคในการเลือกน้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับความต้องการของรถ
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันเครื่องดีเซลที่ดีที่สุดสำหรับรถคันโปรดของคุณ อย่าลืมศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบตัวเลือกต่างๆ ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้น้ำมันเครื่องที่คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด
3 ประกันรถยนต์ ค่ายไหนดี อันไหนคุ้มค่า ฉบับปี 2023
10 อันดับ ยางรถยนต์ขอบ17 ยี่ห้อไหนดี นุ่มเงียบ ราคาถูก
7 กล้องติดรถยนต์ รุ่นไหนดี ประจำปี 2024 ภาพสวย คมชัด ราคาไม่แพง
น้ำมันเครื่องเบนซิน ยี่ห้อไหนดี เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ของคุณ
